16 พ.ย. 2560
โดยทั่วไปแล้ว หูฟัง ที่เห็นวางขายกันตามท้องตลาด หน้าร้านเครื่องเสียง รวมไปถึงร้านค้าหูฟัง ลำโพงออนไลน์อย่าง mercular.com ก็มี หูฟัง ให้ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของอยู่มากมายหลากหลายชนิด หลากหลายแบรนด์ และหลากหลายประเภทด้วยกัน รวมไปถึงยังมีการไล่ระดับราคา หูฟัง ตั้งแต่ หูฟังราคาถูก (ไม่กี่สิบ - ร้อยบาท) ไปจนถึง หูฟังราคาแพง (หลักหมื่น - หลักแสนบาท) ซึ่งผู้ใช้งานหลายๆ ท่านเองที่กำลังตัดสินใจซื้อหูฟังดีๆ คู่ใจสักรุ่น ก็เกิดข้อสงสัยและถามเข้ามาทาง mercular.com กันมากว่า หูฟังราคาแพงนั้นดีจริงรึเปล่า และแตกต่างจากหูฟังราคาถูกมากน้อยเพียงใด เพราะการจะซื้อหูฟังราคาแพงนั้นแน่นอนว่าผู้ใช้งานจำเป็นต้องจ่ายเงินจำนวนมาก การที่ได้หูฟังราคาแพงแต่ไม่ดีนั่นหมายความว่าสินค้าที่ได้ไม่คุ้มราคาและเป็นการเสียเงินไปโดยใช่เหตุ
โดยในบรรดาคำถามหรือข้อสงสัยมากมายหลากหลายข้อที่ผู้ใช้งานมีคำถามระหว่าง หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก นั้นก็คือ ของแพงเสียงดีกว่าของถูกจริงหรือไม่? นที่เรียกได้ว่าเป็นประเด็นหลักของการเลือกหูฟังเลยทีเดียว เพราะไม่ว่าใครๆ ก็ย่อมต้องการและอยากได้เป็นเจ้าของหูฟังที่ให้เสียงดี แล้วหูฟังที่ราคาสูงกว่าเสียงดีกว่าหูฟังที่ราคาถูกกว่าจริงไหม? ถ้าให้ตอบชัดๆ ก็ต้องบอกเลยว่า ส่วนใหญ่หูฟังราคาสูงมักจะดีกว่าหูฟังถูกกว่าด้วยราคาที่สูงกว่าทำให้ในการผลิตหูฟังสามารถเลือกใช้วัสดุที่มีความพรีเมียมและคุณภาพดีกว่าหูฟังที่มีราคาถูก และในด้านการใช้งานถ้าเกิดว่าผู้ใช้งานสลับใช้งานหูฟังบ่อยๆ โดยเฉพาะหูฟัง 2 ตัวที่มีช่วงราคาแตกต่างกันชัดเจน ก็อาจจะเริ่มจับสังเกตได้ว่าไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์หรือการฟังเพลง หูฟังราคาแพงนั้นมักจะสามารถขับรายละเอียดเสียงที่อาจจะได้ยินไม่ชัดในหูฟังราคาถูกหรือเสียงที่ไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะหูฟังราคาแพงนั้นมักจะมาพร้อมไดรเวอร์แบบพิเศษระดับพรีเมียมตามราคาที่สามารถขับช่วงเสียงได้กว้างและคมชัดในทุกช่วงนั่นเอง ซึ่งความพิเศษนี้มาจากการลงทุนในตัวไดรเวอร์หูฟังซึ่งไม่มีทางเกิดขึ้นได้ในไดรเวอร์ราคาถูกตามที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง ฉะนั้นแม้หูฟังราคาถูกจะสามารถมีเสียงที่ดีได้จากการปรับจูนให้เข้าหูผู้ฟัง แต่ในเรื่องคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res แล้วก็จะไม่สามารถปิดจุดอ่อนตรงนี้ไปได้ครับ และถึงแม้ว่าบางครั้งจะเจอหูฟังราคาหลักร้อยที่อาจจะมี Performance ที่ดีที่สุดในช่วงราคาจนเทียบเท่าหูฟังที่แพงกว่าได้ แต่เมื่อเทียบการทำงานของราคาถูกกว่าที่แม้จะเป็นรุ่นท๊อปจริงๆ ก็ถือว่ายังตามหูฟังราคาแพงอยู่พอตัว ซึ่งในบทความนี้ทาง mercular.com ก็ได้แตกประเด็นสำคัญๆ ระหว่าง หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก ดังต่อไปนี้ครับ
5 หัวข้อเปรียบเทียบ หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก แพงกว่า ดีกว่าจริงหรอ?
