แนะนำ 4 หูฟัง B&O In Ear ใส่สบาย เสียงดี ฟังก์ชันล้ำ
8 ธ.ค. 2565
หากจะพูดถึงแบรนด์ หูฟัง ลำโพง ที่เป็นมากกว่าอุปกรณ์เพื่อการฟังเพลงทั่วๆ ไป แต่ยังสามารถเป็นเครื่องประดับในส่วนของหูฟัง และสามารถเป็นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในส่วนของลำโพง เชื่อว่าชื่อของแบรนด์ B&O หรือ Bang & Olufsen น่าจะขึ้นมาอยู่ในใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน ด้วยจุดเด่นของแบรนด์ในเรื่องของความพรีเมียมของตัวสินค้า ในขณะเดียวกันก็มาพร้อมจุดเด่นหลายประการทั้งในเรื่องของการออกแบบที่ในแต่ละรุ่นทางแบรนด์ก็จะเลือกสรรค์ดีไซเนอร์ชื่อดังมาออกแบบ ทำให้ไม่เพียงแต่ตัวหูฟังและลำโพงจะมาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดล้ำจนแทบไม่น่าเชื่อว่าเป็นหูฟังและลำโพง แต่ในด้านการสวมใส่ของหูฟังก็ให้ความรู้สึกที่เบาสบายหู และในส่วนของลำโพงก็สามารถตั้งวางได้สะดวกในทุกๆ ที่อีกด้วย และนอกจากเรื่องของการออกแบบแล้วด้านฟังก์ชันการใช้งานภายก็ให้มาแบบจัดเต็มจนเรียกได้ล้ำสมัยกว่าสินค้าหลายๆ รุ่นจากหลายๆ แบรนด์อีกด้วย ที่สำคัญคือในเรื่องของแนวเสียงที่ต้องบอกเลยว่าทางแบรนด์ B&O นั้นทำได้อย่างยอดเยี่ยมกับแนวเสียงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะในย่านกลางและสูงที่มีความเคลียร์ใสให้รายละเอียดที่ครบถ้วน ซึ่งใครได้ฟังก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นเสียงจาก หูฟัง B&O อย่างแน่นอน
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา หูฟัง B&O In Ear และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดที่จะมาพร้อมรูปร่างหน้าตาสุดพรีเมียม สวมใส่สบายหู พร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด รวมถึงแนวเสียงที่ยอดเยี่ยมและโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ จากแบรนด์อื่นๆ ในครั้งนี้ Mercular จึงได้รวบรวมเอา 4 หูฟัง B&O In Ear ใส่สบาย เสียงดี ฟังก์ชันล้ำ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
4 หูฟัง B&O In Ear ในบทความนี้
หูฟัง B&O Beoplay EX True Wireless
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง (รวมเคส 28 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP57
หูฟัง B&O In Ear รุ่นแรกที่นำมาแนะนำกันในครั้งนี้กับ หูฟัง B&O Beoplay EX True Wireless หูฟัง B&O In Ear True Wireless มาพร้อมน้ำหนักที่เบาเพียงข้างละ 6 กรัม และการออกแบบจากดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Thomas Bentzen เลือกใช้วัสดุเกรด Hi End อย่าง Aluminium, Tempered Glass, Polymer และ Silicone ออกแบบตัวหูฟังโดยอิงหลักสรีรศาสตร์พร้อมจุกซิลิโคน 4 ไซส์และจุกโฟม COMPLY™ ไซส์ M ให้เลือกเปลี่ยนได้อย่างอิสระ ด้านการเชื่อมต่อมาพร้อม Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 รองรับ Apple watch interface, Google Fast Pair และ Microsoft Swift Pair ตัวหูฟังสามารถใช้งานแยกข้างได้อย่างอิสระ รองรับ codec เสียงไร้สายคุณภาพสูงอย่าง aptX™ Adaptive ใช้งานดูหนังออนไลน์และเล่นเกมได้อย่างลื่นไหลไม่ดีเลย์ ฟังก์ชันเด่นคือการตัดเสียงรบกวนที่ทาง B&O เรียกว่า Adaptive Active Noise Cancellation ด้วยการทำงานของไมโครโฟนภายในที่ให้มามากถึง 6 ตัวแบบ MEMS, omni-directional ทนทานต่อน้ำและฝุ่นที่มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP57 ส่วนด้านแบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 6 ชั่วโมงจากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้รวม 28 ชั่วโมง ส่วนตัวเคสชาร์จรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
ข้อดี
- ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิท
- ไมโครโฟนภายในมากถึง 6 ตัว
- เคสรองรับการชาร์จไร้สาย
ข้อควรระวัง
- ตัวหูฟังมีขนาดใหญ่ ใส่ไปสักพักอาจจะปวดหู
หูฟังไร้สาย B&O Beoplay E8 Sport True Wireless
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): ไม่มี
แบตเตอรี่: 7 ชั่วโมง (รวมเคส 30 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP57
หูฟัง B&O In Ear รุ่นที่ 2 กับ หูฟังไร้สาย B&O Beoplay E8 Sport True Wireless B&O Beoplay E8 Sport หูฟังไร้สาย True Wireless ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นตอบโจทย์คนรักการออกกำลังกายโดยมาพร้อม Ear Fins ถึง 3 ไซส์ที่ช่วยให้สวมใส่ได้กระชับหู เลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมทั้ง Aluminium, Polymer และ Silicon กับขนาดที่ยังคงกะทัดรัดและน้ำหนักที่เบามากๆ เพียงข้างละ 6.4 กรัมเท่านั้น ส่วนของการเชื่อมต่อในรุ่นนี้เลือกใช้เป็น Bluetooth 5.1 รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูง aptX สนทนาได้อย่างคมชัดด้วยไมโครโฟนแบบ Beamforming ถึง 4 ตัว มาพร้อมฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการ True Wireless สำหรับใส่ออกกำลังกายด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP57 ภายในมีแบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 7 ชั่วโมง จากนั้นชาร์จจากเคสได้อีกรวมเป็น 30 ชั่วโมง และที่สำคัญคือเคสรุ่นนี้รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วย
