เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

2 มิ.ย. 2564

เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

เรียกได้ว่าอยู่คู่กันมานานแบบที่ขาดกันไปไม่ได้นั่นคือ โทรศัพท์มือถือ Smartphone และ หูฟัง Small Talk ที่ถึงแม้ว่าโทรศัพท์มือถือจะมีลำโพงสำหรับนำมาแนบหู แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ต้องถือโทรศัพท์มือถือไปนานๆ ในการคุยโทรศัพท์ เทียบกับการใส่หูฟัง Small Talk และวางมือถือเอาไว้ ทำให้การทำกิจกรรมอื่นๆ ไปด้วย เช่น การเขียน พิมพ์งาน เล่นเกม และนอนคุย ทำได้สะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ Small Talk ยังไม่ได้ถูกใช้ในการใช้งานรับสายสนทนาโทรศัพท์เท่านั้น แต่ด้วยความสามารถของ Smartphone ที่ในปัจจุบันถูกพัฒนาให้มีฟังก์ชันที่หลากหลาย ครบถ้วน เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ 1 เครื่อง นั่นจึงทำให้หูฟัง Small Talk ถูกนำไปใช้ฟังเพลง ดูหนัง และอัดเสียงเป็นต้น


และสำหรับผู้ใช้งาน iPhone ในหลายๆ ปีที่ผ่านมา iPhone จะมีการแถมหูฟังไอโฟนแบบมีสายมาให้ในกล่องด้วยเสมอโดยจะเป็นหูฟัง Apple EarPods with 3.5 mm. Connector จนการมาถึงของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่ทาง Apple ถอดช่องเชื่อมต่อหูฟัง AUX/3.5 mm. ออกไป ในช่วงแรกๆ ผู้ใช้งานที่มีหูฟัง AUX/3.5 mm. จำเป็นต้องใช้หัวแปลง AUX/3.5 mm. to Lightning ที่ Apple ก็ให้มาในกล่องด้วยหัลงจากนั้นในรุ่นต่อๆ มาทาง Apple จึงเปลี่ยนมาให้เป็นหูฟัง Apple EarPods with Lightning Connector เพื่อความสะดวกในการใช้งานไม่ต้องแปลงหลายรอบ แต่ด้วยความที่ช่องเชื่อมต่อบนไอโฟนนั้นมีเพียงช่องเดียว ทำให้การใช้งานยังคงไม่สะดวก เพราะนั่นหมายความว่าหากใช้งานหูฟังก็จะชาร์จแบตเตอรี่ไม่ได้เพราะไม่มีช่อง รวมถึงหากจะชาร์จก็จะใช้หูฟังไม่ได้ต้องไปหาแอปเตอร์แปลงนั่นเอง เรียกได้ว่าสร้างความวุ่นวายให้กับผู้ใช้งานไอโฟนเป็นอย่างมาก

เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

Apple ตัดช่อง AUX/3.5 mm. ออกเพื่อเปิดตัวหูฟัง True Wireless AirPods!

หลังจากที่ตัดช่องเชื่อมต่อหูฟัง AUX/3.5 mm. ออกไปจาก iPhone ไม่นานทาง Apple ก็ได้เปิดตัวหูฟัง True Wireless ตัวแรกของแบรนด์ที่มาเปลี่ยนโลกและพลิกเทรนด์ความนิยมของเทคโนโลยีหูฟังไร้สายให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปกับ Apple AirPods หูฟังไร้สายอิสระ True Wireless ที่มาพร้อมรูปทรงสุดล้ำ โดดเด่นไม่ซ้ำใคร โดยเป็นการนำสินค้ายอดฮิตอย่าง Apple EarPods ที่เป็นหูฟังมีสายสวมใส่แบบ Earbud มาต่อยอดให้เป็นแบบไร้สาย โดดเด่นด้วยการเชื่อมต่อที่สมบูรณ์แบบและการใช้งานที่ง่ายดายตามสไตล์ของ Apple ในระดับที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนแนวความคิดเดิมๆ ของผู้ใช้งานที่ยังคงไม่เชื่อในเทคโนโลยีไร้สายอิสระแบบนี้ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งการกังวลในเรื่องของการเชื่อมต่อที่คิดว่าไร้สายไม่มีทางสู้แบบมีสายได้ รูปทรงที่มีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบ การที่ไม่มีสายเชื่อมต่อกันทำให้กังวลว่าจะสูญหายได้ และส่วนของแบตเตอรี่ที่อาจจะไม่ตอบโจทย์การใช้งานเป็นเวลานานครับ

ปัจจุบัน Apple มี AirPods ให้เลือกซื้อถึง 3 รุ่น!

