17 พ.ย. 2566
Humane Pin AI เข็มกลัดติดเสื้ออัจฉริยะจากบริษัท Humane บริษัทสตาร์ทอัพใน Silicon Valley ที่ก่อตั้งจากอดีตผู้บริหารและทีมงานของ Apple มี Imran Chaudhri เป็นประธาน และมี Bethany Bongiorno เป็น Co-Founder & CEO ขับเคลื่อนด้วย ChatGPT บวกกับขุมพลัง AI ที่ไม่ต้องพึ่งแอพหรือมือถือ โดยมีราคาเปิดตัวอยู่ที่ 699 ดอลลาร์
เข็มกลัด AI ที่ไม่ต้องพึ่งแอพหรือมือถือ
Humane Pin AI มากับดีไซน์เข็มกลัดขนาดไม่ใหญ่ และไม่เล็กจนเกินไป ไร้หน้าจอ ซึ่งขนาดอาจจะใกล้เคียงกับสมาร์ทวอทช์เลยก็ว่าได้ สามารถติดตั้งได้ด้วยการหนีบเข้าไปกับเสื้อด้วยแม่เหล็ก พร้อมกับกล้องขนาดจิ๋วที่มีความละเอียดถึง 12 ล้านพิกเซล หรือเทียบเท่ากับมือถือในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ พร้อมกับเซ็นเซอร์ที่ด้านบนของกล้องด้วยนั่นเอง และมีระบบฉายภาพด้วยเลเซอร์ ที่จะฉายภาพไปยังฝ่ามือเพื่อใช้งาน
ชิปและส่วนประกอบ
Humane Pin AI นั้นมากับชิปของอุปกรณ์คือ Snapdragon 32GB จาก Qualcomm และมีระบบปฏิบัติการ Cosmos จาก OpenAI นั่นหมายความว่าใน Pin AI นั้นจะมีปลั๊กอิน ChatGPT และจะทำงานเสมือน Screenless Mobile Phone ด้านงานประกอบมาด้วยกัน 2 ชิ้นส่วน นุ่นก็คือตัวเครื่อง น้ำหนัก 34.2 กรัม และส่วนแบตเตอรี่น้ำหนัก 20 กรัม ซึ่ง 2 ส่วนนี้จะสามารถนำมาประกบกันเพื่อเป็นตัวหนีบกับเสื้อนั่นเอง
ด้านการใช้งาน
ด้านการที่ใช้การแตะไปที่ตัวทัชแพตที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง หรือจะใช้งานการสั่งด้วยเสียง หรือยิงเลเซอร์ลงบนฝ่ามือแทนการใช้หน้าจอ โดยการใช้งานเบื้องต้นจะเป็นการใช้เซ็นเซอร์ความลึกเข้ามาช่วยในการตีความการเคลื่อนไหวของมือ ไม่ว่าจะเป็นการแตะนิ้ว ขยับนิ้ว กำมือ ปัดซ้าย ปัดขวา เพื่อใช้งานคำสั่งต่าง ๆ และจะรันด้วยระบบ AI Experience โดยไม่พึ่งแอพใด ๆ อย่างเช่นการสั่งเล่นเพลง ระบบ AI ก็จะประมวลผล และเมื่อผู้ใช้กางฝ่ามือออกมา ระบบ AI ก็จะฉายแสงเลเซอร์แสดงผล ลงมาบนฝ่ามือเหมือนกับหน้าจอ ซึ่งเราสามารถออกคำสั่งการใช้งานได้ด้วยการขยับนิ้วหรือมือได้เลยนั่นเอง
ฟีเจอร์ที่สามารถทำได้
ด้านการใช้งานของ Humane Pin AI นั้นเรียกได้ว่าแทบจะเป็นแบบเดียวกับสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ ซึ่งเราสามารถใช้เป็นโทรศัพท์ ส่งข้อความ ฟังเพลง ถ่ายภาพ รวมไปถึงการพูดคุยกับ AI เพื่อการแปลภาษา หรือแม้แต่การวิเคราะห์ปริมาณสารอาหารด้วยกล้อง หรือแม้แต่การหาคำตอบของอะไรสักอย่างนึง และการทำงานอื่น ๆ อีกมากมาย
Humane Pin AI ได้รับการเปิดตัวไปแล้วที่บนเวที Ted Talk ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมานั่นเองครับ แถมยังเปิดเผยวันวางจำหน่ายไว้แล้วด้วย นั่นคือวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 นี้นี่เอง และจะเริ่มทำการจัดส่งให้ผู้ใช้งานประมาณต้นปี 2024 แต่ต้องบอกก่อนว่าแค่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้นนะ และผู้ใช้งานจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนอีกเดือนละ 24 ดอลลาร์ สำหรับการใช้ดาต้าได้ไม่จำกัดและเบอร์โทรของค่าย T-Mobile ซึ่งทั่วโลกนั้นยังคงต้องรอกันไปก่อน ส่วนในบ้านเราก็ต้องรอดูกันอีกทีครับผม