ข้อดี
- เสียงดีสไตล์ B&O ด้วยไดรเวอร์ Electrodynamic
- กันน้ำและฝุ่นแบบจัดเต็มด้วยมาตรฐาน IP57
- รองรับ Codec เสียงคุณภาพสูงไร้สาย aptX
- เคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
ข้อควรระวัง
- คอเพลงแนวร็อคอาจจะรู้สึกเสียงไม่ตอบโจทย์
หูฟังไร้สาย B&O BEOPLAY EQ True Wireless
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.2
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี
แบตเตอรี่: 6.5 ชั่วโมง (รวมเคส 20 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP54
หูฟัง B&O In Ear รุ่นที่ 3 กับ หูฟังไร้สาย B&O BEOPLAY EQ True Wireless หูฟัง B&O In Ear ที่สวมใส่ได้ง่าย กระชับ ด้วยการออกแบบที่อิงตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเป็นผลงานการออกแบบของดีไซเนอร์ชื่อดังอย่าง Thomas Bentzen เลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมได้แก่ อลูมิเนียมแข็งเกรดเดียวกับที่ใช้ในยานอวกาศ, โพลีเมอร์ และ ซิลิโคน มาพร้อมขนาดที่กำลังดีและน้ำหนักที่เบาเพียงข้างละ 8 กรัม มาพร้อมฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Adaptive noise cancelling ที่พัฒนามาเป็นอย่างดีทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยไมโครโฟนถึง 6 ตัว สนทนาโทรศัพท์ได้อย่างคมชัด ด้านการเชื่อมต่อเลือกใช้เป็น Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงแบบไร้สายผ่าน aptX™ Adaptive ตอบโจทย์ผู้ที่รักการออกกำลังกายด้วยมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 6.5 ชั่วโมงจากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีกรวมเป็น 20 ชั่วโมง และแน่นอนว่าตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi ด้วยเช่นกัน
ข้อดี
รูปร่างหน้าตาการออกแบบและวัสดุหรูหราสมราคา
กันได้ทั้งน้ำและฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP54
รองรับ Codec เสียงคุณภาพสูงไร้สาย aptX
ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิท สมราคา
ข้อควรระวัง
- คอเพลงแนวร็อคอาจจะรู้สึกเสียงไม่ตอบโจทย์
หูฟังไร้สาย B&O Beoplay E8 3rd Gen True Wireless
สเปคเด่น
การสวมใส่: In Ear
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.1
ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): ไม่มี
แบตเตอรี่: 7 ชั่วโมง (รวมเคส 35 ชั่วโมง)
มาตรฐานกันน้ำ: IP54
หูฟัง B&O In Ear รุ่นสุดท้ายในบทความนี้กับ หูฟังไร้สาย B&O Beoplay E8 3rd Gen True Wireless หูฟัง B&O In Ear True Wireless มาพร้อมการออกแบบที่หรูหราและวัสดุสุดพรีเมียมประกอบไปด้วย หนัง, อลูมิเนียม, โพลีเมอร์ และ ซิลิโคน ด้านการเชื่อมต่อไร้สายเลือกใช้เป็น Bluetooth 5.1 ที่ได้รับการปรับปรุงในเรื่องของการเชื่อมต่อให้เสถียรมากขึ้นรองรับ Codec ไร้สาย aptX มาพร้อมความสามารถในการกันน้ำและกันฝุ่นมาตรฐาน IP54 ส่วนของแบตเตอรี่ก็ได้รับการอัพเกรดให้ใช้งานได้นานถึง 7 ชั่วโมงและรวมกับแบตเตอรี่จากเคสทำให้ใช้งานได้นานถึง 35 ชั่วโมง รองรับการชาร์จไวเพียง 20 นาทีก็สามารถใช้งานได้นานถึง 1 ชั่วโมง 30 นาที และแน่นอนว่าตัว้คสสามารถชาร์จไร้สายได้ผ่านเทคโนโลยีชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
ข้อดี
- รูปร่างหน้าตาสุดพรีเมียม Hi-End สมราคา
- รองรับ Codec เสียงไร้สายคุณภาพสูง aptX
- ตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สาย และรองรับการชาร์จไว
ข้อควรระวัง
- ราคาระดับนี้แต่ไม่มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวน
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 4 หูฟัง B&O In Ear ใส่สบาย เสียงดี ฟังก์ชันล้ำ ที่ทาง Mercular ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น หูฟัง B&O In Ear ที่ไม่เพียงแต่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาและการออกแบบสุดพรีเมียมเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วนและทันสมัยรวมถึงยังให้แนวเสียงที่ยอดเยี่ยม ฟังสนุกตามสไตล์แนวเสียงของ B&O อีกด้วย รับรองได้เลยว่าทั้ง 4 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟัง B&O In Ear และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง Mercular ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟัง B&O In Ear ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟัง B&O รุ่นไหน หรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