ในปัจจุบัน Apple มีหูฟังไอโฟน AirPods ให้เลือกมากถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่แตกต่างกันไปดังนี้ครับ


1. หูฟังไร้สาย Apple AirPods with Charging Case (2nd Generation)

2. หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro

3. หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone


1. หูฟังไร้สาย Apple AirPods with Charging Case (2nd Generation)

ยี่ห้อ/รุ่น: Apple AirPods with Charging Case (2nd Generation)


ราคา: 4,990 บาท


ประเภทหูฟัง: Earbud


เวอร์ชัน Bluetooth: 5.0


กันน้ำ: กันเหงื่อและละอองน้ำ


แบตเตอรี่: 5 ชั่วโมง


การตัดเสียงรบกวน: ไม่มี

Apple AirPods (2nd Generation) โดดเด่นด้วยการสวมใส่แบบ EarBud ที่ใส่ได้สบายหูจนแทบลืมไปว่ากำลังสวมใส่อยู่ เชื่อมต่อง่ายและเสถียรตามสไตล์ของ Apple ด้วย Bluetooth 5.0 และ ชิพ Apple H1 ไมโครโฟนรับเสียงได้คมชัดเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ ใช้งานแยกข้างได้อิสระ ควบคุมง่ายด้วยระบบสัมผัส รองรับ Siri Always On มาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยการเคลือบกันเหงื่อและละอองน้ำ และแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมงรวมชาร์จจากเคสเป็น 24 ชั่วโมง

2. หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro

ยี่ห้อ/รุ่น: Apple AirPods Pro


ราคา: 9,490 บาท


ประเภทหูฟัง: In-Ear


เวอร์ชัน Bluetooth: 5.0


กันน้ำ: IPX4


แบตเตอรี่: 4.5 ชั่วโมง


การตัดเสียงรบกวน: มี

Apple AirPods Pro มาพร้อมการสวมใส่แบบ In-Ear ที่พิเศษแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ด้วยการออกแบบช่องระบายอากาศภายในเป็นพิเศษเพื่อรักษาแรงดันให้เท่ากัน ทำให้สวมใส่ได้สบายไม่รู้สึกว่าถูกอุดหู ด้านการเชื่อมต่อก็ง่ายและเสถียรเช่นกันด้วย Bluetooth 5.0 และ ชิพ Apple H1 มาพร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนที่ทำได้ยอดเยี่ยมในระดับพลิกวงการอีกเช่นกัน ด้านการสนทนามาพร้อมไมโครโฟนที่รับเสียงได้อย่างคมชัด ควบคุมสะดวกด้วยการบีบที่ก้านและรองรับ Siri Always On รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ด้านใส่ออกกำลังกายมาพร้อมมาตรฐาน IPX4 และแบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่อง 4.5 ชั่วโมงรวมชาร์จจากเคสเป็น 24 ชั่วโมง และพิเศษด้วยการรองรับเสียงรอบทิศทาง Spatial Audio ที่จะขัยบไปตามการหมุนและขยับของศีรษะ ซึ่งถูกนำมาใช้กับการรับชมภาพยนตร์บน Apple TV+ และรองรับ Dolby Aymos เสียงรอบทิศทางสมจริงสำหรับการใช้งานฟังเพลงจาก Apple Music Hifi อีกด้วย

3. หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone

ยี่ห้อ/รุ่น: Apple AirPods Max


ราคา: 19,900 บาท


ประเภทหูฟัง: Over-Ear


เวอร์ชัน Bluetooth: 5.0


กันน้ำ: -


แบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง


การตัดเสียงรบกวน: มี

Apple AirPods Max หูฟังครอบหูไร้สายรุ่นแรกจากทาง Apple ที่ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา ตั้งแต่เรื่องการออกแบบ ทั้งส่วน Headband ที่เป็นตาข่ายผ้าถักที่มีข้อดีในเรื่องการระบายอากาศและการกระจายน้ำหนักสวมใส่ได้สบายตลอดวัน และส่วนของ Earcup ที่ทำจากเมโมรี่โฟมหุ้มด้วยผ้าถักระบายอากาศได้เป็นอย่างดีเช่นกัน รวมถึงยังสามารถถอดเปลี่ยนได้ง่ายด้วยระบบแม่เหล็กอีกด้วย มาพร้อมฟังก์ชันเด่นอย่างการตัดเสียงรบกวนที่ต่อยอดมาจาก AirPods Pro ที่ต้องบอกเลยว่าตัดเสียงรบกวนได้สนิทเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ ในขณะที่โหมด Transparency ก็รับเสียงได้คมชัดเช่นเดียวกัน ส่วนของการเชื่อมต่อทั้งง่ายและเสถียรด้วย Bluetooth 5.0 และชิพ Apple H1 ที่ในรุ่นนี้ให้มาถึง 2 ตัวใส่ไว้ข้างละ 1 ตัว ด้านไมโครโฟนรับเสียงได้อย่างคมชััดทุกการติดต่อเช่นเดียวกันแม้จะไม่มีก้านใดๆ ยื่นเข้ามาใกล้ปาก และการควบคุมที่หรูหราไม่ซ้ำใครด้วยการนำ Digital Crown บน Apple Watch มาใช้บน AirPods Max รวมถึงมาพร้อม Siri Always On และเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกแบบสุดๆ ใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว ด้านแนวเสียงก็พิเศษเช่นเดียวกับ AirPods Pro การรองรับ Spatial Audio และ Dolby Atmos ครับ

ทำไมถึงควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

จากรายละเอียดความสามารถของทั้ง 3 รุ่นที่กล่าวมาข้างต้นก็พอจะเป็นเหตุผลในการเปลี่ยนจากหูฟังไอโฟนมาเป็น AirPods กันพอสมควรแล้ว ด้วยฟังก์ชันที่ต้องบอกเลยว่าจัดเต็มพร้อมที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานให้เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อ, ความสะดวกสบายในการพกพา, ฟังก์ชันใช้งานเพิ่มเติมเด่นของรุ่น และฟังก์ชันกันน้ำกันเหงื่อตอบโจทย์สายออกกำลังกาย ซึ่งถ้าถามว่าทำไมต้องเปลี่ยน? เรามาดูกันครับ

1. ไม่มีสายย่อมสะดวกกว่ามีสายแน่นอน

เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

สำหรับ iPhone 12 Series ทาง Apple จะไม่แถมอะไรมาให้ในกล่องเลยนอกจากสายชาร์จ 1 เส้นเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ต้องการใช้งานหูฟังไอโฟนนั้นจำเป็นต้องซื้อแยกแน่นอน แต่เมื่อซื้อแยกทั้งทีทำไมไม่ซื้อหูฟังไร้สายไปเลย ด้วยจุดเด่นก็คือไม่มีสายมากวนใจทั้งซ้ายและขวา สามารถขยับและเคลื่อนไหวได้คล่องตัวไม่ต้องมาคอยคุยไปถือไอโฟนไป และจับสายให้พ้นตัวไปมา รวมถึงยังสามารถวางไอโฟนทิ้งไว้และเดินห่างออกไปได้ไกลถึง 10 เมตรอีกด้วย ที่สำคัญไม่ต้องกลัวว่าจะลืมและเกี่ยวสายจนทำไอโฟนตกพื้น รวมถึงไม่ต้องมาคอยจับไมค์ให้ตรงปากเพราะกลัวจะรับเสียงได้ไม่ชัดอีกด้วย

