การ์ดจอคืออะไร อีกหนึ่ง Item ชิ้นสำคัญ ที่ชาวเกมเมอร์ทุกคนต้องมี

2 มิ.ย. 2565

การ์ดจอคืออะไร อีกหนึ่ง Item ชิ้นสำคัญ ที่ชาวเกมเมอร์ทุกคนต้องมี

ในปัจจุบันถ้าใครต้องการที่จะประกอบคอมพิวเตอร์ใช้เองขึ้นมาสักหนึ่งเครื่อง Item ชิ้นสำคัญที่หลายๆคนให้ความสนใจ และสำหรับบางคน นี่อาจเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่มองหาด้วยซ้ำ สิ่งที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ นั่นก็คือการ์ดจอนั่นเอง ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ทำให้การ์ดจอขาดตลาด ไม่ว่าจะเป็นจากการที่ชิ้นส่วนหรือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต อยู่ในภาวะขาดตลาดจากภาวะการระบาดของ Covid-19 หรือว่าจะเป็นการกว้านซื้อ เพื่อไปทำการขุดเหมือง Cryptocurrency เหตุผลเหล่านี้ ล้วนส่งเสริมให้ราคาการ์ดจอต่างก็เคยพุ่งทะยานไปมาก เพื่อนๆเคยสงสัยกันหรือไม่ ว่าทำไมการ์ดจอถึงได้เป็นที่ต้องการของทุกคนถึงขนาดนี้ ในวันนี้เราจะพาไปไขข้อสงสัยว่าการ์ดจอคืออะไร ทำไมไม่ใช่แค่เฉพาะชาวเกมเมอร์ ต้องการจะครอบครอง Item ชิ้นนี้

การ์ดจออยู่ในมือ

การ์ดจอคืออะไร

การ์ดจอ (Graphic Card) หรือที่หลายๆคนเรียกว่า GPU เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญอีกชิ้นของคอมพิวเตอร์ ซึ่งแนวคิดในการสร้างนั้นก็คือช่วย CPU ประมวลผลหรือชุดคำสั่งที่ออกมาเป็นสัญญาณภาพนั่นเอง โดยจะแสดงผลผ่านจอคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นภาพหรือตัววิดีโอก็ตาม โดยถ้าถามว่าการประมวลผลเหล่านี้ CPU สามารถทำได้ไหม ก็ต้องตอบว่าทำได้ แต่ด้วยภาระงานของ CPU ที่จะต้องประมวล และควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมด การที่จะต้องมาประมวลผลด้านภาพด้วย จึงอาจทำให้การทำงานต่างๆนั้นช้าลง นั้นจึงทำให้การ์ดจอถือกำเนิดขึ้นมานั้นเอง


ซึ่งถ้าเทียบกับคอมพิวเตอร์ การ์ดจอจะมีสิ่งที่คอยประมวลผลคล้ายกับ CPU ของคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า GPU โดยที่ความสามารถในด้านการประมวลผล อาจจะไม่ได้ดีเท่า CPU แต่สิ่งที่เหนือกว่าจนทิ้งแทบไม่เห็นฝุ่น นั้นก็คือจำนวน Core นั่นเอง เนื่องจากงานทางด้าน Graphic เป็นงานประมวลชุดคำสั่งเพียงอย่างเดียว จึงเน้นไปที่การสร้าง Core เพื่อช่วยในการประมวลผลให้กับ GPU แทน ลองนึกภาพว่าถ้าเพื่อนๆต้องการเล่นเกม ที่มีภาพความละเอียดที่คมชัด FHD และ ใน 1 วินาทีต้องการภาพ 60 fps จะต้องใช้การประมวลผลแค่ไหน ดังนั้นการมีจำนวน Core มากจึงช่วยทำให้การประมวลผลได้ดีและมีประสิทธิภาพ


ซึ่ง Core นี้ก็มีชื่อเรียกเฉพาะที่ต่างกันออกไปของ 2 ค่ายการ์ดจอ โดยที่ค่ายเขียวอย่าง Nvidia จะเรียกว่า CUDA ส่วนในฝั่งแดงอย่าง AMD จะเรียกว่า Stream Processor ถึงแม้ชื่อจะต่างกัน แต่มันคือสิ่งเดียวกันนั่นเอง และด้วยการที่การ์ดจอเป็นเซียนด้านประมวลผลคำนวญชุดคำสั่งนี่เอง จึงทำให้เป็นเป็นที่ต้องการของคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่ต้องการจะนำไปใช้ขุดเหมือง Cryptocurrency ที่ต้องใช้การเจาะรหัสประมวลมล จนการ์ดจอถูกกว้านซื้อไปจากตลาดเป็นจำนวนมากนั่นเอง ถ้าจะให้สรุปอย่างง่ายๆที่สุดการ์ดจอคืออุปกรณ์ ที่รับหน้าที่ในการประมวลผลด้าน Graphic ให้ได้ภาพที่สวยงาม

การ์ดจอหลายชิ้น

ประเภทของการ์ดจอ

การ์ดจอ หรือ GPU เองก็แบ่งตามประเภทออกเป็น 2 รูปแบบนั่นก็คือ การ์ดจอออนบอร์ด และ การ์ดจอแยก ซึ่งการ์ดจอทั้ง 2 แบบนี้ จะมีลักษณะแตกต่างกันอย่างไรไปดูกันได้เลย


  • การ์ดจออนบอร์ด : หรือ Integrated Graphics Card เป็นชิปประมวลผล ที่ทางผู้ผลิตนำมารวมกับ CPU อยู่แล้ว การประมวลผลก็ทำได้แค่พื้นฐาน ไม่เหมาะกับการประมวนผลหนักๆ
  • การ์ดจอแยก : เป็นการ์ดจอที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเป็นอุปกรณ์ที่แยกจากตัวเครื่อง สามารถถอดเข้าออกจากคอมพิวเตอร์ได้ โดยมีลักษณะเป็นกล่องทรง 4 เหลี่ยม โดยที่จะบรรจุ GPีU จาก 2 ค่ายหลักอย่าง Nvidia หรือ AMD บนตัวแผงวงจร และยังมีพัดลมระบายความร้อนติดอยู่เป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

การอ่านชื่อรุ่นต่างๆจาก 2 แบรนด์ดัง

การ์ดจอในตลาดของเราแบ่งออกเป็น 2 ค่าย 2 สีหลักๆ นั่นก็คือ Nvidia สีเขียว และ AMD สีแดง ซึ่งทั้ง 2 ค่ายการ์ดจอจะมีชื่อรุ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง แค่มองเห็นก็รู้เลยว่าเป็นแบรนด์อะไร ซึ่งชื่อรุ่นนี้น่าจะสร้างความปวดหัวให้กับใครหลายๆ และแต่ละแบรนด์เองก็ได้ทำการซอยรุ่นย่อยของการ์ดจอต่างๆออกมามากมาย ยิ่งเพิ่มความมึนงงไปอีกระดับ เราจึงอยากที่จะแนะนำการอ่านชื่อการ์ดจอของทั้ง 2 แบรนด์อย่างคร่าวๆ เพื่อลดความสับสนให้กับเพื่อนๆทุกคน

การ์ดจอ มีแสงสีเขียว

Nvidia


เป็นค่ายการ์ดจอที่ได้รับความนิยมอีกค่ายหนึ่ง โดยมีจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยี ที่พัฒนามาให้ผู้ใช้งานได้ใช้อยู่ตลอด สำหรับชื่อรุ่นการ์ดจอของ Nvidia เราขอยกตัวอย่างเป็น Nvidia GEFORCE RTX 3090 Ti โดยที่ Nvidia GEFORCE เราขอละไว้ ไม่พูดถึงเพราว่าเป็นชื่อทางการค้าของแบรนด์ ซึ่งถ้าเราชำแหละแยกส่วนของชื่อรุ่นจะเป็นดังนี้


1.ตัวอักษรภาษาอังกฤษ 3 ตัวแรก : เป็นตัวบ่งบอกซีรีส์ของการ์ดจอนั่นเอง จากตัวอย่างจะเป็นซีรีส์ที่ออกมาล่าสุดอย่าง RTX โดยในท้องตลาดยังมีรุ่นก่อนหน้าขายอยู่อย่าง GTX ซึ่งประสิทธิภาพการทำงาน RTX จะดีกว่า GTX


2.ชุดตัวเลข : ในชื่อของการ์ดจอจะเป็นการบอกซีรีส์หรือว่าเจนของการ์จอ โดยที่ในปัจจุบันจะเป็นตัวเลข 4 หลัก ซึ่งตัวเลข 2 หลักแรกหมายถึงเจนของการ์ดจอ ซึ่งไล่เรียงมาตั้งแต่ 10, 20 และ 30 โดยที่ 30 จะเป็นเจนที่ใหม่ที่สุด ส่วนตัวเลข 2 ตัวหลังจะเป็นการบอกระดับความแรง ด้วยที่ตัวเลขยิ่งมากการ์ดจอยิ่งแรงตาม ซึ่งจากตัวอย่าง 90 จัดว่าเป็นตัวแรงที่สุด นั่นเอง


3.ตัวอักษรภาษาอังกฤษปิดท้าย : การที่มีตัวอักษรปิดท้าย นั้นหมายความว่าการ์ดจอชิ้นนั้น มีคุณสมบัติพิเศษนั่นเอง ซึ่งถ้าไม่มีตัวอักษรปิดท้าย นั่นหมายถึงเป็นการ์ดจอปกติ ที่ไม่ได้มีความพิเศษอะไร โดยตัวอักษรที่ปรากฏจะมีความหมายที่ต่างๆกันดังนี้


  • Ti : มากจาก Titanium เป็นการ์ดจอที่มี CUDA Core มากกว่าตัวรุ่นธรรมดา อาจเรียกได้ว่าเป็นตัว Top ของรุ่นเลยก็ได้
  • Super : มีประสิทธิภาพคล้ายกับ Ti คือเพิ่ม CUDA Core เข้ามา แต่จะไม่ถึงกับการ์ดจอรุ่นที่มี Ti ต่อท้าย
  • OC : มาจากคำว่า Overclock เป็นการ์ดจอรุ่นที่ปลดล็อคเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไปอีกระดับ
การ์ดจอมีสีแดง

AMD


เป็นอีกค่ายการ์ดจอคู่แข่งของ Nvidia โดยการ์ดจอที่มาจากแบรนด์นี้ จะมีจุดเด่นอยู่ตรงที่ให้ภาพที่สมจริงสีสันสวยงาม โดยการ์ดจอของ AMD ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจะอยู่ในซีรีส์ AMD Radeon โดยที่ตามจริงแล้วหลักการอ่านชื่อการ์ดจอของทั้ง 2 แบรนด์นี้ค่อนข้างคล้ายกัน ซึ่งการ์ดจอที่เราจะยกมาเป็นตัวอย่างนั่นก็คือ AMD Radeon RX 6950 XT นั่นเอง


1.Radeon RX : เป็นชื่อของซีรีส์การ์ดจอจากแบรนด์ AMD 


2.ตัวเลขตัวแรกสุด : เป็นตัวเลขที่บอกถึงซีรีส์ของการ์ดจอ ซึ่งจากตัวอย่างเป็นเลข 6 ซึ่งหมายถึงการ์ดจอซีรีส์ RX 6000 ซึ่งเป็นซีรีส์ล่าสุดของทาง AMD


3.ตัวเลข 3 หลักท้าย : เป็นตัวเลขที่บอกระดับความแรงของการ์ดจอ โดยตัวเลขยิ่งมากการ์ดจอก็ยิ่งแรง


4.ตัวอักษรตัวท้าย : ในที่นี้คือ XT ซึ่งหมายถึงการ์ดจอที่เพิ่มจำนวน Stream Processor เข้าไป คล้ายกับรุ่น Ti หรือ Super จาก Nvidia นั่นเอง


