เครื่องเล่นเพลง Fiio X3 2nd Gen Silver

รีวิว Fiio X3 2^nd Gen เครื่องเล่น DAP เสียงดี ของถูกและดีมีในโลก!

เครื่องเล่นเพลงอีกตัวที่ให้ความคุ้มค่าสูง สำหรับ Fiio X3 ตัวใหม่หรือ Fiio X3 Second Generation ที่มาด้วย Spec เทียบเคียงกับเครื่องเล่นเพลงหลักหมื่น อย่างเช่น ตัวชิปเสียงหรือ DAC ที่ใช้ของ Cirrus Logic ที่รองรับการเล่นไฟล์แบบ DSD และใช้ในเครื่องเล่นเพลงระดับ High End ราคาหลักหมื่นอย่าง Astell & Kern รุ่น AK100II และรุ่น AK240 เป็นต้น รวมไปถึงชิปขยายเสียงหรือ AMP รุ่นใหม่ล่าสุดทำให้เสียงที่ได้เรียกได้ว่า “เกินคุ้ม” ราคาค่าตัวไปมาก และตัว Line Out ของเครื่องที่ให้มา 2 รูด้านบนตัวเครื่อง ทำให้เลือกได้ว่าจะต่อหูฟังโดยตรง หรือส่งสัญญาณไปยังเครื่องขยายเสียง (Amplifier) ตัวอื่นภายนอกได้ อีกทั้งยังมี Micro SD Card Slot เก็บข้อมูลซึ่งปัจจุบันความจุสูงสุดอยู่ที่ 128 GB รวมไปถึงหน้าตาการใช้งาน หรือ User Interface ที่ปรับปรุงใหม่ ปุ่มแบบ ClickWheel ทำให้สะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น ซึ่งความคุ้มค่าทั้งหมดนี้มาในราคาไม่ถึง 7 พันบาท

อุปกรณ์ในกล่อง Fiio X3 2^nd Gen

• • 1 X เครื่องเล่นเพลง Fiio X3 รุ่นสอง
• • 1 X สาย Mini(3.5mm) to Coax
• • 1 X สาย USB สำหรับชาร์จแบต
• • 1 X เคสซิลิโคนสีดำ
• • 2 X ฟิล์มกันรอยหน้าจอสำรอง ด้านหน้าและหลัง (อีกอันแปะมาให้ที่เครื่องแล้ว)
• • 3 X กันรอยแบบแปะที่ตัวเครื่อง มี 3 ลาย (ลายไม้ ลายธงชาติ และลายเคฟล่า)
• • 1 X คู่มือแนะนำการใช้งาน

การเชื่อมต่อ

• • AUX (3.5mm) - ด้านบนเครื่องด้านซ้ายใช้สำหรับเสียบหูฟัง 
• • Line Out (3.5mm) - ด้านบนเครื่องด้านขวา สำหรับต่อกับแอมป์ภายนอกอย่าง Fiio E12, Fiio A3 หรือ Fiio E10K
• • USB - สำหรับชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่
• • Micro SD Card Slot - เพิ่มความจุสูงสุดถึง 128 GB

แบตเตอร์รี่

• • ใช้ขนาด 2,600 mAh เล่นต่อเนื่องได้ถึง 12 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง

ความจุ

ในส่วนของความจุ Fiio X3II Music Player ไม่มีความจุภายในตัวเครื่องมาให้ ต้องใส่ Micro SD Card อย่างเดียว โดยเรียกได้ว่าใครอยากใส่เพลงเยอะขนาดไหนก็มีให้เลือกสรร โดยปัจจุบันจะมีรองรับสูงสุดถึง 128 GB เลยทีเดียว

ไฟล์ที่รองรับ

• • ไฟล์ไฟล์ทั่วไป - MP3, WMA, AAC, OGG, MP2
• • ไฟล์ความละเอียดสูงหรือ Lossless - APE, FLAC, ALAC, WAV, DSF, DFF รองรับสูงถึง 192k/24 Bit เลยทีเดียว และไฟล์ที่เป็น Native DSD ทั้ง 64 Bit และ 128 Bit

เสียง

ถือเป็นจุดรวมของความคุ้มค่า ตั้งแต่การใช้ตัวถอดรหัสของ Cirrus Logic รุ่น CS4398 ที่จะพบได้ในเครื่องเล่นระดับ High End อย่าง Astell & Kern รุ่น AK100II และรุ่น AK240 เป็นต้น ทำให้เครื่องเล่นเพลง Fiio X3 2^nd Gen รุ่นนี้ให้เสียงที่โปร่งกว่า รายละเอียดมากกว่ารุ่นน้องอย่าง Fiio X1 เรียกได้ว่าเสียงที่ได้เกินค่าตัวไปมากทีเดียว

• • เสียงกลาง: เป็นแนวเสียงเด่นของเครื่องเล่นตัวนี้ เมื่อใช้กับหูฟังอย่าง Shure SE 535 จะดึงเสียงกลางให้มีรายละเอียด และหวานมากขึ้นทำให้ได้ยินเสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรีและเมโลดี้ของเพลงอย่างมีอรรถรสมากขึ้น
• • เสียงสูง: ให้เสียงแหลมที่มีความสว่าง เป็นประกาย และมีขอบที่คมชัด ได้ยินเสียงดนตรีอย่างชัดเจน เมื่อทดลองฟังกับหูฟัง Master & Dynamic ME03 ก็เห็นการเปลี่ยนแปลงของเสียงแหลมพอสมควร โฟกัสของชิ้นดนตรีนิ่ง ชัดขึ้น และมีรายละเอียดมากขึ้น
• • เสียงเบส: จากที่ฟังคู่กับ Audio-Technica Ath IM02 และ Ath IM03 เสียงเบสที่ถ่ายทอดออกมาจะให้รายละเอียดที่มากขึ้น ได้ยินหัวโน้ตชัดขึ้นและมีแรงกระแทก (Impact) ดีและเก็บตัวได้เร็ว ไม่แสดงอาการบวมให้ได้้ยินแต่อย่างใด
• • แรงขับ: ถึงแม้จะตัวเล็กแต่แรงขับที่ให้ถือว่าเกินขนาดพอตัว เมื่อนำมาจับคู่กับหูฟัง Fullsize อย่าง Audio-Technica Ath M50x ก็สามารถขับรายละเอียดออกมาได้อย่างไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

สรุปเครื่องเล่นเพลง Fiio X3II เหมาะกับใคร?

เครื่องเล่นเพลง Fiio X3 2^nd Gen เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการจริงจังกับการฟังเพลงมากยิ่งขึ้น โดยเครื่องเล่นตัวนี้ขยับทิ้งห่างออกมากจากคำว่า “Music Lover” ไปใกล้ “Audiophile” มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานประกอบที่ใช้วัสดุที่ดี ชิปเสียงที่สามารถดึงรายละเอียด โฟกัสของชิ้นดนตรี อิมเมจ และขยายเวทีเสียง (SoundStage) ออกมาได้นิ่ง กว้างและชัดเจนมากขึ้นกว่าเครื่องเล่นเพลงรุ่นน้องอย่าง Fiio X1 พอสมควร แม้จะไม่ได้ไปไกลมากเท่า Fiio X5 2^nd Generation (Fiio X5II) หรือ Fiio X7 แต่เมื่อเทียบกับค่าตัวแล้วถือว่ามีความคุ้มค่าสูงมาก หากใครที่ต้องการจะขยับจากฟังเพลงแบบ Music Lover ให้มีความจริงจังเพิ่มขึ้น ฟังไฟล์ Lossless มากขึ้นและมีงบในมืออยู่ในช่วง 6-7 พันบาท Fiio X3II เป็นหนึ่ง Digital Music Player ที่คุณต้องมีในลิสอย่างแน่นอน