หูฟังออกกำลังกายสำหรับวิ่งที่ดีที่สุด

24 ส.ค. 2561

หูฟังออกกำลังกายสำหรับวิ่งที่ดีที่สุด

การออกกำลังกายในปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ จากที่ได้เห็นได้จากการจัดงานวิ่งหรือคนที่หันมาสนใจในสุขภาพของตัวเองมากขึ้น ทำให้อุปกรณ์เสริมกลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนออกกำลังกายเลือกซื้อมาเพื่อเพิ่มศักยภาพตัวเองในการออกกำลังกายทำให้มีความฟิตมากกว่าเดิม หนึ่งในอุปกรณ์เหล่านั้นที่คนให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ คือหูฟังออกกำลังกาย เนื่องจากการฟังเพลงในระหว่างวิ่งนั้นมีผลต่อความอดทนของร่างกาย เพลงมีส่วนช่วยเพิ่มความอดทนของกล้ามเนื้อ เสียงเพลงจะช่วยให้การวิ่งมีอัตราที่เร็วขึ้น รวมทั้งเพลงยังช่วยเพิ่มระยะเวลาในการออกกำลังกาย แล้วเราจะเลือกหูฟังอย่างไรให้เหมาะสมกับการออกกำลังกายให้มากที่สุด วันนี้เรามี 4 หูฟังออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับการวิ่งมาแนะนำกันครับ

AfterShokz Trekz Air

มาเริ่มกันที่หูฟังตัวแรกอย่าง AfterShokz Trekz Air จากแบรนด์ AfterShokz ที่มาพร้อมกับการกันน้ำมาตรฐาน IP55 ทำให้คุณหมดกังวลเรื่องการกันฝุ่นและกันเหงื่อ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบไร้สายผ่านบลูทูธเวอร์ชั่นใหม่ 4.2 ทำให้คุณสามารถเชื่อมต่อได้ไกลด้วยสัญญาณที่แรงและเสถียร ที่สำคัญคือสามารถเชื่อมต่อได้ครั้งละหลาย ๆ เครื่องอีกด้วย และด้วยเทคโนโลยี PremiumPitch+ ที่อยู่ในหูฟังรุ่นนี้ทำให้เสียงที่ได้มีความสมบูรณ์ทั้งแบบกว้างและลึก พร้อมมิติที่สมจริง มีระบบช่วยลดเสียงรบกวนที่หลุดรอดเข้ามา มีไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงถึง  2 ตัวทำให้เสียงที่ได้ยินคมชัด แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จแค่ครั้งเดียวอีกด้วย

Jaybird X3

มาต่อกันที่หูฟัง Jaybird X3 เป็นหูฟังที่ไร้สายราคาอยู่ในระดับหลักพันกลาง ๆ จึงน่าจะตอบโจทย์สำหรับนักวิ่งที่มีงบอยู่ในระดับกลาง ๆ มาพร้อมกับความสามารถที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายและเล่นกีฬาเป็นอย่างยิ่ง  แม้จะมีขนาดเล็กแต่สามารถสวมใส่ภายใต้หมวกกีฬาหรือหมวกนิรภายได้อย่างสบาย ๆ มีครีบหูฟังช่วยในการยึดให้แน่นหู มีแบตเตอรี่การใช้งานยาวนาน เชื่อมต่อสัญญาณแรงและเสถียร และที่สำคัญสามารถกันน้ำและเหงื่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ

Bose SoundSport Wireless

หูฟัง Bose SoundSport Wireless เป็นหูฟังประเภทไร้สายแบบ In-Ear ราคาเป็นมิตรกับนักวิ่ง ด้วยจุดเด่นในเรื่องเสียงที่ฟังสนุก เน้นเบส เน้นจังหวะ จึงเหมาะสำหรับการสวมใส่ขณะออกกำลังกายหรือเล่นกีฬา มาพร้อมกับคุณสมบัติการกันละอองน้ำและกันเหงื่อ รองรับระบบ NFC ทำให้สามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ง่าย น้ำหนักเบา สวมใส่สบายหู

Jabra Elite Active 65T

และหูฟังตัวสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำในวันนี้ก็คือหูฟัง Jabra Elite Active 65T หูฟัง In-Ear ไร้สาย True Wireless ตัวหูฟังมีขนาดเล็กน้ำหนักเบามาก ๆ จุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือเสียงที่โปร่ง คมชัด ฟังสบาย โทนเสียงที่ได้จะเป็นโทน Flat และ Balance คือมีเสียงกลางที่เด่น แต่ก็ให้รายละเอียดเสียงที่คมชัด เบสที่ได้นั้นเป็นลูกชัดเจน ลงได้ลึกพอประมาณ ส่วนเสียงสูงให้รายละเอียดได้ดีมาก ถือได้ว่าเป็นหูฟังที่ฟังติดหูง่าย และยังปรับ EQ เพิ่มเติมได้ในแอปพลิเคชั่นอีกด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับหูฟังออกกำลังกายทั้ง 4 รุ่นที่เรานำมาแนะนำให้กับนักวิ่งได้รู้จักในวันนี้ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้นักวิ่งหรือผู้ที่ชื่นชอบในการออกกำลังกายสามารถตัดสินใจเลือกซื้อหูฟังที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานและการออกกำลังกายของตัวเองได้ไม่มากก็น้อยนะครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2