การอัพเกรดครั้งใหม่ ไปได้ไกลกว่าเดิม

สำหรับ TicWatch Pro 4G/LTE แล้วถือเป็นนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่จากแบรนด์ Mobvoi ที่ได้รับการอัพเกรดจากรุ่นเดิม TicWatch Pro ในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะการใช้งานอินเตอร์เน็ตได้เองผ่านซิมอินเตอร์เน็ต ซึ่งถ้าใครเคยใช้งาน iPad มาก่อนอาจจะคุ้นเคยกันดีกับการใช้งานรูปแบบนี้ โดยรวมแล้วการอัพเกรดในส่วนนี้ทำให้ TicWatch Pro 4G/LTE สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการออกหรือรับสายโทรเข้าได้เอง ผ่านการใช้งานไมโครโฟนและลำโพงที่มีอยู่ติดตัว รวมถึงการส่งข้อความ SMS ได้เองและการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆ และการเข้าถึงข้อมูลอื่นๆ นอกจากนี้ TicWatch Pro 4G/LTE ยังได้รับการอัพเกรดในส่วนของแรมไปอีกเท่าตัวจากที่ของเก่ามีอยู่ที่ 512 MB เป็น 1 GB

แข็งแกร่งและทนทานทุกการใช้งาน

ในส่วนของการออกแบบและวัสดุนั้นตัวนาฬิกามีขนาดที่บางลงจากเดิมและน้ำหนักที่เบาลง จาก 58.5 กรัมลดลงไปเหลือที่ 47.4 กรัม และยังใช้วัสดุประกอบเป็นอะลูมิเนียมเพิ่มเข้ามาในส่วนของด้านหลังนาฬิกา โดยวัสดุประกอบในส่วนอื่นๆ อย่างพลาสติคโพลีเอไมด์และสแตนเลสสตีลยังคงเดิม นอกจากนี้ในรุ่น TicWatch Pro 4G/LTE ยังได้เสริมมาตรฐานการป้องกันใหม่เข้ามาเป็น MIL-STD 810G ซึ่งเป็นมาตรฐานความทดทานจากกองทัพสหรัฐ ทำให้นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้สามารถทนต่ออุณหภูมิ แรงกดอากาศ แสงอาทิตย์ ความชื้น ฝุ่นและทรายได้มากกว่าเดิม หรือจะเอาไปใส่ว่ายน้ำก็ได้เพราะยังมีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นในระดับ IP68 เสริมด้วยการใช้งานในการว่ายน้ำ ทำให้ TicWatch Pro 4G/LTE สามารถสวมใส่ขณะว่ายน้ำตื้นๆ ได้สบายหรือจะเป็นการอาบน้ำก็ได้ สำหรับหน้าจอนั้นทาง Mobvoi ได้ใช้ระบบหน้าจอสองชั้นเข้ากับ TicWatch Pro 4G/LTE ที่จะใช้หน้าจอแบบ LCD ซึ่งกินพลังงานต่ำและใช้สำหรับโหมด Essential Mode วางเหนือหน้าจอแบบ AMOLED แบบปกติ ทำให้อายุการใช้งานของนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นนี้สามารถใช้ได้นานสูงสุดตั้งแต่ 5 วันไปจนถึง 30 จากการสำหรับโหมดการใช้งาน Smart Mode และ Essential Mode 

จริงจังเรื่องสุขภาพมากขึ้น ฟังก์ชั่นประจำวันใช้งานได้จริง

ในเรื่องของการออกกำลังกายนั้น นอกจากโหมดการออกกำลังกายที่มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบแล้ว TicWatch Pro 4G/LTE ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น TicMotion ซึ่งเป็นการตรวจจับการออกกำลังกายแบบอัตโนมัติจากการประมวลผลการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน ผู้สวมใส่จึงสามารถออกกำลังกายได้ทันทีโดยไม่จำเป็นที่จะต้องคลิกใช้งานใดๆ เลยกับนาฬิกา โดยในปัจจุบัน TicMotion สามารถจดจำรูปแบบการออกกำลังกายได้อัตโนมัติทั้งการเดินเร็วและวิ่ง การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำและการนอน สำหรับเรื่องสุขภาพนั้น ฟังก์ชั่นการตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจนั้นยังทำได้ละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างข้อมูลภาพสรุปข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจตลอดเจ็ดวัน หรือจะเป็นการเปรียบเทียบในแต่ละวันว่ามีอัตราการเต้นของหัวใจปกติที่เท่าไหร่บ้าง รวมถึงข้อมูลอื่นๆ อย่างแคลอรี่ที่เผาผลาญและก้าวเดินในแต่ละวัน นอกจากนี้ TicWatch Pro 4G/LTE ยังสามารถเตือนอัตราการเต้นของหัวใจที่สูงผิดปกติทั้งในเวลาทั่วไปและขณะออกกำลังกายได้อีกด้วย ในเรื่องของการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันนั้น เนื่องจากว่า TicWatch Pro 4G/LTE เป็นนาฬิกาอัจฉริยะที่ใช้ระบบปฎิบัติการ WearOS จาก Google ทำให้โดยพื้นฐานแล้วตัวนาฬิกาเองสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาเสริมการใช้งานรวมถึงการซิงค์ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้จากบัญชี Google มาอยู่ในนาฬิกาได้ทันที นอกจากนี้นาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้ยังมี NFC จึงทำให้สามารถใช้งานการจ่ายเงินผ่าน Google Pay ได้อีกไปในตัว รวมถึงการใช้งาน Google Assistant ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือผ่านคำสั่งเสียง ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการตั้งนาฬิกาปลุกทั่วไปหรือการตั้งนัดหมายสำหรับการทำงานก็สามารถทำได้ โดยในราคาเปิดตัวของ TicWatch Pro 4G/LTE นั้นอยู่ที่ 398 เหรียญสหรัฐหรือตีเป็นเงินไทยราวๆ 12,000 บาทเท่านั้น โดยในตอนนี้ทางนาฬิกายังเปิดวางจำหน่ายผ่านการสั่งซื้อบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Mobvoi เท่านั้น สำหรับในประเทศไทยแล้วอาจจะต้องรอว่าผู้นำเข้าในไทยจะมีแผนนำ TicWatch Pro 4G/LTE เข้ามาภายในปีนี้ไหม แต่เมื่อไหร่ที่นาฬิกาอัจฉริยะเรือนนี้เข้ามาขายในไทย ทาง Mercular.com จะนำข่าวมาแจ้งให้ทราบแน่นอนครับ