เคยสงสัยไหมครับว่า...ในกีฬา E-Sport ที่เราเห็นในการแข่งขันเกมดังๆ แต่ละทีมที่ลงแข่งจะใช้ Gaming Gear ของตัวเอง ซึ่งหนึ่งใน Gaming Gear ที่สำคัญมากๆ ก็คือหูฟัง แต่สำหรับคนทั่วไปอย่างเราๆ การใช้หูฟังเกมมิ่งมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน แล้วเจ้าหูฟังเกมมิ่งมันดีกว่าหูฟังทั่วไปที่เราใช้ฟังเพลงไหม ในบทความนี้ Mercular.com จะมาแนะนำให้ผู้อ่านทุกท่านรู้จักกับ Gaming Headphone กันอย่างลึกซึ้ง มาติดตามกันเลยครับ

หูฟังเกมมิ่ง (Gaming Headphone) คืออะไร?

ก่อนที่เราจะเข้าไปสู่รายละเอียดเชิงลึก เราต้องรู้จักกันก่อนว่าหูฟังเกมมิ่ง แท้จริงแล้วมันคืออะไร ถ้าให้ตอบกันแบบกำปั้นทุบดินเลย หูฟังเกมมิ่ง ก็คือหูฟังที่ใช้สำหรับเล่นเกมนั่นแหละ โดยจะมีราคาตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักหมื่นเลยเช่นเดียวกับหูฟังทั่วไป ซึ่งราคาก็จะเกี่ยวเนื่องถึงคุณภาพด้วยครับ สำหรับจุดแตกต่างที่หูฟังเกมมิ่งแตกต่าง จากหูฟังทั่วไป เราสรุปมาให้ดังนี้ครับ

จุดแตกต่าง

• ไมโครโฟน: สิ่งแรกที่ขาดไม่ได้เลยคือ หูฟังเกมมิ่งจะมีไมโครโฟนในตัวสำหรับสื่อสารกันในทีมระหว่างเล่นเกม เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนไหว หากใช้ไมโครโฟนแยกออกมาตั้งตรงด้านหน้าจะทำให้การเล่นเกมไม่ถนัด หรือไม่ค่อยคล่องตัวนั่นเอง ซึ่งเจ้าไมโครโฟนนี้ค่อนข้างมีความสำคัญสำหรับเกมที่ต้องใช้ทีมเวิร์คสูง ดังนั้นหากคุณกำลังคิดที่จะเล่นเกมดังกล่าวละก็ Gaming Headphone เป็นสิ่งที่ควรมีเป็นอย่างยิ่งเลยครับ
• รูปร่าง หน้าตา: จุดแตกต่างข้อที่สองคือรูปร่าง หน้าตาของหูฟังเกมมิ่ง อันนี้ค่อนข้างชัดเจนว่าแตกต่างจากหูฟังทั่วไปแน่นอน ซึ่งจะเป็นเรื่องของความเท่ในการใช้งาน อาทิ มีไฟบริเวณโดยรอบ ดีไซน์ โฉบเฉี่ยว ทันสมัย และที่สำคัญคือ หูฟังเกมมิ่งจะมีน้ำหนักเบา! สาเหตุหลักๆที่ต้องออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา เป็นเพราะว่าการเล่นเกมในปัจจุบันโดยเฉพาะเกมที่ต้องใช้ความคิดเยอะ มักต้องใช้เวลาเล่นค่อนข้างนาน หากหูฟังมีน้ำหนักมาก จะทำให้ผู้สวมใส่ ค่อนข้างล้า และเกิดอาการเมื่อย หรือปวดหูได้นั่นเองครับ ดังนั้นการเลือกหูฟังเกมมิ่งที่มีน้ำหนักเบาจะช่วยให้การเล่นเกมของคุณสนุกและนานขึ้นโดยปริยายครับ (ส่วนมากจะถูกออกแบบด้วยพลาสติก)
• เสียง หรือการจำลองเสียง: มาถึงในเรื่องของเสียง ถ้าให้พูดกันตามตรงจากที่ลองใช้มาหลายแบรนด์ เสียงกลาง เสียงสูง เสียงเบส ค่อนข้างไม่แตกต่างกันมากนัก ขึ้นอยู่กับว่าแบรนด์ไหนจะชูจุดเด่นในเรื่องใด ซึ่งส่วนใหญ่คงไม่พ้นเบสที่จะช่วยเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมให้มากขึ้นนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญที่หูฟังเล่นเกมทุกชนิดต้องมีเหมือนกันคือ Soundstage หรือ เวทีเสียง ที่กว้างกว่าหูฟังปกติทั่วไป สามารถแยกทิศทางซ้ายขวา รวมถึงแนวลึก ได้อย่างชัดเจน เหมาะสำหรับเกมที่ต้องอาศัยการแยกทิศทางอย่าง Counter Strike Global Offensive (CSGO) หรือเกมที่กำลังเป็นกระแสมาแรงอย่าง Player’s Unknown Battleground (PUBG) ครับ