2. การเชื่อมต่อที่ง่ายและสะดวกมาก

เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

หลายๆ คนอาจจะคิดว่าว่าหูฟังไอโฟนมีสายเพียงแค่เสียบกับไอโฟนก็ใช้งานได้ทันทีจะมีอะไรง่ายกว่านี้อีก แต่ถ้าได้ลองใช้ AirPods แล้วจะรู้ว่ามีง่ายกว่านั้น เพราะเพียงแค่เปิดฝาเคสและนำมาวางใกล้กับไอโฟนจะมี Pop-Up ขึ้นมาให้แตะเพื่อเชื่อมต่อและแค่เพียงแตะเดียวเท่านั้นทุกอย่างก็เป็นอันสำเร็จ ตัว AirPods จะเชื่อมต่อเข้ากับทุกอุปกรณ์ที่ลงชื่อเข้าใช้ Apple ID เดียวกัน รวมถึงการสลับใช้งานยังง่ายมากๆ เพราะด้วย iOS14 ขึ้นไป เพียงแค่กดเล่นเสียงที่อุปกรณ์ใดก็ตาม ตัวแอร์พอดส์ก็จะเชื่อมต่อกับอุปกรณ์นั้นๆ และเล่นเพลงโดยอัตโนมัติ ที่สำคัญเมื่อไม่ใช้ก็เพียงเก็บหูฟังลงเคสก็จะตัดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติ และหากต้องการใช้งานก็เพียงหยิบอออกจากเคสเท่านั้นตัวหูฟังก็จะเชื่อมให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมาคอยถอดๆ เสียบๆ ให้วุ่นวายครับ

3. ควบคุมสะดวก รองรับ Siri Always On

เหตุผลที่ควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods

ด้านการควบคุมต้องบอกเลยว่าสะดวกมากๆ เพราะทุกรุ่นนั้นมาพร้อมการควบคุมที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ไม่ต้องมาคอยงมหารีโมทบนสายให้วุ่นวาย ทั้งการควบคุมด้วยระบบสัมผัสบน AirPods 2, การบีบที่ก้านบน AirPod Pro และควบคุมผ่าน Digital Crown บน AirPods Max รวมถึงทุกรุ่นยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะเล่น/หยุดโดยอัตโนมัติตามการสวมใส่ และด้วยชิพ Apple H1 ทำให้รองรับ Siri Always On เรียกใช้งาน Siri ได้ตลอดเวลาเพียงพูดว่า “หวัดดี Siri” โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ ให้วุ่นวายอีกด้วย

4. ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนระดับต้นๆ ของวงการ

ฮ

อีกจุดเด่นที่ AirPods เหนือกว่าหูฟังไอโฟนทั่วๆ ไป นั่นคือฟังก์ชันการใช้งานเสริม ทั้งการตัดเสียงรบกวนที่ทำได้ยอดเยี่ยมในระดับต้นๆ ของวงการหูฟังโดยมีอยู่ใน AirPods Pro และ AirPods Max รวมถึงโหมดรับเสียงภายนอก Transparency ที่ให้เสียงได้คมชัดแทบจะไม่ต่างกับเสียงที่ได้ยินในขณะที่ไม่ใส่หูฟังอยู่เลยทีเดียว และยังรวมถึงความสามารถในการกันน้ำเหงื่อและละอองน้ำใน AirPods 2 และ AirPods Pro ตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย ซึ่งในหูฟังไอโฟนทั่วๆ ไปจะไม่สามารถกันน้ำได้รวมถึงสายยังเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนไหวขณะออกกำลังกายอีกด้วยครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 4 เหตุผลที่ว่าทำไมถึงควรเปลี่ยนจาก หูฟังไอโฟน เป็น AirPods จะเห็นได้หูฟังไอโฟนไร้สาย และ หูฟังไอโฟน AirPods จัดเป็นสินค้าที่คุ้มค่ากับการลงทุนจริงๆ ด้วยจุดเด่นในการใช้งานทั้งเรื่องการเชื่อมต่อ ฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน ไมโครโฟนที่คมชัด การควบคุมที่สะดวก และความสบายในการสวมใส่ที่ต้องบอกเลยว่าปี 2021 ถ้าซื้อไอโฟน, ไอแพด, แมคบุ๊ค และสินค้าแอปเปิ้ลอื่นๆ แล้ว หูฟังไร้สาย AirPods ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้จริงๆ ซื้อครั้งเดียวใช้ได้ครบกับสินค้าแอปเปิ้ลทุกอย่างครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2