1. งานประกอบ
2. ฟังก์ชั่น
3. เสียง
4. ประกัน
5. แบรนด์
เรียกได้ว่าแม้ตามความเป็นจริงจำนวนเงินที่มากกว่าย่อมต้องได้สินค้าที่มีคุณภาพที่ดีกว่าในทุกๆ ด้าน เพราะนั่นคือแรงจูงใจที่ทำให้ผู้ใช้งานนั้นยอมจ่ายเงินจำนวนมากกว่า ในขณะเดียวกันที่จำนวนเงินที่น้อยกว่าก็สามารถใช้ซื้อได้สินค้าประเภทเดียวกันได้นั่นเอง แต่ก็ปฏิเสธไปไม่ได้เลยว่ามีผู้ใช้งานหลากคนที่ยังคงสงสัยว่า จ่ายแพงกว่าจะได้หูฟังที่ดีกว่า คุ้มค่ากว่าจริงหรือไม่? ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้นำมาเปรียบเทียบเป็นข้อๆ เพื่อเคลียร์ความกังวลและข้อสงสัยให้กับผู้อ่านและผู้ใช้งานดังนี้
1. งานประกอบ
สำหรับหัวข้อแรกที่นำมาเปรียบเทียบกันนั่นคือในเรื่องของงานประกอบ ที่เมื่อเปรียบเทียบกันตรงๆ ตาต่อตา หมัดต่อหมัดแล้ว ผลที่ได้ในเรื่องของงานประกอบของ หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก นั้นได้ผลออกมาดังต่อไปนี้
หูฟังถูก
- วัสดุทั่วไป - หรือก็คือวัสดุที่ได้นั้นมีคุณภาพทั่วๆ ไป หาซื้อได้ไม่ยากและมีราคาไม่สูงมากด้วยงบในการทำหูฟังที่น้อยเพื่อให้ขายหูฟังได้ราคาถูก
- งานประกอบไม่เนี๊ยบ (การประกอบ ตัวประกบ) - ด้วยความที่งบประมาณไม่มากนัก ทำให้การผลิตอาจจะจำเป็นต้องทำในโรงงานที่มีค่าแรงต่ำ ซึ่งผลที่ตามมาคือคุณภาพงานที่ไม่เนี๊ยบ ประกบกันได้ไม่สนิท และมีสินค้าหลุด QC มากกว่าปกติ
- ความแข็งแรงทั่วไป - ต่อยอดมาจากหัวข้อวัสดุทั่วไป และงานประกอบไม่เนี๊ยบ ด้วยความที่งานผลิตไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควรหรือไม่สมบูรณ์มากพอ และไม่มี QC ที่เข้มงวด ผลที่ได้คือความแข็งแรงอยู่ในระดับปานกลางและอาจจะไม่แข็งแรงเท่าที่ควรครับ
หูฟังแพง
- วัสดุคุณภาพดี - แน่นอนว่าด้วยความที่หูฟังมีราคาแพง ทำให้มีงบในการเลือกสรรค์วัสดุระดับพรีเมียมที่ไม่เพียงแต่ให้ความหรูหราเท่านั้นแต่ยังมีความทนทานสูงอีกด้วย
- งานประกอบเนี๊ยบ - ด้วยงบประมาณในการผลิตที่สูงก็ย่อมทำให้สามารถผลิตในโรงงานที่ได้มาตรฐาน มีฝ่าย QC ที่เข้มงวด ผลที่ได้คืองานประกอบที่เนี๊ยบ
- ความแข็งแรง แน่นหนา - ต่อยอดมาจาก 2 หัวข้อข้างต้นเช่นกัน วัสดุคุณภาพดี งานประกอบที่เนี๊ยบ สินค้าที่ออกมาก็มีความแข็งแรง ทนทาน ทนต่อสภาพการใช้งานที่รุนแรงรวมไปถึงยังได้ความพรีเมียม หรูหรา สมราคาอีกด้วย
2. ฟังก์ชั่น
หูฟังถูก
เป็นที่น่าแปลกใจแต่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ เลยว่า หูฟังถูกมักจะมาพร้อมกับฟังก์ชันใช้งานที่มากมาย ครบถ้วนจนเรียกได้ว่าเกินราคาไปไกลมากๆ แต่ในขณะเดียวกันแม้ฟังก์ชันในการใช้งานที่ให้มาจะเรียกได้ว่าเยอะจนล้นแต่ในการใช้งานจริงกลับใช้งานได้ไม่ตอบโจทย์หรือทันใจเท่าที่ควร เช่น มากฟังก์ชั่น แต่ไม่เสถียร
