ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เทคโนโลยีบลูทูธได้มีการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไป เช่นเดียวกับการวิวัฒนาการของอุปกรณ์ถ่ายโอนข้อมูล ก็ได้มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ Floppy Disk ไล่มา CD, DVD, ผ่านทางพอร์ต USB , Blue-Ray ตามลำดับ ในปัจจุบันนั้นการถ่ายโอนข้อมูลสามารถทำได้ผ่านอินเตอร์เน็ตแล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่การใช้พอร์ต USB ก็ยังเป็นที่นิยมอยู่ เพราะอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป ยังคงต้องอาศัยพอร์ตและสาย USB ในการเชื่อมต่ออยู่ ทั้งการชาร์จแบตเตอรี่ รวมไปถึงการถ่ายโอนข้อมูล ในขณะนี้ เทคโนโลยี USB ได้พัฒนามาจนถึงเวอร์ชั่นล่าสุด คือ USB 4.0 หรือในชื่ออย่างเป็นทางการคือ USB4 ทีนี้เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า เจ้าเทคโนโลยี USB4 เนี่ย มันดียังไง ทำอะไรได้บ้าง วันนี้ทาง Mercular.com จะมาอธิบายให้ฟังครับ

วิวัฒนาการของ USB

ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ USB4 นั้น ต้องอธิบายประวัติความเป็นมาของเทคโนโลยี USB ให้ผู้อ่านเข้าใจเสียก่อน USB หรือชื่อเต็มว่า Universal Serial Bus เกิดจากความร่วมมือพัฒนาระหว่าง 7 บริษัท ในปี 1994 ซึ่งประกอบไปด้วยบริษัท Compaq, DEC, IBM, Intel, Microsoft, NEC, และ Nortel เป้าหมายคือการลดจำนวนพอร์ตต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายหลังเครื่องคอมพิวเตอร์ ให้สามารถเปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB เพียงช่องเดียวในการทดแทน เพื่อเพิ่มความสะดวก และความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลให้มากยิ่งขึ้น โดย USB ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นเวอร์ชั่นต่าง ๆ ทั้ง USB 2.0, USB 3.0, USB 3.1, USB 3.2 ตามลำดับ จนเมื่อเดือนกันยายน 2019 องค์กร USB-IF ได้ประกาศว่าพัฒนาเทคโนโลยี USB4 เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ซึ่งสาเหตุที่ต้องประกาศออกมาล่วงหน้า ก็เพื่อให้แบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ทั้งหลาย ได้รับรู้ ทำการศึกษา และเตรียมความพร้อมในการผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับมือถือ ที่รองรับพอร์ตนี้ ในอนาคตที่กำลังจะมาถึง

ประเภทของพอร์ต USB

พอร์ต USB ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ได้แก่ หัวพอร์ต Type-A, Type-B และล่าสุดก็คือ Type-C ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีหน้าตาที่แตกต่างกัน รวมไปถึงอุปกรณ์ที่รองรับพอร์ตเหล่านี้ก็จะมีความแตกต่างกัน ส่วนตัวเลขข้างหลังนั้นหมายถึงเวอร์ชั่นของ USB ยิ่งเลขมากกว่า แสดงว่าเป็นเวอร์ชั่นใหม่กว่า มีความสามารถที่ดีขึ้นกว่าเดิม เช่น รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงขึ้น หรือติดตั้งเทคโนโลยีใหม่เพิ่มเติมเข้าไปนั่นเองครับ โดยพอร์ต USB Type-C นั้น ถือว่าเป็นพอร์ตมาตรฐานในปัจจุบัน สำหรับผลิตภัณฑ์ชิ้นใหม่ ๆ ที่กำลังจะออกมาในอนาตต เช่น โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ทุกรุ่น จะต้องเปลี่ยนมาใช้พอร์ตแบบ USB-C หมด ตามกฎของสหภาพยุโรป เพื่อให้สามารถใช้สายเคเบิลร่วมกันได้ทุกยี่ห้อนั่นเอง

ตัวอย่าง ประเภทของพอร์ต USB

แล้วมาตรฐาน USB4 ดียังไง ?

USB4 คือเวอร์ชั่นใหม่ของพอร์ต USB ที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม มาในหน้าตาและขั้วต่อแบบเดียวกับ USB-C โดยเป็นการนำความสามารถของ USB 3.0 - 3.2 เข้ามาพัฒนาต่อยอดร่วมกับพอร์ต Thunderbolt 3 ของ Intel รองรับการส่งข้อมูลสูงสุดที่ 40 Gbps เพิ่มขึ้นจาก USB 3.2 ถึงเท่าตัวเลยทีเดียว แต่ถ้าอยากใช้งานได้ที่ความเร็วสูงสุด จำเป็นต้องใช้ควบคู่กับสายเคเบิล ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับ USB 2.0, USB 3.0, USB 3.1, USB 3.2 และ Thunderbolt 3 ได้

หลายคนอาจจะสงสัยว่า เราจะได้ใช้ USB4 อย่างเป็นทางการเมื่อไหร่ สำหรับเทคโนโลยีนี้ได้ถูกประกาศสเปคออกมาเมื่อปลายปี 2019 ที่ผ่านมา เพื่อให้บริษัทผู้พัฒนาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลาย ได้ทราบข้อมูลและเตรียมตัวในการผลิตอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้ โดยน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน ในการศึกษา ทดลองเพื่อนำไปใช้ ขณะนี้มีบริษัทกว่า 50 รายที่เข้าร่วมการพัฒนา รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple, Microsoft, Intel, HP เป็นต้น กว่าที่เราจะได้เห็นการนำมาตรฐานนี้ไปใช้ในอุปกรณ์ต่าง ๆ น่าจะต้องรอถึงช่วงปลายปี 2020 และกว่าเทคโนโลยีนี้จะแพร่หลาย น่าจะใช้เวลาอีกหลายปี ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่าตอนนี้โลกของเรากำลังเผชิญกับสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ทำให้วงการอุตสาหกรรมและการผลิตต่าง ๆ มีการล่าช้าไปจากกำหนดการณ์เดิม หากมีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยี USB4 เมื่อไหร่ รับรองว่า Mercular.com จะมาอัปเดตให้รับทราบอย่างแน่นอนครับ

ข้อมูลอ้างอิงจาก

https://www.usb.org/usb4