หูฟังเกมมิ่งจำเป็นสำหรับการเล่นเกมไหม?

มาถึงคำถามสำคัญสำหรับบทความนี้ว่าหูฟังเกมมิ่ง จำเป็นสำหรับการเล่นเกมมากน้อยแค่ไหน หากพูดถึงในระดับ Pro Player เล่นกัน ต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันอย่างเอกฉันท์ว่า Gaming Headphone มีความสำคัญมาก แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปอย่างเราๆ การเลือกใช้หูฟังเกมมิ่ง ทางเราแบ่งให้เป็น 2 ประเภทการเล่นเกมดังนี้ครับ

• MOBA (Multi-player Online Battle Arena) เกม Moba เป็นเกมที่ไม่จำเป็นต้องใช้การแยกทิศทางของเสียงเลย อาศัยการควบคุมเม้าส์ อ่านจังหวะของเกม แต่ต้องใช้ไมโครโฟนสำหรับการสื่อสารกับเพื่อนในทีม โดยเกมประเภท Moba ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากได้แก่ Dota2, League of Legends (LOL), Heroes of Newerth (HON) หรือเกมมือถือยอดนิยมอย่าง ROV เป็นต้นครับ ดังนั้นการเลือกหูฟังให้เหมาะกับเกมประเภทนี้คือต้องมีไมค์สำหรับสื่อสารนั่นเอง
• First Person Shooting (FPS) เกมลักษณะนี้อย่างที่เกริ่นไปว่าจะเป็นเกมแนวเดินยิง แบบบุคคลที่ 1 ครับ อารมณ์แนวๆ CSGO และ PUBG เลย ซึ่งทั้งสองเกมนี้จำเป็นต้องใช้การแยกทิศทางเสียงที่ค่อนข้างชัด และจำเป็นมาก รวมถึงต้องมีไมโครโฟนสำหรับการสื่อสารด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งนอกจาก 2 เกมที่กล่าวมาแล้วยังมีเกมแนว FPS อื่นๆ อย่างเช่น Overwatch, Paladin เป็นต้น ดังนั้นการเลือกหูฟังเกมมิ่งจำเป็นต้องคำนึงถึงเสียงและไมโครโฟนเป็นหลัก ส่วนรูปร่างหน้าตานั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละอ่านเลยครับ

สุดท้ายนี้ หากคุณเป็นคนที่จริงจังกับการเล่นเกม พร้อมที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในโลกของเกมเมอร์ หูฟังเกมมิ่ง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และจำเป็นต้องมีให้ครบทุกข้อไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟน รูปร่างหน้าตา ความเท่ และเสียงที่ตอบสนองทุกการเล่นเกมครับ แต่ถ้าคุณเล่นเกมเป็นครั้งคราว ไม่บ่อย หรือไม่ค่อยจริงจัง อันนี้สามารถเลือกหูฟังให้เหมาะสมกับประเภทของเกมก็พอครับ หรือ หันมาใช้ลำโพงปกติ สามารถทดแทนกันได้ในระดับหนึ่ง สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังเล่นเกมที่ราคาไม่แพงมาก สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ จากที่ผมลองมาหลายๆแบรนด์ สุดท้ายมาจบที่ Creative Sound BlasterX H7 Tournament Edition ราคา 3,790.- (อ่านรีวิวเพิ่มเติม) ครับ