เมื่อไม่นานมานี้ แบรนด์เครื่องเสียงสุดวินเทจอย่าง Marshall ก็ได้เปิดตัวลำโพงรุ่นใหม่อย่าง Marshall Woburn 3 พร้อมกับลำโพงอีกสองรุ่นอย่าง Marshall Stanmore III และ Marshall Acton III ซึ่งในเจนเนเรชันที่สามนี้ Marshall Woburn 3 ก็ยังคงดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ของลำโพง Marshall แต่สเปกภายในนั้นบอกเลยว่ายกระดับขึ้นมาจากรุ่นก่อนหน้าแบบสุดๆ และยังพ่วงด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะทำให้ลำโพง Marshall Woburn 3 เจ๋งยิ่งกว่าเดิม ซึ่งมันจะเจ๋งได้ขนาดไหนนั้น เรามาดูไปพร้อมๆ กันเลย

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอคอยกันมากว่าเกือบสี่ปี ในที่สุด Marshall Woburn 3 นั้นก็ได้เผยโฉยออกมาให้เหล่าชาวร็อกทั้งหลายได้ยลโฉมกันแล้ว โดยที่ดีไซน์ของ Marshall Woburn III ก็ยังคงเหมือนกับรุ่น Marshall Woburn II แทบจะทุกตรง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปสุดเลยก็คือระบบภายที่ได้รับการยกเครื่องแบบขนานใหญ่สุดๆ จนเรียกได้ว่านอกจากจะเป็นลำโพงที่ใหญ่ที่สุดในไลน์อัปปัจจุบัน ยังเป็นหนึ่งในลำโพงที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Marshall เลยก็ว่าได้

คุณภาพเสียงกระหึ่มบ้านกว่าที่เคย

ลำโพง Marshall Woburn III มาพร้อมกับเวทีเสียงที่ทาง Marshall เคลมว่ามีมิติและครอบคลุมมากกว่ารุ่นก่อนหน้า และเติมเต็มเสียงที่เอกลักษณ์ของแบรนด์ให้กระหื่มกว่าที่เคย ด้วยการออกแบบระบบไดร์เวอร์ใหม่แบบยกเครื่อง ด้วยการใช้ไดร์เวอร์ 3 ทางรูปแบบใหม่ที่มอบเสียงเบสที่ลึกและเสียงกลางที่ใสกว่าเดิม ด้วยไดรเวอร์เบส Woofer แรงขับ 90 วัตต์ขนาด 6 นิ้วที่อยู่กลางตัวลำโพง ขนาบข้างด้วยดอกเสียง Tweeter 3/4 นิ้ว และดอกเสียงกลางขนาด 2 นิ้ว แรงขับ 15 วัตต์อย่างละ 2 ตัวที่จะขับเสียงทุกย่างออกมาได้อย่างทรงพลังสุดๆ พร้อมกับการปรับมุมการหันของไดรเวอร์เพื่อให้เสียงจากลำโพงนั้นกระจายและครอบคลุมไปทั่วทุกมุมห้อง

นอกจากนี้ ลำโพง Marshall Woburn III ยังมาพร้อมนวัตกรรมใหม่นั่นก็คือ Placement Compensation หรือเทคโนโลยีชดเชยตำแหน่งการวาง ที่จะทำให้ลำโพง Marshall Woburn 3 ตัวนี้สามารถปรับ EQ ให้ชดเชยเสียงได้อย่างเหมาะสมกับตำแหน่งที่วาง โดยการตรวจจับการสะท้อนของพื้นผิวสรอบตัวลำโพง ทำให้ไม่ว่าจะยกลำโพงไปไว้ที่มุม เราก็จะยังได้เสียงที่ยอดเยี่ยมไม่มีแผ่ว ควบคู่ไปกับ Dynamic Loudness เทคโนโลยีที่จะช่วยปรับสมดุลเสียงให้พอดีกับความดังของลำโพง ไม่ว่าจะเปิดดังหรือเบา คุณภาพเสียงก็จะไม่เพี้ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน และสำหรับใครที่ชอบฟังเพลงยามดึก แล้วไม่อยากรบกวนคนรอบข้าง Marshall Woburn 3 ก็มีฟีเจอร์ Night Mode ที่จะเข้ามาลดช่วงเสียงที่ดังลง และรักษาคุณภาพเสียงย่านที่เบาลงเอาไว้ ให้เราได้เพลิดเพลินไปกับการฟังเพลงได้อย่างเต็มอื่นในทุกช่วงเวลา