พัดลมการ์ดจอ

หลักการเลือกซื้อการ์ดจอ

การ์ดจอคือหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญ ที่มีส่วนในการประมวลผลด้านภาพ หลายๆคนให้ความสำคัญรองลงมาจาก CPU เลยก็ว่าได้ ซึ่งสำหรับมือใหม่หลายๆคนที่กำลังจะเลือกซื้อการ์ดจอนั้น อาจจะเจอปัญหาว่าควรเลือกการ์ดจอที่ตรงไหนดี วันนี้เราจึงมีวิธีการเลือกการ์ดจอเล็กๆน้อยๆมาให้ทุกคนได้ใช้กัน


  • สำหรับใครที่ต้องการการ์ดจอแรงๆ ให้ดูที่จำนวน Core ซึ่งถ้าเป็น Nvidia จะเรียกว่า CUDA หรือถ้าเป็นฝั่ง AMD จะใช้ชื่อว่า Stream Processor โดยจำนวน Core จะมีส่วนช่วยในการประมวลผล โดยที่จำนวนยิ่งมาก การ์ดจอตัวนั้นยิ่งมีประสิทธิภาพมากตาม 


  • หน่วยความจำ (Memory) หรือ Ram นั่นเองโดยแรมยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าไหร่ ก็ยิ่งจะส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานของการ์ดจอเท่านั้น


  • ระบบระบายความร้อนของการ์ดจอก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสนใจ โดยที่การ์ดจอเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิในการทำงานที่สูงมาก โดยที่เราควรเลือกการ์ดจอที่มีระบบการระบายความร้อนที่ดี เพราะถ้าการ์ดจอมีอุณหภูมิสูง แล้วระบายความร้อนไม่ทัน ย่อมส่งผลต่อการทำงาน ทำให้ประสิทธิภาพลดลง


  • ความเข้ากันของอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะ CPU ที่ถ้าจะเลือกการ์ดจอตัวแรงแล้วล่ะก็ควรเลือก CPU ที่แรงตาม เพื่อรีดประสิทธิภาพการทำงานของการ์ดจอให้ได้ดีที่สุด อีกหนึ่งสิ่งที่ควรให้ความสนใจ นั่นก็คือ PSU หรืออุปกรณ์จ่ายไฟให้กับคอมพิวเตอร์ โดยที่การ์ดจอเป็นอุปกรณ์ที่กินไฟค่อนข้างมาก ควรเลือก PSU ให้มีกำลังพอการใช้งานโดยรวมของคอมพิวเตอร์
การ์ดจอสีฟ้า

คงพอคลายข้อสงสัยให้กับใครหลายๆคนได้บ้าง การ์ดจอคืออุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ที่คนใช้คอมพิวเตอร์ในยุคนี้ให้ความสำคัญ เพราะการ์ดจอคืออุปกรณ์ชิ้นหนึ่ง ที่ช่วยประมวลด้าน Graphic แสดงภาพที่สวยงามออกมาให้เราได้รับชมกัน ไม่ว่าจะเป็นด้านการเล่นเกม, การดูหนัง,งานออกแบบด้าน Graphic หรือจะเป็นใช้เป็นตัวช่วยในการประมวลผลต่างๆ โดยจุดสังเกตความแรงของการ์ดจอ สามารถดูได้อย่างง่ายๆที่ชื่อ โดยถ้าในชื่อมีตัวเลขที่มากการ์ดจอก็จะยิ่งแรง สำหรับคนที่จะเลือกซื้อการ์ดจอนั้น ควรคำนึงถึงการใช้งานและงบประมาณเป็นหลัก เพราะไม่อย่างนั้นเราอาจจะเสียเงินไปโดยไม่เกิดความคุ้มค่านั่นเอง สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่มีแผนจะประกอบคอม แล้วอยากจะได้อุปกรณ์ต่างๆไม่ว่าเป็นซีพียู หรือ เมนบอร์ดก็ตาม สามารถเข้ามาเลือกชมได้ที่ Mercular.com เลยนะครับ เพราะเรามีสินค้าให้เลือกมากมายหลายรายการ รับรองไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

article-banner-1
article-banner-2