นับเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับวงการสมาร์ทโฟนมานานทีเดียว กับเคสกันกระแทกของ UAG หรือ URBAN ARMOR GEAR ผลิตภัณฑ์จากฝั่งอเมริกาที่มาเจาะตลาดในบ้านเราจนมีฐานแฟนค่อนข้างแน่นหนา หลังจากรุ่นแรกวางขายให้ได้ลองใช้งานกัน ก็มีการพัฒนาสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อรองรับการป้องกันสมาร์ทโฟนให้ครอบคลุมลักษณะการใช้งานที่หลากหลายกว่าเดิม ถึงแม้ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ จะดูบอบบางขึ้น เพราะต้องการนำเสนองานดีไซน์ที่หรูหราและทันสมัย แต่เคสกันกระแทกของ UAG ก็ยังป้องกันความเสียหายของสมาร์ทโฟนจากการกระแทกได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่เคสของค่ายนี้จะมีเสียงตอบรับในเชิงบวกตั้งแต่วันแรกจนมาถึงปัจจุบันนั่นเองครับ

นอกจากรูปลักษณ์การออกแบบที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์ ชนิดที่ว่าเพียงแค่ได้เห็นเคสกันกระแทกโดยไม่ต้องดูชื่อแบรนด์ ก็ยังรู้ได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของค่าย UAG ด้วยการผสมผสานความดุดันสไตล์ทหารกับความล้ำสมัยที่เข้ากันได้อย่างลงตัว จึงเป็นเคสกันกระแทกที่ใช้ได้ยาวนานโดยไม่มีตกยุค แถมยังดูเป็นคนมีรสนิยมอีกด้วย แต่ความโดดเด่นที่เห็นด้วยตานี้ ยังไม่ใช่ที่สุดของหัวใจสำคัญในการออกแบบ เพราะทาง UAG เขาคิดมาอย่างดีแล้วว่าแต่ละจุดจะต้องมีคุณสมบัติอะไร

• ด้านหลังเคสกันกระแทกที่ต้องมีถึง 2 ชั้น โดยจะมีส่วนที่เป็นวัสดุแข็ง คงรูปได้ดี สามารถรับแรงบิดและแรงกดได้พอสมควร ชิ้นส่วนนี้จะห่อหุ้มด้วยวัสดุอีกประเภทหนึ่งที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวลกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อให้เคสสามารถรับแรงกระแทกที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงได้

• ด้านหน้าเคสกันกระแทกที่ต้องยื่นเกินจอสมาร์ทโฟนออกมา และหากสังเกตให้ดี บริเวณขอบจะโค้งเข้า ตรงที่เป็นมุมทั้งสี่ก็จะหนากว่าส่วนอื่น ทั้งนี้ก็เพื่อรองรับการกระแทกทางด้านหน้า เมื่อสมาร์ทโฟนตกหล่น หน้าจอก็จะไม่สัมผัสกับพื้นล่างโดยตรง

• ช่องเสียบและปุ่มสั่งการทั้งหมด จะออกแบบให้มีขนาดใหญ่ และสะดวกเวลาใช้งานจริง ตรงช่องเสียบจะไม่มีปัญหาหัวสายชาร์จติด และตรงปุ่มกดก็จะใช้วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อให้กดได้ง่ายขึ้นแม้ว่าจะยังสวมใส่เคสกันกระแทกอยู่

• วัสดุทั้งหมดมีความแข็งแรงทนทาน ไม่มีปัญหาสีหลุดลอกแล้วไปติดที่หลังเครื่องของสมาร์ทโฟน และเฉดสีของเคสกันกระแทกก็จะไม่ซีดจางลงไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน

ถ้ากำลังคิดว่าหลักการออกแบบเคสกันกระแทกของ UAG เป็นอะไรที่สุดยอดแล้ว ต้องมาดูความโดดเด่นของคุณสมบัติในด้านการใช้งานกันก่อน แล้วมุมมองที่มีต่อ UAG จะเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่ง อย่างแรกเลยก็คือเคสกันกระแทกทั้งหมดจะต้องผ่านการทดสอบก่อนนำออกจำหน่าย โดยลักษณะของการทดสอบจะเป็นการวัดที่ระดับความสูงจริงในการใช้งาน คือจำลองสถานการณ์ว่าถือสมาร์ทโฟนแล้วหล่นกระแทกพื้น ถ้าผ่านการทดสอบในทุกองศาเรียบร้อย และสมาร์ทโฟนที่ใช้ทดสอบไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน เคสกันกระแทกชิ้นนั้นก็จะถือว่านำไปจำหน่ายได้ตามปกติ แต่ที่ยิ่งกว่านั้นก็คือ ก่อนที่แต่ละรุ่นจะเปิดตัวออกมาจะต้องผ่านการทดสอบมาตรฐานในเชิงการตกทางการทหาร หรือที่เรียกว่า US Millitary Standards เสียก่อน ซึ่งเป็นการทดสอบที่ค่อนข้างโหดเอาเรื่องเหมือนกัน ประมาณว่าต้องเป็นเคสกันกระแทกที่ทนทานจริง ๆ เท่านั้นถึงจะได้กลายเป็นสินค้าของ UAG

ส่วนเรื่องการใช้งานจริงก็ถือว่าตอบโจทย์ความต้องการได้ดี ถึงแม้เคสกันกระแทกจะดูเหมือนหนาและใหญ่หากเทียบกับเคสซิลิโคนทั่วไป แต่เมื่อใส่แล้วเคสไม่บีบรัดสมาร์ทโฟน ให้ความกระชับกำลังดี น้ำหนักเบามาก และยึดหยุ่นได้ดีด้วย เวลาถือก็จะรู้สึกถนัดมือมากกว่า ไม่มีปัญหาลื่นหลุดมือได้ง่ายเนื่องจากมีความหนืดของผิวสัมผัสด้านหลังนั่นเอง เรื่องกันกระแทกคงไม่ต้องอธิบายกันให้มากความ เพราะจัดเป็นเคสกันกระแทกที่ป้องกันความเสียหายได้แบบรอบด้าน ไม่เว้นแม้แต่ด้านหน้าที่ค่อนข้างบอบบาง ต่อให้ไม่ใส่กระจกกันกระแทกก็ไม่ต้องกังวล จะตกกี่ครั้งหรือจะตกสูงแค่ไหนก็ไม่เป็นปัญหาเลย ทุกรุ่นมีการรับประกันยาวนานถึง 10 ปี ในช่วงปีแรกหลายร้านจะมีบริการให้เคลมที่ร้านได้เลย หลังจากนั้นหากผลิตภัณฑ์มีปัญหาเมื่อไรก็เปลี่ยนไปแจ้งเคลมกับทางแบรนด์แทน นอกจากนี้เคสกันกระแทก UAG ยังรองรับการใช้งานการแท่นชาร์จแบบไร้สายรุ่นใหม่ ๆ ได้ด้วย สามารถวางชาร์จได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดเคสออก ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดีครับ

เหตุผลที่คนรักเคสกันกระแทก UAG ไม่เคยเปลี่ยนใจ

สำหรับครั้งแรกในการตัดสินใจซื้อเคสกันกระแทก UAG หลายคนอาจจะต้องใช้เวลาสักพักหนึ่งก่อนเพื่อพิจารณาหลายองค์ประกอบ ยิ่งถ้าแต่เดิมคุ้นเคยกับเคสซิลิโคนทั่วไป การต้องจ่ายเพิ่มขึ้นให้กับเคสที่รู้สึกว่าเป็นอุปกรณ์เสริมธรรมดา ๆ ก็อาจจะรู้สึกขัดใจอยู่บ้าง แต่หลังจากที่ได้ลองใช้เคสกันกระแทกของ UAG สักรุ่นหนึ่งแล้ว เกือบทั้งหมดก็จะหลงรักและกลายเป็นสาวกค่าย UAG ไปโดยปริยาย เพราะสิ่งที่ทางแบรนด์เคลมเอาไว้ว่าสามารถให้อะไรได้บ้าง มันเป็นไปตามที่แจ้งจริงทุกประการ เช่น วัสดุมีความคงทน รับแรงกระแทกแบบรอบด้านได้ดี เป็นเคสกันกระแทกที่ระบายความร้อนดีและมีความยืดหยุ่นสูง ไม่ก่อให้เกิดผลเสียกับสมาร์ทโฟนในระยะยาว เป็นต้น เมื่อผู้บริโภคได้สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้ มันจึงกลายเป็นความเชื่อมันแล้วก็ไม่อยากจะเสี่ยงเพื่อไปลองแบรนด์อื่นอีก

ในส่วนของค่าย UAG เอง ก็ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ พร้อมพัฒนาอุปกรณ์เสริมมือถือประเภทเคสกันกระแทกให้มีฟังก์ชันใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ งานดีไซน์ก็ไม่ได้ดุดันอย่างเดียวเหมือนรุ่นแรก ๆ มีความสะดุดตาและน่าใช้มากขึ้น ยิ่งกว่านั้นก็มีราคาที่จับต้องได้มากขึ้นด้วย จึงไม่น่าแปลกใจอะไรที่เคสกันกระแทก UAG จะครองใจคนใช้สมาร์ทโฟนได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน มาถึงตรงนี้ก็น่าจะทำให้ได้เห็นแล้วว่าสินค้าของแบรนด์นี้น่าสนใจอย่างไร ใครที่ยังไม่เคยลองใช้ ขอแนะนำให้ลองไปสัมผัสกันได้ที่ร้านอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนทั่วไป รับรองว่าใช้แล้วจะติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ต้องระวังของลอกเลียนแบบกันด้วยนะครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับเหตุผลว่าทำไมเคสกันกระแทก UAG ถึงได้รับความนิยมจากคนไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน ด้วยคุณภาพของสินค้าและเทคโนโลยีในการผลิต ที่ช่วยป้องกันสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่คุณรักได้เป็นอย่างดี แถมยังมีดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม ดูโดดเด่น หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจเคส UAG ก็สามารถเลือกซื้อได้จากหน้าเว็บไซต์ Mercular.com ได้อย่างรวดเร็ว แล้วพบกับบทความนี่น่าสนใจจากเราได้ใหม่ในโอกาสหน้าครับ