แบรนด์แอปเปิ้ลนั้นเคยถูกจัดเป็นแบรนด์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกแบรนด์หนึ่งเหนือ Google และ Amazon ซึ่งความสำเร็จนี้ก็มาจากความคิดสร้างสรรค์ และผลิตภัณฑ์ที่มักจะออกมาสร้าง Big Impact ให้กับโลกได้เสมอ แต่ก่อนที่สินค้าของพวกเขาจะถูกพิสูจน์คุณภาพจากการใช้งานจริง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการขายอันเหนือชั้นของ Steve Jobs เป็นเหมือนสปอตไลท์ที่ทำให้แบรนด์ Apple โดดเด่นและถูกจับตามอง ส่งผลให้ตัวแบรนด์เติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น โดยในวันนี้ mercular.com ก็จะขอนำเรื่องราวของสินค้า Apple ยุคแรกเริ่ม และเทคนิคการขายอันแพรวพราวของ Jobs ในยุคก่อตั้ง Apple มาเล่าให้ฟังกัน

เรื่องราวของ Brand Apple เริ่มต้นจากสิ่งประดิษฐ์ที่ชื่อว่า Blue Box ที่อาจจะไม่ใช่สินค้าออริจินอลของ Apple แต่เป็นสิ่งแรกที่ผู้ก่อตั้งทั้ง 2 คน Steve Jobs และ Steve Wozniak ร่วมมือกันสร้าง โดยขณะนั้นพวกเขามีอายุแค่ 16 และ 21 ปีเท่านั้น อุปกรณ์ชิ้นนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถโทรศัพท์ทางไกลได้แบบฟรี ๆ แถมพวกเขาสามารถขายมันได้หลายร้อยชิ้น ทำเงินได้หลายพันดอลล่าห์ หรือเทียบเท่าเงินหลักแสนบาทจากค่าเงินในสมัยนั้น แม้ว่าจะทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ทางไกลสมัยนั้นเสียเงินไปหลาย แต่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ทำให้ทั้ง 2 คนไว้วางใจและสนิทสนมกันมากขึ้น พวกเขาเริ่มแบ่งปันความฝันในการสร้าง Apple ขึ้นแต่ฝันที่จะก่อตั้งบริษัทในขณะนั้นกลับต้องพักไป เพราะ Steve Jobs ต้องไปเรียนต่อที่ต่างรัฐ

ต่อมาปี 1975 หลังจากที่ Steve Jobs ดรอปเรียนกลับมา Jobs และ Wozniak ก็รวมตัวกันออกแบบโปรเจคคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและนำไปเสนอขายที่ Homebrew Computer Club และได้ทำสัญญาขายเจ้าเครื่องนี้ให้กับ Byte Shop 50 เครื่อง ซึ่งเมื่อดูความพร้อมแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะส่งมอบเครื่องให้ทันวันจำหน่าย แต่โอกาสทำเงินมาถึงที่มีหรือที่ Jobs จะปล่อยไป เขาตกลงทำสัญญาซื้อ-ขาย และเปิดโรงรถของพ่อเป็นโรงงาน เกณฑ์เพื่อน พ่อ แม่ พี่ น้อง มาเป็นแรงงาน และชวนเพื่อนจากที่ทำงานเก่าของตัวเองมาลงทุนเกิดเป็นบริษัท Apple เป็นครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน 1976 แน่นอนว่าการขาย Apple-1 ไปได้สวย จนทำให้ชื่อ Apple เข้าหูนักลงทุนจาก Silicon Valley ในเวลาไม่ถึงปี

หลังจากการขาย Apple-1 ไปได้ไม่ถึงปีดี Apple ก็ได้เงินทุนจากนักลงทุนขาใหญ่อย่าง Mike Markkula เป็นเงินถึง 250,000 เหรียญซึ่งในยุคนั้นมีมูลค่ามากถึง 30 ล้านบาท ด้วยเงินจำนวนมหาศาลทำให้ Jobs และ Wozniak ยกระดับการออกแบบคอมพิวเตอร์รุ่นต่อไปของตัวเองขึ้นไปอีกขั้น เกิดเป็น Apple II คอมพิวเตอร์ที่ทำให้ Apple กลายเป็นชื่อที่ทุกคนต้องจดจำ หนึ่งในนั้นก็คือการนำหน่วยความจำที่เป็น Floppy Disk มาใช้อย่างจริงจัง ซึ่งในยุคนั้นเองยังมีคอมพิวเตอร์อีกหลายเครื่องเลือกจะใช้เทปเป็นตัวบันทึกข้อมูลซึ่งนอกจากจะพกพายากแล้วยังมีพื้นที่น้อยกว่ามาก นอกจากนั้นก็ยังมาพร้อมกับการทำงานระบบเปิด และสเปคเครื่องที่แรงมาก ๆ จนรองรับ Software ได้หลากหลาย แต่ความสำเร็จของ Apple II นั้นอาจจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าไม่ได้วิธีการขายอันร้ายกาจของ Steve Jobs

แทนที่จะโชว์ตัว Computer รุ่นใหม่เฉย ๆ Jobs กลับประกาศขึ้นมาว่า Apple II ที่วางขายในงานนี้มาพร้อมกับ Feature พิเศษและถ้าเกิดคุณไม่ซื้อมันในงานนี้คุณจะพลาดฟีเจอร์นี้ไป ความแตกต่างของตัวเครื่องอาจจะเป็นปัจจัยหนึ่งแต่สิ่งสำคัญคือความเจ้าเล่ห์นี้ได้ทำให้แบรนด์ Apple กลายเป็นที่จับตามองในตลาดทันที สำหรับคนที่ต้องการความคุ้มค่าพวกเขาต้องรีบสั่งซื้อภายในงาน ส่วนคนที่ยังไม่ได้ลงทุนพวกเขาเฝ้ารอติดตามข่าวเพื่อดูว่าตัวคอมพิวเตอร์นั้นใช้งานได้ดีจริงหรือไม่ ทำให้ชื่อ Apple ไม่เงียบหายไปตามกาลเวลา ส่งผลให้ยอดขายของมันเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย Apple สามารถทำยอดขายเจ้า Apple-II ได้ 2 ล้านเหรียญในปีแรก 15 ล้านเหรียญในปีต่อมา และ 100 ล้านเหรียญในปีที่ 3 จากการเปิดตัว Software สำหรับงานออฟฟิศเฉพาะตัวบนเครื่อง Apple-II ทำให้แบรนด์ Apple เข้าไปอยู่ในแถวหน้าของอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ทันที

โดยที่เจ้า Apple-II นี่แหละที่สร้างบรรทัดฐานให้กับคอมพิวเตอร์ยุคต่อ ๆ ไปไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ Floppy Disk หรือสร้างการรับรู้ให้กับคนหมู่มากได้รู้จักและเข้าใจ Computer กันมากขึ้นซึ่งก็ต้องยกนิ้วให้กับการขายแบบกล้าได้กล้าเสียของ Steve Jobs จริง ๆ ที่พลิกเกมให้ Apple ได้เติบโตอย่างรวดเร็ว

> อ่านตอนต่อไป