หลังจากที่กดสั่งคัสคอมคีย์บอร์ดมาแล้ว ก็ได้เวลาหาสวิตซ์และคีย์แคปที่เข้าคู่กัน กดมันมือ สวิตซ์ที่เล็งไว้ก็กดสั่งเป็นที่เรียบร้อย แต่คีย์แคปนี่สิ มีหลายโปรไฟล์เหลือเกิน บางอันโค้ง บางอันนูน บางอันทรงแปลกตา

คีย์แคปดูเป็นอีกเรื่องที่หลายคนหนักใจเมื่อต้องสั่งซื้อ หากเป็นผู้เล่นที่ผ่านร้อนผ่านหนาว ลองผิดลองถูกกันมาพักใหญ่ คงมีโปรไฟล์คีย์แคปในใจอยู่แล้ว เพราะผ่านการกดมานับไม่ถ้วน แต่หากเป็นผู้เล่นใหม่ หรืออยากจะหลุดกรอบจากคีย์แคปทรงเดิมๆ ที่คุ้นตา ต้องเริ่มจากตรงไหน แล้วมันมีทั้งหมดกี่โปรไฟล์กันนะเจ้าคีย์แคป

วันนี้ Mercular ของพาทุกทุกคนไปทำความรู้จักคีย์แคปกันอีกสักหน่อย พร้อมอธิบายคร่าวๆ ให้แบ่งประเภทได้อย่างง่ายดายกับ “คีย์แคปมีทั้งหมดกี่โปรไฟล์ เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ” รีบอ่านรีบสั่ง ก่อนที่คีย์บอร์ดจะส่งถึงบ้านกัน

ก่อนที่จะไปจำแนกคีย์แคปออกเป็นหลายๆ โปรไฟล์หลังจากนี้ เราขอพูดถึงข้อมูลเล็กๆ น้อยๆ เพื่อให้การซื้อคีย์แคปของคุณไม่ต้องเจ็บตัวมากหากนี่เป็นครั้งแรกของคุณ แล้วทำไมต้องเจ็บตัว ก็ต้องบอกว่าจริงๆ แล้วการเลือกซื้อคีย์แคปไม่ใช่อะไรที่ทำได้ทันทีหากไม่มีข้อมูลของคีย์บอร์ดที่ตนเองกำลังใช้งาน และความเข้าใจคีย์แคปเบื้องต้น แล้วเหล่านี้คืออะไร ข้อมูลส่วนไหนบ้างที่ต้องทราบ มาดูกันครับ

โปรไฟล์คีย์แคปคืออะไร

โปรไฟล์คีย์แคปเป็นการแบ่งคีย์แคปออกจากกันด้วยการดีไซน์ หากลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าคีย์แคปที่ต่างโปรไฟล์จะให้ขนาดของคีย์แคปแต่ละตัวไม่เหมือนกัน ทั้ง ความโค้ง การลาดเอียงในแต่ละแถว พื้นที่สัมผัสด้านบนและเสียงครับ ฉะนั้นหากเราทราบโปรไฟล์ที่เราชอบ ก็จะทำให้การค้นหาคีย์แคปของเราแคบลงและง่ายยิ่งขึ้นครับ

แถวของคีย์แคป

แถวของคีย์แคปจะมีการเรียกที่ยังไม่ได้มีมาตรฐานมากนัก บางบอร์ดอาจเรียกแถวล่างสุดที่มี Spacebar ว่าแถวแรก หรือ R1 บางที่ก็เรียกไล่มาจากแถวบน ซึ่งตรงนี้เราขอเรียกแบบที่หลายคนเข้าใจกัน คือเริ่มจากแถวแรกครับ

แถวแรกในที่นี้ ก็ไม่ใช่แถวของปุ่มฟังก์ชัน หรือปุ่ม F เสียด้วย แต่เป็นแถวแรกที่มีปุ่มเปลี่ยนภาษาและตามมาด้วยตัวเลข ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น เราลองมาดูไล่ดูที่ตัวซ้ายสุดของแถวกันครับ

R0 : จะเป็นแถวบนสุดซึ่งอาจมีหรือไม่มีก็ได้ในปัจจุบันที่คีย์บอร์ด 65% เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ซึ่งเป็นแถวของปุ่มฟังก์ชัน หรือปุ่ม F1 - F12 ที่เราคุ้นเคยกัน

