22 ก.ค. 2563
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วกับ OnePlus Buds หูฟังไร้สาย True Wireless ตัวแรกจากแบรนด์ OnePlus ที่มาพร้อมกับความสามารถครบเครื่อง รวมไปถึงดีไซน์ที่สวยงาม เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์ไตล์ในยุคปัจจุบัน มาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IPX4 ระบบตัดเสียงรบกวน Environmental Noise Cancellation ไดร์เวอร์ไดนามิคขนาด 13.4 มิลลิเมตร อีกทั้งยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos โดยมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี นั่นคือ สีดำ, สีขาว และสีฟ้า Nord Blue ในราคา $79 (ประมาณ 2,500 บาท) เท่านั้น
OnePlus Buds มาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม ดูมินิมอล รูปทรงกระทัดรัด โดยมาในรูปแบบหูฟัง Earbud True Wireless พร้อมกับเคสไร้สายที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่อตัวหูฟังเข้ากับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายผ่านทางฟีเจอร์ Fast Pair ที่เพียงแค่เปิดฝาเคสหูฟังก็จะทำการเชื่อมต่อเองโดยอัตโนมัติ ใช้การเชื่อมต่อแบบ Bluetooth 5.0 พร้อมกับ Low Latency เพียงแค่ 103ms เมื่อเปิดใช้งาน Gaming Mode
จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้สูงสุดข้างละ 7 ชั่วโมงต่อการชาร์จแบบเต็มที่หนึ่งครั้ง สามารถใช้งานเพิ่มเติมผ่านการชาร์จที่ตัวเคสได้อีก 23 ชั่วโมง รวมระยะเวลาในการใช้งานได้ทั้งหมด 30 ชั่วโมงเลยทีเดียว การชาร์ตแบตเตอรี่ของตัวเคสทำได้โดยผ่านทางพอร์ต USB-C อีกทั้งยังกันน้ำกันฝุ่นระดับ IPX4 สามารถทนทานต่อการสาดกระเซ็นของน้ำได้ในทุกทิศทาง นอกจากนี้ OnePlus Buds ยังรองรับฟีเจอร์ Warp Charge ชาร์จเพียงแค่ 10 นาที สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเลยที่เดียว
อีกฟีเจอร์ที่น่าสนใจก็คือ ระบบตัดเสียงรบกวนภายนอก Environmental Noise Cancellation ที่ตัวหูฟังจะใช้ไมค์ตัวที่สองช่วยในการตัดเสียงรบกวนจากภายนอก หมดปัญหาเมื่อใช้งานขณะอยู่กลางแจ้ง สำหรับการควบคุมนั้น สามารถทำได้โดยการสัมผัสที่ตัวหูฟัง ไม่ว่าจะเป็น เล่น/หยุดเพลง รับ/วางสาย ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน
เรื่องคุณภาพเสียงนั้น OnePlus Buds มาพร้อมกับไดร์เวอร์ไดนามิคขนาด 13.4 มิลลิเมตร รองรับช่วงความถี่ 20 – 20,000 Hz ให้เสียงเบสที่นุ่มลึก ชัดเจน และยังรองรับเสียงแบบ Dolby Atmos อีกด้วย เพื่อให้ผู้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์ในการใช้งานที่สมบูรณ์แบบไม่ว่าจะเล่นเกม ดูหนัง หรือฟังเพลง
โดยภาพรวมแล้ว หูฟัง OnePlus Buds ถือว่าเป็นหูฟังบลูทูธแบบ True Wireless ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยฟีเจอร์ที่ครบถ้วน เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นใช้คุยสนทนา ออกกำลังกาย หรือใช้ดูหนังฟังเพลงทั่วไป ด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูดี ใช้งานง่าย พกพาสะดวก และยังมีราคาเปิดตัวเพียงแค่ $79 (ประมาณ 2,500 บาท) เท่านั้น ซึ่งกำหนดการวางขายจะอยู่ที่ช่วงเดือนสิงหาคม หากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยเมื่อไร Mercular.com จะอัพเดทให้ทราบอย่างแน่นอนครับ