ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและไม่เต็มจอ มีดีต่างกันยังไง

16 ก.ค. 2564

ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและไม่เต็มจอ มีดีต่างกันยังไง

หากจะพูดถึงอุปกรณ์ที่ช่วยปกป้องสมาร์ทโฟน ฟิล์มกระจกก็คงจะเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ใครหลาย ๆ คนนึงถึงเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน หรือจะเรียกได้ว่าเป็นของคู่กันกับสมาร์ทโฟนเลยก็ได้ ซึ่งในชีวิตประจำวันเราก็ไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้สมาร์ทโฟนของเราเสียหายขึ้นตอนไหนหรือเมื่อไหร่ เราจึงต้องติดฟิล์มกันรอยเพื่อป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อน หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาแล้วเราไม่ได้ติดฟิล์มเพื่อป้องกันไว้ก่อน เราก็คงจะต้องเสียเงินหลายพันเพื่อไปซ่อมหรือเปลี่ยนหน้าจอใหม่ หรือบางทีที่แย่ไปกว่านั้นเลยก็คือ จอแตกแล้วสมาร์ทโฟนเสียทำให้ใช้งานไม่ได้อีก ทำให้ต้องซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ จึงนับได้ว่าฟิล์มกันรอยนั้นมีความสำคัญกับการป้องกันสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่น ๆ เป็นอย่างมากเลยล่ะครับ

ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและไม่เต็มจอ มีดีต่างกันยังไง

ฟิล์มกันรอยกับฟิล์มกระจก เหมือนกันหรือไม่ ?

ในปัจจุบันบริษัทที่ทำเกี่ยวกับพวกฟิล์มกันรอยชนิดต่าง ๆ ก็ได้ผลิตคิดค้นฟิล์มกันรอยขึ้นมามากมายหลายประเภทอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็น ฟิล์มแบบใส หรือฟิล์มแบบด้าน ซึ่งฟิล์มกันรอยที่นับว่าเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และร้านส่วนใหญ่จะต้องแนะนำให้ติดก็คงต้องเป็นฟิล์มกระจกนั่นเอง เราจึงสามารถจำแนกได้ว่าฟิล์มกระจกก็คือรูปแบบหนึ่งของฟิล์มกันรอย ที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันครับ

เหตุผลที่ฟิล์มกระจกนั้นถึงเป็นที่นิยมและทำไมถึงต้องเลือกใช้ ?

หลายคนคงสงสัยว่าแค่ติดฟิล์มธรรมดายังไม่เพียงพอหรือ ? ขอตอบตรงนี้เลยว่า ยังไม่เพียงพอครับ เพราะฟิล์มกระจกมีความพิเศษมากกว่าฟิล์มชนิดอื่น ๆ ตรงที่ว่าฟิล์มกระจกจะมีความหนาและความแข็งแรงที่มากกว่าฟิล์มทั่ว ๆ ไป อีกทั้งจุดเด่นคือมีความเหมือนหน้าจอสมาร์ทโฟนจริง ๆ ทำให้ช่วยป้องกันแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม หากติดแล้วเผลอทำสมาร์ทโฟนหลุดมือตกพื้น ก็คงจะเป็นเรื่องยากที่จอสมาร์ทโฟนจะแตก หรือเรียกได้ว่าฟิล์มกระจกนั้นทำให้สมาร์ทโฟนของเราได้รับความเสียหายน้อยกว่าฟิล์มชนิดอื่นนั่นเอง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ฟิล์มกระจกได้รับความนิยมเป็นจำนวนมาก ซึ่งฟิล์มกระจกก็จะมีอยู่ 2 แบบให้เลือกติดด้วยกัน ได้แก่ ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มจอ ซึ่งทั้ง 2 แบบนี้ก็มีความคล้ายกันมาก แต่ข้อดี / ข้อเสียนั้นจะมีอะไรที่แตกต่างกันบ้าง ไปดูกันเลยครับ

ข้อดี / ข้อเสีย ของฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มจอ


  • ข้อดี โดยฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มจอก็คือฟิล์มที่คลอบคลุมไม่เต็มสุดขอบของตัวเครื่อง จะเว้นจากขอบเครื่องมาเล็กน้อย(ไม่ถึงครึ่งเซนติเมตร) มีข้อดีคือราคาถูกกว่าฟิล์มกระจกแบบเต็มจอ ราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อยเท่านั้น แล้วแต่ว่าเลือกติดฟิล์มของยี่ห้อไหน และยังสามารถใส่ได้กับทุกเคสโดยที่ไม่ถูกเคสดันแผ่นฟิล์ม


  • ข้อเสีย ส่วนข้อเสียก็คือ ฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มจอไม่สามารถปกป้องตรงขอบๆ ของหน้าจอได้ทั้งหมด และอย่างที่รู้กันว่าฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มจอจะมีความคลอบคลุมของฟิล์มที่ไม่เต็มหน้าจอ ทำให้บางทีจะมีพวกฝุ่นผงเข้าไปติดอยู่ตามตรงที่ฟิล์มคลอบคลุมไม่ถึง อีกทั้งเวลามีฝุ่นเข้าไปติดนั้น ยังทำความสะอาดยากกว่าฟิล์มกระจกแบบเต็มหน้าจออีกด้วย

ข้อดี / ข้อเสีย ของฟิล์มกระจกแบบเต็มจอ


  • ข้อดีในส่วนของฟิล์มกระจกแบบเต็มจอนั้นก็จะคลอบคลุมไปทั้งหน้าจอเครื่อง มีข้อดีคือสามารถป้องกันหน้าจอเครื่องได้อย่างเต็มพื่นที่ ปกป้องหน้าจอได้ดีกว่าฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มหน้าจอ ดูมีความสวยงามมากกว่า ทำความสะอาดง่ายเมื่อมีฝุ่นเกาะ


  • ข้อเสีย ส่วนข้อเสียก็คือ มีราคาที่สูงกว่าฟิล์มแบบไม่เต็มหน้าจอนิดหน่อย สามารถใส่เคสได้แค่บางเคสเท่านั้น เพราะเคสบางอันอาจไปดันแผ่นฟิล์ม ทำให้ฟิล์มหลุดออกมาได้ และฟิล์มกระจกแบบเต็มจอไม่ได้มีครบในทุกรุ่น ส่วนใหญ่จะมีแต่รุ่นท็อปๆ ของแต่ละแบรนด์มือถือเท่านั้น
ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและแบบไม่เต็มจอเหมาะกับใครบ้าง ?

ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและแบบไม่เต็มจอเหมาะกับใครบ้าง ?

หลายคนคงเกิดคำถามตามมาว่าฟิล์มกระจกมีมากด้วยกันถึง 2 ประเภท และทั้ง 2 ประเภทนี้ก็มีลักษณะที่คล้ายกันอีก แล้วควรเลือกใช้แบบไหน แบบไหนที่ใช่ แบบไหนที่เหมาะกับตนเอง ซึ่งทาง Mercular.com ก็ได้เปรียบเทียบเอาไว้ให้อย่างคร่าว ๆ แล้วครับ


ใครที่เหมาะกับฟิล์มกระจกแบบไม่เต็มหน้าจอ


  • ผู้ที่มีงบประมาณในการเปลี่ยนฟิล์มอย่างจำกัด
  • ผู้ที่ต้องเปลี่ยนฟิล์มบ่อย ๆ เช่น ทำสมาร์ทโฟนหลุดมือบ่อย สายเกมเมอร์ที่ต้องรูดนิ้วเล่นรัว ๆ เพราะฟิล์มจะเป็นรอยง่ายมาก


ใครที่เหมาะกับฟิล์มกระจกแบบเต็มหน้าจอ


  • ผู้ที่มีงบประมาณในการติดฟิล์มไม่จำกัด
  • ผู้ที่ระมัดระวังในการใช้สมาร์ทโฟนมาก หรืออาจใส่เคสที่ช่วยป้องกันไม่ให้ฟิล์มกระจกเป็นรอยหรือแตกได้ง่าย ๆ
วิธียืดอายุการใช้งานของฟิล์มกระจกให้ยาวนานขึ้น

วิธียืดอายุการใช้งานของฟิล์มกระจกให้ยาวนานขึ้น

เมื่อเสียเงินติดฟิล์มดี ๆ ทั้งทีก็ย่อมต้องอยากจะใช้ของที่ดีไปนาน ๆ อยู่แล้วใช่มั้ยครับ แต่ว่าจะทำอย่างไรให้ฟิล์มกระจกมีอายุการใช้งานที่นานมากขึ้นจะได้ไม่ต้องเสียเงินเปลี่ยนฟิล์มบ่อย ๆ ซึ่งก็มีวิธีอยู่มากมาย เช่น


1.   เคสที่เลือกใส่ การเลือกใส่เคสก็เป็นการป้องกันให้ฟิล์มแตกหรือเป็นรอยได้ยากขึ้น เช่น เลือกใส่เคสแบบฝาพับ เพราะเคสแบบฝาพับจะมีฝาพับที่ปิดหน้าจอทั้งหมดจึงทำให้ฟิล์มเป็นรอยได้ยากมาก


2.   ติดฟิล์มที่ได้มาตรฐาน หากเลือกติดฟิล์มกระจกที่ได้มาตรฐานแน่นอนว่าจะมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าฟิล์มที่ไม่ได้มาตรฐาน ถึงราคาจะสูงกว่านิดหน่อย แต่รับรองได้ว่าฟิล์มที่ได้มาตรฐานจะสามารถใช้ได้นานและคงทนกว่าอย่างแน่นอน


3.   หมั่นเช็ดทำความสะอาดอยู่เสมอการเช็ดทำความสะอาดก็จะช่วยให้ฟิล์มดูใหม่อยู่ตลอด อีกทั้งยังช่วยลดพวกฝุ่น เชื้อโรคและแบคทีเรียเวลาใช้สมาร์ทโฟนได้ด้วย

ฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและไม่เต็มจอ มีดีต่างกันยังไง

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับคำแนะนำในการเลือกติดฟิล์มกระจกแบบเต็มจอและแบบไม่เต็มจอ รวมถึงวิธีการถนอมการใช้งานของฟิล์มกระจกให้สามารถใช้ได้นานมากขึ้นที่ทาง Mercular.com ได้นำมาแนะนำกันในบทความนี้ โดยทางเราก็หวังว่าทุกคนที่ได้อ่านบทความนี้ จะสามารถตัดสินใจเลือกติดฟิล์มกระจกแบบที่ตรงตามการใช้งาน คุ้มค่า ตอบโจทย์ตามความต้องการและเหมาะกับตนเองได้ หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจซื้อฟิล์มกระจกก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อจากหน้าเว็บไซต์ของเราได้ทันทีเลยครับ

article-banner-1
article-banner-2