R1 : จะเป็นแถวแรกที่เริ่มต้นด้วยปุ่มเปลี่ยนภาษา หรือ สัญลักษณ์ ~ ตามมาด้วยปุ่มตัวเลข แต่การเข้ามาของคีย์บอร์ด 60% ก็ดันตัดส่วนนี้ออกไปเหมือนกัน แต่ให้หลายคนเข้าใจว่ามันเมื่อเทียบกับคีย์บอร์ดขนาด Full-Size มันคือ R1 ครับ

R2 : แถวนี้จะเริ่มจากปุ่ม Tab 

R3 : แถวนี้จะเริ่มจากปุ่ม Caps

R4 : แถวนี้จะเริ่มจากปุ่ม Shift

R5 : แถวสุดท้ายนี้จะเริ่มจากปุ่ม Control 

แม้ว่าคีย์บอร์ดจะเล็กลงอย่างไร แต่ปุ่มทางซ้ายมักจะไม่เปลี่ยนรูป หรือถูกเอาออกมากครับ ยกเว้นบอร์ดที่มีขนาดที่ 40% หรือต่ำกว่า ไม่รวมกับปุ่มที่เราไม่ใช้และเปลี่ยนมันด้วยตัวเองนะครับ เช่น การเปลี่ยนปุ่มเปลี่ยนภาษาในแถว R1 เป็น ESC ในการใช้งานคีย์บอร์ด 60% การที่เราทราบแถวหรือ Keyboard Rows นี้จะช่วยให้เราสามารถวางคีย์แคปได้ถูกช่องมากขึ้น เพราะคีย์บอร์ดแต่ละแถวจะมีการลาดเอียงในตัวบอร์ดเองไม่เหมือนกัน และหากใช้งานร่วมกับคีย์แคปที่มีความสูงไม่เท่ากันในแต่ละแถว หากใส่ผิด ระดับมันจะแปลกไป ตัวนี้สูง ตัวนี้ต่ำในแถวเดียว ส่งผลให้การพิมพ์ของเราไม่เข้ามือ 

ขนาดของคีย์แคป

เรื่องขนาดของคีย์แคปเองก็สำคัญไม่แพ้กันครับ ในกรณีที่มีคีย์แคปติดมากับคีย์บอร์ดเลยในชุด เราอาจรู้สึกว่าการซื้อคีย์แคปตัวใหม่ไม่ใช่เรื่องยากเท่าไหร่ ก็ขอแบบเหมือนเดิม แต่จริงๆ แล้ว หากใช้งานคีย์แคปที่มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ หรือใช้บอร์ดที่มีดีไซน์แปลกตาที่แบรนด์ใหญ่ๆ ชอบทำออกมาขาย จะเห็นว่าบางตัวไม่ได้มีขนาดเท่ากัน แม้จะเป็นคีย์เดียวกัน ตำแหน่งเดียวกันก็ตาม เราจึงต้องทราบวิธีการวัด และเข้าใจบอร์ดของตัวเองก่อนครับ

การนับขนาดคีย์แคป หน่วยจะเป็น U โดยขนาดที่ไม่ว่าคีย์แคปไหนก็ใช้ขนาดเท่าเดิมคือคีย์ตัวอักษร 

เราจะนับขนาดเป็น 1U = 1 คีย์ตัวอักษร

1.2U ส่วนมากจะเป็นปุ่ม Control, Windows Key, FN และ Alt 

1.5U จะเป็นปุ่ม Tab

1.75U ปุ่ม Caps

2.0U จะเป็นปุ่ม Backspace

2.25U จะเป็นปุ่ม Enter และปุ่ม Shift

6.25U / 7U จะเป็นปุ่ม Spacebar

ข้อมูลขนาดของคีย์แคปอันนี้จะอ้างอิงจากขนาดคีย์บอร์ดที่ใช้กันทั่วไป หลากหลาย และมีคนใช้จำนวนมาก บางคีย์บอร์ดมีขนาดแปลกไปกว่านี้อีก เช่น Spacebar แบ่งออกเป็น 2 ช่อง ซึ่งก็ต้องมองหาคีย์แคปที่มีขนาดและจำนวนที่เพียงพอต่อการใส่ให้เข้ากัน แต่ด้วยความที่มันแตกต่างกันเล็กน้อย บางครั้งเราไม่สามารถกะขนาดของคีย์แคปใช้อยู่ได้ด้วยสายตา หากไม่มั่นใจ หรือคีย์บอร์ดที่ใช้อยู่ตอนนี้ทางแบรนด์ไม่ได้บอกสเปกมาละเอียดขนาดนั้น ให้เราอ้างอิงจากปุ่มตัวอักษรแทน แล้ววางทาบกันในตัวที่เราไม่มั่นใจ 

แต่หากไม่ใช่บอร์ดที่มีดีไซน์หรือ Layout แปลกๆ หรือเล็กมากๆ มักจะใช้ขนาดเดียวกันเกือบหมดครับ และคีย์แคปส่วนมากที่ขายกัน ก็มักขายในขนาดเต็มสูบ คือมีหลายร้อนตัวในกล่องเดียว บางปุ่มอาจมีหลายตัวในกล่องแต่มีขนาดที่ต่างกันไป เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องไปซื้อคีย์แคปแยก แต่ยังไงก็ควรทราบและวัดคีย์แคปของตัวเองก่อนเลยครับ เพราะมีหลายคนมากที่เจ็บจากการซื้อคีย์แคปที่ไม่พอดีกับบอร์ดที่ตัวเองใช้งานอยู่

มาถึงสาระสำคัญของบทความนี้แล้วครับ หลังจากที่ทราบแล้วว่าคีย์บอร์ดแต่ละแถวมีความสูงไม่เท่ากัน และคีย์แต่ละคีย์เองก็มีขนาดไม่เหมือนกันในแต่ละ Layout ของคีย์บอร์ดแม้จะเป็นคีย์เดียวกัน ตำแหน่งเดียวกันก็ตาม

ในตอนนี้ที่คีย์บอร์ดกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้โปรไฟล์คีย์แคปมีออกมากันอย่างไม่หยุดหย่อน บางคนก็ทำคีย์แคปขึ้นมาเอง เป็นงานศิลปะบ้าง หรือบางแบรนด์ทำคีย์แคปทรงแปลกใหม่ออกมา จึงยากที่จะบอกทุกประเภทให้หมด แต่หากจะจำแนกประเภท สามารถทำได้เห็นภาพง่ายขึ้นครับ

Sculpted Keycap

คีย์แคปประเภทนี้จะเป็นคีย์ที่มีความสูง “ไม่เท่ากัน” ในแต่ละแถว นอกจากความลาดเอียงของคีย์บอร์ดแล้ว แต่ละแถวที่คีย์แคปใส่อยู่ จะมีความสูง การเอียง ความโค้งของมุมไม่เท่ากัน คีย์แคปประเภทนี้จะเข้านิ้วเป็นอย่างมาก เพราะขนาดที่ไม่เสมอกันทำให้เราวางมือได้เป็นระบบ และยังเป็นทรงคีย์แคปที่ใช้กันตั้งแต่สมัยก่อน ทำให้มันเข้ามือกับทุกคนง่าย คุ้นเคยนิ้วเป็นอย่างดี

โดยคีย์แคปทรง Sculpted Keycap เราได้คัดตัวอย่างตัวนิยมดังนี่ครับ

Cherry Profile : คีย์แคปที่หลายคนคุ้นเคยจากแบรนด์ GMK มีความหนา แน่น แต่ไม่สูง กดได้สบายมือและได้เสียงที่ทุ้มครับ

OEM Profile : คีย์แคปทรงมาตรฐานที่ถูกใส่ไว้บนคีย์บอร์ดเกมมิ่งหลากหลายตัว และยังอยู่บนคีย์บอร์ดทำงานที่คาดว่าหลายคนใช้งานกันอยู่ตอนนี้ มีความคล้ายกับ Cherry Profile แต่มีความสูงและโปร่งกว่าเล็กน้อย ให้เสียงที่ก้องกว่า Cherry กดเพลิน กดมันเหมือนกันครับ

SA Profile : ตัวนี้จะมีความโปร่ง สูงแบบเห็นได้ชัด ในแต่ละแถวจะมีความลาดเอียงคล้ายกับ OEM แต่เนื่องจากความโปร่งสูงคล้ายถ้วยคว่ำ ทำให้มันมีเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ ก้องกว่าตัวอื่นเลยครับ

OSA Profile : เป็นโปรไฟล์ที่ตอนนี้แบรนด์ Keychron นำมาใส่ให้กับคีย์บอร์ดแทบทุกตัวของตระกูล Q เลยครับ ตัวคีย์แคปจะอวบ สูง และเป็นทรงถ้วยคว่ำคล้ายกับ SA เลย แต่จะมีความเตี้ยกว่า และเมื่อมองจากด้านข้าง จะเห็นว่ามันไล่ลงมาตรงกลาง โค้งแบบเสมอกัน มีเสียงที่ก้องน้อยกว่า SA และเข้ามืออยู่พอสมควรเลย

Uniform Keycap

คีย์แคปประเภทนี้จะมีความสูง “เท่ากัน” ในทุกแถว นั้นทำให้สามารถสลับแถวกันใส่ได้ ซึ่งคีย์แคปประเภทนี้ หรือความสูงที่เท่ากันนี้หลายคนจะคุ้นเคยกับคีย์บอร์ดของโน๊ตบุ๊ค ที่ทุกแถวมีความสูงเท่ากัน หรือคีย์บอร์ดแบบ Low Profile ที่มีความสูงเท่ากันทุกแถว

คีย์แคปที่มีความสูงเท่ากันมีข้อดีที่สามารถสลับใส่กันได้ทุกแถวแล้ว ในเรื่องของการวางมือหลายคนที่ไม่คุ้นและใช้การพิมพ์แบบสัมผัสจะรู้สึกไม่คุ้นมือในช่วงแรก แต่หากชินแล้วคีย์แคปทรงนี้จะเป็นอีกแบบที่พิมพ์ได้เข้ามือเป็นอย่างมาก ไม่ต้องงอนิ้วมากเกินไป กดได้มันไม่แพ้กันครับ

โดยคีย์แคปทรง Uniform Keycap เราได้คัดทรงที่นิยมใช้กันมากได้ดังนี้ครับ

XDA Profile : คีย์แคปทรงนี้จะคล้ายถ้วยคว่ำ จะนูนออกด้าน เหมือนคีย์แคป SA แต่มีความสูงที่น้อยกว่า ในเรื่องของเสียง มันโปร่งด้านใน แต่มีความเตี้ย เสียงที่ได้จะเป็นเอกลักษณ์ และด้วยความขนาดที่กว้างบริเวณด้านบนของคีย์แคป จึงสามารถกดได้อย่างแม่นยำครับ

DSA Profile : ตัวนี้จะเหมือนกับ OEM หรือ Cherry คือขอบข้างของคีย์แคปจะเอียงจากด้านล่างขึ้นไปข้างบนจะแคบไปเรื่อยๆ ไม่นูนโค้งเหมือน XDA ที่ดูจะไม่เหมือนถ้วยคว่ำ เหมาะกับใครที่อยากได้ความสูงของคีย์แคปเท่ากัน แต่อยากได้ทรงที่เหมือนกับ OEM และ Cherry ครับ

LA Profile : คีย์แคปนี้จะมีความเตี้ยมากๆ ซึ่งถูกใช้กับคีย์บอร์ด Low Profile เรื่องเสียงนี้แทบจะไม่เกิดขึ้นเลยครับ มันทั้งเตี้ย และสั้นเอามากๆ แม้จะเกิดเสียงได้ก็จริง แต่อาจจะน้อยจนหลายคนสังเกตไม่ได้ ใครที่ใช้คีย์บอร์ดแบบ Low Profile ก็ต้องหาซื้อคีย์แคปทรงนี้เลยครับ จะได้เข้ากับคีย์บอร์ดได้เป็นอย่างดี

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เรื่องคีย์แคปเองก็เป็นจุดที่ต้องให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าจุดอื่นเลย เพราะนอกจากเรื่องความสวยเมื่อมองเห็นแล้ว ยังมีรื่องสัมผัสที่แตกต่างกัน เสียงที่ได้ และการใส่อีกด้วย หากเราทราบข้อมูลของคีย์บอร์ดตัวเองก่อนสักหน่อย จะสามารถเลือกซื้อคีย์แคปให้เข้าชุด และไม่ผิดพลาดได้ครับ

หากใครกำลังมองหาคีย์แคปและคัสคอมคีย์บอร์ดอยู่ ที่ Mercular เรามีสินค้าให้เลือกมากมาย คัดสรรจากแบรนด์ดัง ครบ จบในที่เดียว การรับประกันหลังการขายหายห่วงครับ