สำหรับ ไมโครโฟน Elgato Wave 1 Microphone มาพร้อมราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย และฟังก์ชันเสียงที่ครบครัน รูปแบบการรับเสียงแบบ Cardioid โดยที่รับเสียงจากทางด้านหน้า มาพร้อม Sample Rate 48 kHz และสามารถรับเสียงในช่วง 70-20000 Hz อยู่ที่ความละเอียด 24-bit  สำหรับความพิเศษของรุ่นนี้คือสามารถควบคุมการใช้งานได้ง่ายผ่านทางไมโครโฟนและสามารใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Wave Link ในการปรับใช้งานมิกซ์เสียง และควบคุมเอาต์พุตได้ 9 แชนแนล มีการเชื่อมต่อที่ง่ายและรวดเร็ว โดยสามารถใช้งานผ่านพอร์ต USB Type-C และ Aux 3.5 mm นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Clipguard ที่ช่วยป้องกันเสียงพีคโดยไม่ได้ตั้งใจ และทำให้เสียงใส สะอาดและเพี้ยนน้อย ทำให้เสียงออกมาอย่างคมชัด เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งสตรีมเกม ทำพอดแคสต์ หรือใช้งานพากษ์เสียงก็สะดวก ในราคาเท่านี้ คุ้มค่ามากเลยทีเดียว

>ไปหน้าหลักสินค้า

สำหรับไมโครโฟน HyperX QuadCast S เป็นไมค์ usb ดีไซน์สวยที่มาพร้อมไฟ LED RGB 16.8 ล้านสี มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครันและการเชื่อมต่อในการใช้งานที่ง่าย อย่างดารใช้งาน Plug and Play เสียบสายเชื่อมต่อก็พร้อมใช้งานได้ทันที และการควบคุมผ่านไมโครโฟนที่มี Gain Knob โดยที่ผู้ใช้งานสามารถปรับใช้เองได้อย่างอิสระและยังสามารถปรับแต่ง ผ่าน NGenuity โดยที่ลดปัญหาแสงไฟสีแดงให้หายไปได้ สำหรับการรับเสีบง Polar Pattern 4 รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น Omni-Directional ในการรับเสียงรอบทิศทาง หรือ Figure-8 รูปแบบการรับเสียงหน้าหลัง เหมาะกับการทำสัมภาษณ์ 2 คน หรือจะเป็น Cardioid รูปแบบการรับเสียงในทิศทางเดียว Beyer Dynamic Fox รวมไปถึง Stereo รับเสียงครอสกันซ้ายขวา เหมาะสำหรับการอัดเพลง เสียงร้อง หรือเครื่องดนตรี สำหรับใครที่กำลังมองหาไมโครโฟนสเปคสุดคุ้ที่สามารถตั้งโต๊ะได้ รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นนี้น่าสนใจมากเลยทีเดียว

>ไปหน้าหลักสินค้า

ไมค์จากแดนปลาดิบตัวนี้ชูจุดขายด้วย 2 จุดเด่นที่เข้าใจง่ายและตรงโจทย์มาก ๆ ก็คือ ถูกและดี ด้วยคุณภาพการรับเสียงที่สูงถึง 24-bit/192kHz โดดเด่นเหนือกว่าไมค์ตัวอื่น ๆ ในลิสต์นี้ พร้อมเนื้อเสียงสไตล์ Audio-Technica ที่สะอาด ใสและรายละเอียดครบถ้วน เหมาะกับการใช้เป็นไมค์ร้องเพลงสุด ๆ แถมยังรองรับการใช้งานกับมือถือที่ใช้การเชื่อมต่อ Type-C ปิดด้วยราคาที่มาแบบเบา ๆ ไม่ถึง 4,000 บาท แต่นอกจากนี้แล้ว ATR2500x-USB ก็ไม่มีฟีเจอร์การใช้งานเกี่ยวกับไมค์อะไรให้อีก ทั้งการปรับแต่งบนตัวไมค์หรือซอฟต์แวร์

เหมาะสำหรับ: อัดเสียงร้องเสียงพูด, บันทึกเสียงเครื่องดนตรี, ASMR

>ไปหน้าหลักสินค้า

Franken SM USB เป็นไมค์ USB ราคาถูกอีกตัวที่ไม่พูดถึงไม่ได้ เหมาะกับการใช้งานเป็นไมโครโฟนตัวแรกสำหรับผู้เริ่มต้นมาก ๆ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ใกล้เคียงกับ ATR2500x จาก Audio-Technica แต่ Accessories นั้นให้มาอย่างครบครัน ทั้งฟองน้ำกันลม ขาตั้ง Tripod และ Rig สำหรับเปลี่ยนไปใช้งานกับขาไมโครโฟนขนาดมาตรฐาน และการปรับแต่ง Gain หรือระดับเสียงได้ในตัวไมค์ ส่วนสเปคการบันทึกเสียงก็ใหม่มาไม่น้อยอยู่ที่ 16 bit/48 kHz ถือว่าเป็นมาตรฐานของไฟล์เสียงในปัจจุบัน ทำให้เป็นไมค์ USB ทางเลือกอีกตัวสำหรับคนงบน้อย

เหมาะสำหรับ: พ็อดแคสต์, ไลฟ์สตรีม, พากย์เสียง

>ไปหน้าหลักสินค้า

ไมค์บันทึกเสียง Rode NT-USB Mini เป็นไมค์ USB จากแบรนด์อุปกรณ์ Sound Production ชื่อดัง ที่มีความโดดเด่นอยู่ที่ ขนาดกะทัดรัดที่มีความสูงเพียง 14 เซ็นติเมตร พร้อมตัวกรองเสียงลมในตัว แต่คุณภาพการเก็บเสียงนั้นกลับอยู่ในระดับ Hi-res เลยทีเดียว แถมภายในก็ยังมีตัวกรองเสียงติดมาให้ในตัว จะใช้งานหน้าคอมพิวเตอร์ หรือนอกสถานที่ก็ให้เสียงที่เรียบเนียน โดยไม่ต้องหาอุปกรณ์เสริมเพิ่ม การันตีด้วยแนวเสียงของ Rode ที่ให้ความเป็นกลางค่อนข้างสูง เนื้อเสียงแน่นชัดเจนตามมาตรฐาน

เหมาะสำหรับ: พากย์เสียง, สตรีม, พ็อดแคสต์

>ไปหน้าหลักสินค้า

ต่อด้วย Mackie EM-USB จากอเมริกา ที่มีจุดขายที่การออกแบบที่สามารถใช้งานได้ง่ายสามารถปรับ Gain ของไมโครโฟนได้อิสระจาก Knob บนตัวไมค์ มาพร้อมกับโปรแกรมผลิตเสียง (DAW) ชื่อดัง 2 ตัวอย่าง Pro Tools First และ Waveform OEM พร้อมกับ Plug-in เสียงบนสำหรับซอฟต์แวร์ทั้ง 2 ที่ให้รวมกันมามากถึง 39 ตัว พร้อมด้วยช่วงความถี่ที่รองรับที่แคบทำให้ตัดเสียงรบกวนออกไปได้ดีกว่าไมค์ตัวอื่น ด้วยราคาและของแถมที่ติดมาแล้ว จัดว่าเหมาะมาก ๆ กับคนที่อยากจะได้ไมค์ไว้ทำเพลงเป็นหลักนั่นเอง

เหมาะสำหรับ: อัดเพลง, ทำเพลง, บันทึกเสียงเครื่องดนตรี

>ไปหน้าหลักสินค้า

Beyerdynamic Fox หรือเจ้าไมค์หมาจิ้งจอกตัวนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นไมค์สตรีมมิ่งตัวโปรดของสตรีมเมอร์หลาย ๆ คนโดยเฉพาะเหล่าเกมแคสเตอร์ (Game Caster) เพราะนอกจากจะเป็นไมค์ USB Hi-res ตัวแรก ๆ สามารถปรับเสียง Master และ บาลานซ์เสียง ได้ในตัว ทั้งยังสามารถสลับ Gain Mode ได้ด้วย ในแพคเกจก็มีตาข่ายกรองลมแถมมาให้ ส่วนสเปคตัวไมค์มีการรับเสียงบนความละเอียดสูงสุด 24-bit/96kHz หรือ Hi-res เรียกว่าด้วยความคุ้มค่า และคุณภาพเสียงที่ได้ทำให้ชื่อของมันยังได้รับคำแนะนำแบบปากต่อปากอยู่จนทุกวันนี้

เหมาะสำหรับ: อัดเสียงร้องเสียงพูด, สตรีมเกม, ASMR

>ไปหน้าหลักสินค้า

Blue Yeti Studio เป็นตัวต่อยอดของไมค์ USB Condenser อันดับ ที่มีการทำงานที่เทียบเท่า Blue Yeti ที่มีความละเอียดในการบันทึกเสียง 16-bit/48kHz บนความถี่ช่วง 20 – 20 kHz และ สามารถปรับ Polar Pattern ได้ถึง 4 รูปแบบ ก็ยังมาพร้อมกับโปรแกรม DAW และ Plug-in ที่มีมูลค่ากว่า 7,000 บาท อย่าง PreSonus และ Plug-ins จาก iZotope เรียกได้ว่าเมื่อรวมกับจุดเด่นเดิมของตัวไมค์ที่มีการใช้งานหลากหลายยืดหยุ่นแล้ว ทำให้มันเป็นไมค์ที่ตอบโจทย์ทั้งงาน Production และงาน Post-Production มากเลยทีเดียว

เหมาะสำหรับ: สตรีมมิ่ง, จัดรายการ, ร้องเพลง

>ไปหน้าหลักสินค้า