- Touch sensor - กดไม่ลื่น บางทีไม่ได้ตั้งใจไปโดนก็กลายเป็นว่ารับคำสั่งไปในทันที
- ตัดเสียงรบกวน (ANC) - ตัดเสียงรบกวนได้น้อยกว่า และทำให้หูอื้อมากกว่า
- ไมโครโฟน - ใช้งานสนทนาคุยได้ ถึงจะไม่ได้ชัด 100% แต่ก็สนทนาได้ ในขณะเดียวกันก็มีเสียงรบกวนบ้าง
- ปรับเสียง EQ ได้ - แต่เมื่อปรับแล้วบางครั้งให้เสียงที่หลอนหู และมีเสียงที่เป็นธรรมชาติน้อยกว่าหูฟังแพง
หูฟังแพง
และก็เป็นที่น่าแปลกใจว่าหูฟังราคาแพงหลายๆ รุ่นมักจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่น้อยกว่าหูฟังราคาถูก แต่ในด้านการใช้งานกลับใช้งานได้ลื่นไหล ทันใจ และเพียงพอต่อการใช้งานจริงแม้จะมีฟังก์ชันน้อยกว่าก็ตาม เรียกได้ว่า น้อยแต่มากเน้นคุณภาพก็ว่าได้
- Touch sensor - ควบคุมได้อย่างลื่นไหล ทันใจ ไม่มีการทำงานผิดพลาดหรือทำงานโดยไม่ได้ตั้งใจ
- ตัดเสียงรบกวน (ANC) - ตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิท ไม่ทำให้หูอื้อ และสามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้
- ไมโครโฟน - ใช้งานสนทนาได้อย่างคมชัด และยังสามารถตัดเสียงแทรกหรือเสียงรบกวนได้ดีกว่าหูฟังถูกอย่างมาก
- ปรับเสียง EQ ได้ - สามารถปรับได้ด้วยแอปที่ทางแบรนด์พัฒนามาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับหูฟังรุ่นนั้นๆ และถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปรับ EQ ก็ให้เสียงเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม รวมถึงเมื่อปรับแล้วก็ยังให้เสียงที่เป็นธรรมชาติอีกด้วย
จากการเปรียบเทียบทำให้สรุปได้เลยว่า หูฟังแพงมักให้ฟังก์ชั่นมาน้อยกว่าแต่ในด้านการใช้งานจริงนั้นกลับทำออกมาได้ดีกว่า ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากกว่าหรือน้อยแต่มากนั่นเอง
3. เสียง
ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้นในเรื่องของความแตกต่างระหว่าง หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก ในส่วนของเรื่องเสียงน่าจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเปรียบเทียบที่เห็นได้ชัดมากที่สุดถึงความแตกต่าง ด้วยข้อจำกัดในเรื่องงบการผลิตหูฟังที่หูฟังราคาแพงก็จะได้ไดรเวอร์เสียงที่พิเศษกว่า คุณภาพการขับเสียงสูงกว่า ในขณะเดียวกันหูฟังราคาถูกก็จะมาพร้อมไดรเวอร์คุณภาพที่ต่ำกว่า และอาจจะไม่ใช่ไดรเวอร์พิเศษอะไร ด้วยข้อจำกัดด้านงบในการผลิต ซึ่งผลที่ได้คือให้คุณภาพของเสียงที่ด้อยกว่าอย่างปฏิเสธไปไม่ได้
หูฟังถูก
- ย่านเสียงเบส - ลูกใหญ่ แต่บวม
- รายละเอียด - น้อย ไม่หลากหลาย แบน เสียงไม่เปิด
- เวทีเสียง - มักโฟกัสตรงกลาง ไม่สมจริง รู้สึกอุดอู้
- ความธรรมชาติของเสียง - น้อย ฟังแล้วไม่ค่อยอินกับเพลง
หูฟังแพง
- ย่านเสียงเบส - ลึกกระชับ ไม่บวมมากวนย่านอื่น
- รายละเอียด - ดี ครบถ้วน ได้ยินย่านเสียงหรือรายละเอียดเสียงที่การฟังหูฟังทั่วไปอาจจะไม่เคยได้ยิน
- เวทีเสียง - กว้าง (Sound stage) ฟังแล้วรู้สึกโล่ง เหมือนอยู่ในสถานที่จริงที่มีการเล่นดนตรี หรืออยู่ในสถานที่เดียวกับฉากในภาพยนตร์
- ความธรรมชาติของเสียง - ฟังแล้วไม่รู้สึกปลอม มีความเป็นธรรมชาติสูง ผู้ฟังคล้อยไปกับเพลง
4. ประกัน
ในเรื่องของบริการหลังการขายหรือประกันเป็นผลที่มาจากข้อ 1. งานประกอบ นั่นเอง โดยหูฟังแพงก็จะมาพร้อมความทนทานและหรูหราที่แน่นอนว่าด้วยการมี QC ที่เข้มงวดก็ย่อมมาพร้อมกับการสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้งานว่าสินค้า หูฟังราคาแพง จะไม่พังง่ายและถึงแม้ว่าหูฟังแพงจะพังก็พร้อมมีทีมงานที่รองรับในเรื่องการซ่อมรวมถึงระยะเวลาในการรับผิดชอบที่นานกว่าหูฟังราคาถูก ซึ่งงบทั้งหมดที่ดำเนินการได้ก็มาจากราคาที่ผู้ใช้งานได้จ่ายไปตอนซื้อที่แพงกว่า ทำให้สามารถกระจายมาครอบคลุมบริการต่างๆ ได้นั่นเอง
หูฟังถูก
- โอกาสในการเกิดปัญหาเสีย - มากกว่า 3 - 5 เท่าของหูฟังราคาแพง
- เปิดใช้ครั้งแรก - มีโอกาสเสียมากกว่าหูฟังราคาแพง
- การตรวจสอบ (QC) - ไม่เข้มงวดมากนัก
- การเคลม - ขึ้นอยู่กับแบรนด์ แต่ส่วนมากจะไม่ง่ายเพราะทางแบรนด์แทบไม่เหลืองบประมาณจากการขายหูฟังที่ถูกมาก
หูฟังแพง
- การตรวจสอบ (QC) - เข้มงวดมาก
- การเคลม - ด้วยความที่มีราคาสูง ความคาดหวังของลูกค้าหรือผู้ใช้งานจึงสูงตาม ทำให้ทางแบรนด์มีการรับผิดชอบในด้านนี้เป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้ลูกค้าหรือผู้ใช้งานเสียความมั่นใจในตัวแบรนด์ และสามารถบริหารจัดการด้านการเคลมได้ง่ายกว่าด้วยงบจากรายได้ของหูฟัง
5. แบรนด์
และข้อสุดท้ายจาก 5 หัวข้อเปรียบเทียบ หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก แพงกว่า ดีกว่าจริงหรอ? กับหัวข้อแบรนด์ที่ต้องบอกเลยว่าเป็นหัวข้อที่ส่งผลต่อราคาของหูฟังเป็นอย่างมาก เพราะด้วยความที่เป็นแบรนด์ดังการรักษามาตรฐานของแบรนด์ ก็มีความจำเป็นที่จะต้องผลิตหูฟังราคาแพงออกมาเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ผู้ใช้งานทั้งในด้านวัสดุ งานประกอบ ฟังก์ชัน และด้านแนวเสียง รวมถึงตัวแบรนด์เองก็ทำให้ราคาสูงด้วย ยิ่งแบรนด์ดังยิ่งราคาสูง ในขณะที่หูฟังราคาถูกบางครั้งก็อาจจะมาจากแบรนด์ที่ไม่มีใครรู้จักหรือแบรนด์ทั่วๆ ไป และเมื่อเป็นแบรนด์ไม่ดังหรือแบรนด์ทั่วๆ ไปก็ไม่สามารถขึ้นราคาให้สูงจากมูลค่าของแบรนด์ได้ และไม่ได้ต้องแบกรับความคาดหวังจากผู้ใช้งานเท่าไหร่นักทำให้ไม่ได้มีควรมจำเป็นต้องรักษามาตรฐานหรือต้องเลือกใช้วัสดุแพงๆ ที่จะทำให้หูฟังมีราคาแพงไปด้วย
