มินิรีวิว Sennheiser Momentum True Wireless 2

16 มี.ค. 2563

มินิรีวิว Sennheiser Momentum True Wireless 2

กลับมาครั้งนี้พร้อมฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน!

แน่นอนว่าเป็นสินค้าอีกรุ่นในหมวดของ หูฟังไร้สายแยกข้างอิสระ True Wireless Headphone จากแบรนด์ที่น้อยคนจะไม่รู้จักอย่าง Sennheiser ซึ่งมีจุดเด่นในเรื่องของแนวเสียงที่ทำได้ดีเป็นอันดับต้นๆของวงการ พร้อมทั้งฟังก์ชั่นการใช้งานระดับเรือธงที่ต้องบอกเลยว่าสำหรับรุ่น Sennheiser Momentum True Wireless ทำได้ดีมากๆ สมกับที่เป็นสินค้า True Wireless ตัวแรกของแบรนด์ และมาในรุ่นที่ 2 นี้อย่าง Sennheiser Momentum True Wireless 2 บอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน อัดแน่นด้วยความสามารถที่ได้รับการปรับปรุงและพัฒนามาเป็นอย่างดี บอกเลยว่าจากคนที่กำลังเล็งๆไม่รู้จะซื้อรุ่นไหนดี เจอรุ่นนี้เข้าไปมีหวั่นไหว อดใจไม่ไหวกันอย่างแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นส่วนแรกก็คือการเพิ่มสีขาวเข้ามาเป็นอีกตัวเลือกในรุ่นนี้ สำหรับคนที่เบื่อสีเดิมที่ในรุ่นแรกมีให้เลือกเพียงแค่สีเดียวนั่นเอง

มินิรีวิว Sennheiser Momentum True Wireless 2 ราคา

ตามเทรนด์ปัจจุบันด้วยฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน

สำหรับฟังก์ชั่นเด่นที่ใส่เข้ามาในรุ่นนี้ก็คือฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling ที่ต้องบอกเลยว่ามาแรงมากๆในปัจจุบัน หลายๆแบรนด์ต่างนำมาใส่ในสินค้ารุ่นเรือธงของตัวเองตั้งแต่ Sony เช่นในรุ่น Sony WF-1000XM3 ไปจนถึง Apple เลยทีเดียว ซึ่งทาง Sennheiser ก็ไม่น้อยหน้า ใส่เทคโนโลยีชั้นนำของแบรนด์เข้ามาด้วย ซึ่งแฟนๆน่าจะเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วถึงความสามารถในการตัดเสียงของสินค้าจากแบรนด์นี้ ที่ทำได้ดีเป็นอันดับต้นๆของวงการ ซึ่งในรุ่นนี้นั้นก็ต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดาเพราะมาพร้อมกับไมค์จับเสียงจากภายนอกที่สามารถจับโฟกัสกับสิ่งรอบข้างและบุคคลรอบข้างได้ รวมไปถึงยังสามารถปรับตั้งค่ารูปแบบการตัดเสียงได้อย่างอิสระ เลือกโหมดการตัดเสียงให้เหมาะกับการใช้งาน รวมไปถึงด้วยเทคโนโลยี Advanced Beamforming Technology พิเศษสุดจากทางแบรนด์ที่สามารถลดเสียงรบกวนรอบข้างลงเพื่อโฟกัสเสียงพูด เสียงประกาศ และเสียงสนทนาได้อย่างคมชัด ไม่พลาดทุกการติดต่อ ส่วนของไมโครโฟนสำหรับสนทนาก็สามารถรับเสียงพูดได้อย่างคมชัดเช่นเดียวกัน สนทนาได้อย่างราบรื่น ไม่พลาดในทุกการสนทนา

มินิรีวิว Sennheiser Momentum True Wireless 2 เสียงดี

ฟังก์ชั่นการใช้งานอื่นๆที่ทำได้ดีในระดับเรือธง

ในรุ่นนี้ยังมาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานระดับท๊อปของวงการเช่นเดิม ไม่ว่าจะเป็นส่วนของการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.1 รองรับ Codec ไร้สายคุณภาพสูง aptX สำหรับการฟังเพลงคุณภาพสูงแบบไร้สาย ควบคุมได้แบบสัมผัสที่ตัวโดยตรง ปรับแนวเสียง EQ ได้อิสระผ่านแอป รองรับทั้ง iOS และ Android ใส่ออกกำลังกายได้ด้วยความสามารถกันเหงื่อมาตรฐาน IPX4 และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมง และรวมเคสเป็น 28 ชั่วโมง พร้อมด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะหยุดเล่นเมื่อถอด และเล่นใหม่เมื่อสวมใส่อีกครั้ง


โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย เปิดตัวราคาอยู่ที่ $299 ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2