การเชื่อมต่อแบบใหม่ กับ HDMI และ Bluetooth 5.2

และส่วนของการเชื่อมต่อเองก็มีการเปลี่ยนแปลงเช่นเดียวกัน เพราะลำโพง Marshall Woburn 3 จะมาพร้อมกับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.2 ที่มีความเสถียรแบบสุดๆ หรือจะยังเชื่อมต่อแบบมีสายผ่านตัวเลือกพอร์ตทั้งสามได้แก่ Aux 3.5 มม, RCA และพอร์ตใหม่อย่าง HDMI สำหรับเชื่อมต่อกับทีวีของคุณและใช้งาน Night Mode นอกจากการเชื่อมต่อ Player ของเราที่มีให้เลือกหลากหลายแล้ว Marshall Woburn III ยังมีฟีเจอร์ Multi Stream ที่จะให้คุณสามารถเชื่อมต่อลำโพงจาก Player ได้มากกว่า 1 ตัว หรือจะใช้ Broadcast ในการกระจายสัญญาณเสียงจากลำโพงไปยังลำโพงก็ได้เหมือนกัน

รักในเสียงเพลง และรักษ์โลกของเรา

และในส่วนของดีไซน์และวัสดุของลำโพง Marshall Woburn III ก็ยังคงดีไซน์ตู้แอมป์สุดวินเทจที่ทุกคนหลงไหลอยู่เช่นเคย แต่ยังรับกับกระแสโลกปัจจุบัน โดยมีการใช้วัสดุจากการรีไซเคิลถึง 70% และวัสดุที่นำมาใช้นั้นจะเป็นวัสดุ Vegan ที่ไม่ได้ทำอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต และไม่มีชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติก PVC ที่ย่อยสลายได้ยากในการประกอบนั้น เรียกว่านอกจาก Marshall Woburn 3 จะโดดเด่นในเรื่องเสียงแล้ว ยังรักษ์โลกด้วยอีกต่างหาก

สเปกเด่นของ Marshall Woburn 3

• ดีไซนระบบไดร์เวอร์ใหม่ให้เสียงที่ดียิ่งขึ้น
• Placement Compensation ชดเชยคุณภาพเสียงจากตำแหน่งการวาง
• Dynamic Loudness สมดุลเสียงให้พอดีกับความดังของลำโพง
• มาพร้อมกับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 5.2
• รองรับการเชื่อมต่อแบบมีสาย 3.5มม., RCA และ HDMI
• มีฟีเจอร์ Multi Stream และ Broadcast ในการเชื่อมต่อลำโพงหลายตัว
• ผลิตด้วยวัสดุ Vegan และวัสดุรีไซเคิลกว่า 70%

และสำหรับใครที่สนใจเจ้าลำโพง Marshall Woburn 3 บอกเลยว่าอดใจรออีกไม่นาน เพราะลำโพง Marshall Woburn 3 จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 23 มิถุนายนนี้เอง โดยตัวลำโพงนั้นจะมีให้เลือกอยู่สองสีด้วยกันนั่นก็คือ สีดำ และสีครีมวินเทจที่จะวางจำหน่ายต่อในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ บอกเลยว่าใครที่เป็นสาวกลำโพง Marshall ต้องมีไว้ครอบครองสักตัวแล้ว ส่วนเจ้าลำโพงบ้านจะเข้ามายัง Mercular.com เมื่อไหร่นั้น เราจะรีบบอกทุกคนให้ไวเลย ส่วนตอนนี้ทางทีมงานขอตัวลาไปก่อน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะทุกคน