เปิดตัวมาพร้อมกับการประกาศเปิดตัว เครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง PlayStation 5 กับ หูฟังเกมมิ่งไร้สาย สำหรับใช้งานกับ PS5 ที่แน่นอนว่ามาพร้อมการอัพเกรดใหม่หมดทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งโดดเด่นทั้งรูปร่างหน้าตาสุดล้ำ ฟังก์ชั่นการใช้งานอันทันสมัย และการเชื่อมต่อไร้สายที่ออกแบบมาให้ใช้งานกับเครื่องเล่นเกมได้อย่างไร้ที่ติ รวมไปถึงฟังก์ชั่นเด่นที่น่าจับตามองสุดๆ อย่างเทคโนโลยีเสียง 3 มิติรอบทิศทางที่จะขยับไปตามการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่อย่าง Tempest 3D AudioTech งานนี้บอกเลยว่าใครที่ Pre-Order PS5 ได้แล้ว หรือกำลังจะพรีออเดอร์ก็อย่าลืมที่จะพรีออเดอร์เจ้าหูฟังรุ่นนี้เอาไว้เผื่อด้วย โดย PlayStation PULSE 3D™ จะน่าสนใจแค่ไหน และทำอะไรได้บ้างนั้น เรามาดูกันเลยครับ

โดดเด่นตั้งแต่รูปร่างหน้าตาที่เห็นเพียงครั้งแรกก็ตกหลุมรักได้ง่ายๆ กับหูฟังที่นำพาเอาระบบเสียงสำหรับการเล่นเกมในยุคใหม่มาแล้ววันนี้ ด้วยการออกแบบที่ทาง Sony คิดค้นและออกแบบมาเป็นอย่างดีให้มีความเพรียวบาง เข้ากับตัวเครื่องเล่น PS5 พร้อมขนาดที่เรียกได้ว่าพอดีเพียง 213 x 190 x 91 มิลลิเมตร และสวมใส่สบายด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 292 กรัมเท่านั้น ออกแบบที่รองหูและสายรัดศีรษะมาเป็นอย่างดี ทำให้สวมใส่ได้สบายหู อยู่ได้ยาวๆ ตลอดวันไม่อึดอัดหรือรำคาญ และภายในรูปทรงอันล้ำสมัยนั้นยังมีการซ่อนไมโครโฟนสำหรับพูดสนทนาไว้ภายในถึง 2 ตัว และจัดวางในตำแหน่งที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัดทุกการสนทนามากขึ้นกว่าเดิม พร้อมด้วยอัพเดทเทคโนโลยีตัดเสียงรบกวนให้ตัดเสียงแทรกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้บนตัวยังมาพร้อมปุ่มสำหรับควบคุมที่ควบคุมได้อย่างครบถ้วนทุกฟังก์ชั่น เพียงปลายนิ้วกดอีกด้วย

จุดเด่นนอกจากรูปลักษณ์นั้น ส่วนของระบบเสียงก็เป็นอีกจุดที่เรียกได้ว่าก้าวข้ามไปอีกขั้นด้วยเทคโนโลยี Tempest 3D AudioTech ที่ให้เสียงรอบทิศทางแบบสมจริง รวมไปถึงตัวเสียงยังขยับไปตามการหมุนและทิศทางของศีรษะอีกด้วย ส่วนของเรื่องเสียงยังได้รับการปรับจูนมาเป็นพิเศษให้สามารถรับเสียงได้อย่างยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม ทำให้ไม่ว่าจะเล่นเกมแนวใดก็ให้คุณภาพเสียงที่สุดยอดไม่ต่างกัน และสำหรับการเชื่อมต่อก็มีทั้งเชื่อมต่อแบบมีสาย และเชื่อมต่อแบบไร้สาย รองรับการใช้งานทั้งบน PS5 PS4 Computers PlayStation®VR (รองรับเฉพาะผ่านสาย AUX/3.5 mm.) และ Smartphone (รองรับเฉพาะผ่านสาย AUX/3.5 mm.)

โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย และเปิด Pre-Order กันไปบ้างแล้ว โดยตัวสินค้าพร้อมส่งในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ และมีราคาอยู่ที่ 3,490 บาท ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