หูฟังถูก
- คนทั่วไปหรือผู้ใช้งานไม่ค่อยรู้จัก
- ใช้แล้วสบายกระเป๋า
- แฟน / ภรรยา รัก :)
หูฟังแพง
- คนรู้จักเยอะ ใช้แล้วหล่อ สวย เป็นเครื่องประดับร่างกาย
- ใช้แล้วดีต่อใจแต่ไม่สบายกระเป๋า
- อย่าให้ (แฟน / ภรรยา) รู้!
สรุป ใครซื้อหูฟังราคาไหนคุ้มที่สุด?
- 0 - 3,000 - คุ้มค่าสำหรับคนทั่วไป ฟังได้ดี ใช้งานได้สะดวก
- 3,000 - 6,000 - คุ้มสุด เสียงดี ฟังก์ชั่นครบ ใช้งานสะดวก
- 6,000-10,000 - คุ้มคนรักฟังเพลง เสียงและฟังก์ชั่นดีขึ้นไปอีกขั้น
- 10,000+ - คุ้มค่าสำหรับคนที่จริงจังกับการฟัง ตัวจบเรื่องเสียง และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ล้ำสมัย
จากข้อมูลข้างต้นก็พูดได้เลยว่าหูฟังราคา 3,000 - 6,000 เป็นจุดที่คุ้มค่ามากสุดสำหรับการใช้งานด้วยงบราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ไม่ต่ำจนเกินไป ฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วนใช้ได้จริง ใช้แล้วมีความเสถียร และเสียงที่ดีฟังสนุกตอบโจทย์ทุกกิจกรรม
สรุป หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก แพงกว่า ดีกว่าจริงหรอ?
จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา ก็สรุปได้สั้นๆ เลยว่าหูฟังแพงนอกจากจะมีคุณภาพดีกว่าแล้ว การใช้งานยังใช้แล้วมั่นใจได้มากกว่าหูฟังราคาถูก ที่แม้จะมีคุณภาพไม่ดีตามราคาแต่ก็ยังมีหูฟังถูกและดีอยู่ในตลาดให้ได้เลือกซื้อและจับจอง ขึ้นอยู่กับว่าจะหาเจอหรือไม่เท่านั้นเองครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 หัวข้อเปรียบเทียบ หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก แพงกว่า ดีกว่าจริงหรอ? ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา 5 หัวข้อเปรียบเทียบ หูฟังราคาแพง VS หูฟังราคาถูก แพงกว่า ดีกว่าจริงหรอ? ทั้งหมดจะช่วยผู้ใช้งานและผู้อ่านในการเลือกซื้อหูฟังได้ไม่มากก็น้อย และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากอ่านข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปได้ตามต้องการเลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีข้อมูลความรู้ใดใหม่ๆ และน่าสนใจ ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ
