19 ก.พ. 2567
นอกจากสมาร์ทวอทช์ที่สามารถวัดค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือดได้แล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจกำลังมองหา Smartwatch วัดความดันได้กันอยู่อย่างแน่นอน เพราะถือเป็นอีกหนึ่งค่าสุขภาพที่มีความสำคัญไม่น้อย แต่หลาย ๆ แบรนด์อาจไม่ได้โฟกัสไปที่ฟีเจอร์การวัดความดันโลหิตเท่าที่ควรนัก เพราะเห็นว่าหลาย ๆ คนให้ความสนใจกับอัตราการเต้นของหัวใจและค่าออกซิเจนในเลือดมากกว่า แต่หากคุณพยายามหา Smartwatch วัดความดันอย่างไรก็หาไม่เจอที่ถูกใจสักที วันนี้ Mercular รวมมาให้แล้วที่นี่ ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
7 อันดับ Smartwatch วัดความดัน ในบทความนี้
- HCare Plus+ 3
- Samsung Galaxy Watch 4
- HCare WOW
- Amazfit GTR 3 Pro
- XFit Mate
- Omron HeartGuide
- Amazfit GTS 3
HCare Plus+ 3
สเปคเด่น
วัสดุตัวเรือน : Ferrous Alloy และ PC+ABS
หน้าจอ : IPS ขนาด 1.46 นิ้ว
แบตเตอรี : ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 7 วัน
มาตรฐานกันน้ำ : IP67
นาฬิกา HCare Plus+ 3 Smart Watch เรียกได้ว่าเป็นตัวนาฬิกาสำหรับการวัดสุขภาพได้อย่างครบครัน สามารถตรวจสอบค่าสุขภาพได้อย่างแม่นยำด้วยเซนเซอร์ PPG มากถึง 8 จุด พร้อมด้วยฟังก์ชั่นใหม่อย่าง วัดระดับไขมัน เพื่อระวังความเสี่ยงที่จะเกิดโรคร้ายได้ และวัดระดับกรดยูริก เพื่อเช็คอาการปวดข้อและปวดเข่าได้เป็นอย่างดี พร้อมด้วยวัสดุคุณภาพที่จะทำให้การใช้งานนั้นใช้ได้อย่างยาวนาน พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน 3 - 7 วัน สามารถเลือกใช้งานได้ถึง 3 สีได้แก่ SpaceBlack, SpeceBlue และ RubyRed ทำให้ใส่ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี นอกจากฟังก์ชันที่เพิ่มเข้ามาแล้ว ฟังก์ชันสำหรับสุขภาพยังให้มาอย่างครบครันไม่ว่าจะเป็นวัดอัตราการเต้นหัวใจ, ออกซิเจนในเลือด, อุณหภูมิในร่างกาย รวมไปถึงติดตามคุณภาพการนอนหลับ และยังมีการแจ้งเตือนอัจฉริยะจากการใช้งานร่วมกับ Bluetooth อีกด้วย
ข้อดี
- เซนเซอร์ PPG มากถึง 8 จุด
- วัดระดับไขมัน เฝ้าระวังความเสี่ยงโรคร้าย
- วัดระดับกรดยูริก ปวดข้อ ปวดเข่า เช็คได้ทันที
ข้อควรระวัง
- โหมดกีฬามีให้เลือกแค่ 9 โหมดเท่านั้น
Samsung Galaxy Watch 4
สเปคเด่น
วัสดุตัวเรือน : อลูมิเนียม
เลนส์ : กระจก Gorilla® Glass DX + กระจก 3D
หน้าจอ : Super AMOLED
แบตเตอรี : ใช้งานได้นานสูงสุด 40 ชั่วโมง
มาต่อกันที่สมาร์ทวอทช์รุ่นเรือธงจากแบรนด์ Samsung แห่งปี 2023 เจ้า Galaxy Watch 4 ถูกพัฒนามาให้เอาใจสาย Healthy มากขึ้น โดยพัฒนาฟีเจอร์เพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการวัดความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ ค่าออกซิเจนในเลือด และยังสามารถตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ทุกเมื่อ รองรับโหมดการออกกำลังกายอัตโนมัติกว่า 90 ชนิด และยังคงความมีไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ด้วยการดีไซน์ Smartwatch วัดความดันที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัย และยังรองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความตลอดเวลา ทำงานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 40 ชั่วโมง เรียกได้ว่าคุณไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของร่างกายและชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน
ข้อดี
- หน้าจอ Super AMOLED คมชัด รองรับ Always-on
- ใช้วัสดุทนทาน น้ำหนักเบา สวมใส่ได้ทั้งวัน
- ตรวจจับค่าสุขภาพได้หลากหลายและมีประสิทธิภาพ
ข้อควรระวัง
- เนื่องจากเป็นหน้าจอแบบ Always-on อาจทำให้แบตเตอรีหมดไว
HCare WOW
สเปคเด่น
วัสดุตัวเรือน : Zinc Alloy และ PC+ABS
หน้าจอ : IPS ขนาด 1.96 นิ้ว
แบตเตอรี : ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุด 5 วัน
มาตรฐานกันน้ำ : IP68
นาฬิกา HCare WOW Smart Watch เป็นนาฬิกาสุขภาพน้องใหม่ที่จะเข้ามาดูแลสุขภาพได้อย่างดีเยี่ยม มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 1.96 นิ้ว ที่ทำให้สามารถรับชมภาพจากหน้าปัดได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งหน้าปัดมากกว่า 150 แบบ ตัวฟีเจอร์สุขภาพนั้นก็เรียกว่าครบครัน และยังเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่มีการวัดหัวใจด้วยระบบ AI เช็คผลผ่านหน้าจอนาฬิกาได้ทันที อ่านค่าได้อย่างละเอียดในแอป H Band และยังสามารถวัดระดับความเครียดได้ระหว่างวัน รวมไปถึงวัดอัตราการผันแปรหัวใจ ดูความเหนื่อยล้าร่างกายได้เลยสบาย ๆ สามารถวัดระดับน้ำตาลโดยไม่ต้องเจาะนิ้ว เลือกวัดได้ตามช่วงเวลาเพื่อความแม่นยำที่มากขึ้นอีกด้วย และยังมอบการสวมใส่ที่เข้าข้อมือมากยิ่งขึ้นด้วยตัวบัคเคิลแม่เหล็กแบบปรับระดับได้ที่สาย
ข้อดี
- มีวัดระดับความเครียด
- มีวัดอัตราการผันแปรหัวใจ ดูความเหนื่อยล้าร่างกาย
- โหมดกีฬามากกว่า 150 ชนิด
ข้อควรระวัง
- อ่านค่าในแอป H Band จะได้ความละเอียดมากกว่า
Amazfit GTR 3 Pro
สเปคเด่น
หน้าจอ : ขนาด 1.45 นิ้ว AMOLED Multi Touch
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
ระบบปฏิบัติการ : Zepp OS
แบตเตอรี : สูงสุด 12 วัน
ใส่แล้วเรียบหรูดูแพง ขอยกให้ Smartwatch วัดความดันรุ่นนี้เลยจ้า! Amazfit GTR 3 Pro ดีไซน์ออกมาได้โดนใจหลากหลายช่วงอายุเป็นที่สุด เพราะเน้นความเบาสบาย ใส่กะทัดรัด แฝงความพรีเมียมมาในตัว รุ่นนี้มาพร้อมสายหนังและสายซิลิโคนให้คุณได้เลือกใช้งานตามความต้องการ เป็นหนึ่งในนาฬิกาอัจฉริยะที่มีฟีเจอร์ครอบคลุมทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพ การออกกำลังกาย หรือแม้แต่ไลฟ์สไตล์ก็ไม่มีพลาด หากพูดถึงเรื่องการวัดความดัน หรือค่าสุขภาพต่าง ๆ แล้วล่ะก็ บอกเลยว่าแม่นยำไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ เลยล่ะ นอกจากนั้นยังมาพร้อมไมโครโฟนและลำโพงในตัว ทำให้สามารถสั่งการทำงานรวมถึงพูดคุยรับสายได้ทุกเมื่อ ใช้งานได้นานต่อเนื่องสูงสุดถึง 12 วันเลยทีเดียว
ข้อดี
- แบตอึด ใช้งานได้ต่อเนื่องนานสูงสุด 12 วัน
- โหมดการออกกำลังกายมากกว่า 150 โหมด
ข้อควรระวัง
- หากใช้สายหนังไม่แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ตัวหนังเสื่อมคุณภาพและส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
XFit Mate
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 4.0
มาตรฐานกันน้ำ : IP67
แบตเตอรี : ใช้งานได้นานสูงสุด 5-7 วัน
น้ำหนัก : 48 กรัม
XFit Mate หนึ่งในอุปกรณ์ Wearable ที่สามารถตรวจจับค่าสุขภาพได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ การนอนหลับ การเผาผลาญแคลอรี ฯลฯ โดยการตรวจวัดค่าแต่ละอย่างใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็น Smartwatch วัดความดันที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เน้นการดีไซน์ที่เข้าถึงได้ง่าย น้ำหนักเบา สวมใส่ได้ตลอดวัน นอกจากจะสามารถตรวจจับค่าสุขภาพได้อย่างหลากหลายแล้ว ยังรองรับการแจ้งเตือนข้อความ รวมถึงกิจกรรมอื่น ๆ อีกด้วย ใช้เป็นนาฬิกาปลุกก็ได้ บอกเลยว่าครบเครื่องที่สุดแล้ว
ข้อดี
- ตรวจจับค่าสุขภาพได้อย่างครอบคลุมด้วยระยะเวลาสั้น ๆ
- เปลี่ยนสายนาฬิกาได้ตามต้องการ
ข้อควรระวัง
- ไม่เหมาะสำหรับการใส่ว่ายน้ำ อาจทำให้เซนเซอร์เสียหายได้
Omron HeartGuide
สเปคเด่น
หน้าจอ : Transflective memory-in-pixel LCD
แบตเตอรี : Lithium Ion
น้ำหนัก : 115 กรัม
ระยะเวลาการวัดค่าความดัน : 30 วินาที
หากคุณคุ้นเคยกับการวัดความดันโลหิตด้วยเครื่องแบบพองลมล่ะก็ บอกเลยว่า Smartwatch วัดความดันเรือนนี้ก็สามารถทำได้เหมือนกัน เพราะขณะที่คุณเลือกฟีเจอร์วัดความดัน บริเวณตัวสายนาฬิกาจะพองขึ้นเพื่อวัดความดันอย่างแม่นยำ นอกจากนั้นยังสามารถตรวจจับค่าสุขภาพต่าง ๆ รวมถึงการนับก้าวและการนอนได้ตลอด 24 ชั่วโมง บอกเลยว่าหากคุณมีผู้สูงอายุอยู่ที่บ้าน นาฬิกาสมาร์ทวอทช์เรือนนี้ควรค่าแก่การอยู่บนข้อมือของท่านเป็นอย่างยิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นวัยรุ่นหรือวัยทำงานที่ต้องการอ่านค่าสุขภาพต่าง ๆ ของร่างกายก็สามารถสวมใส่ได้เช่นกัน เพราะทางแบรนด์ดีไซน์ออกมาได้เรียบง่ายแต่แฝงความหรูหราไว้ไม่เบาเลยล่ะ
ข้อดี
- ตรวจวัดความดันได้แม่นยำ
- ติดตามค่าสุขภาพต่าง ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความ
Amazfit GTS 3
สเปคเด่น
หน้าจอ : ขนาด 1.75 นิ้ว AMOLED Multi Touch
การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.1
ระบบปฏิบัติการ : Zepp OS
แบตเตอรี : สูงสุด 12 วัน
ปิดท้ายด้วย Smartwatch วัดความดันที่แบตอึดสุด ๆ คุณสามารถใช้งาน Amazfit GTS 3 ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 12 วันเลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์โดดเด่นของสมาร์ทวอทช์เรือนนี้คงต้องยกให้การตรวจจับค่าสุขภาพที่หลากหลายและแม่นยำ ทั้งความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด คุณภาพการนอน เป็นต้น นอกจากนั้น Amazfit GTS 3 ยังมีโหมดการออกกำลังกายมาให้คุณเลือกใช้งานแบบอัตโนมัติอีกมากมาย กันน้ำที่ระดับ 5ATM ทำให้คุณสามารถสวมใส่อาบน้ำหรือว่ายน้ำได้อย่างสบายใจหายห่วง ซึ่งสมาร์ทวอทช์เรือนนี้ไม่เพียงแต่เหมาะสำหรับผู้ที่ใส่ใจเรื่องของสุขภาพและการออกกำลังกายเท่านั้น แต่สามารถสวมใส่ได้ทุกเพศทุกวัยเลยล่ะ ด้วยการดีไซน์และฟีเจอร์ไลฟ์สไตล์ที่ใส่มาให้ในตัวเรือน รับรองว่าโดนใจทุก Generation ชัวร์
ข้อดี
- รองรับการแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความ
- แบตเตอรีอึด อยู่ได้นานสูงสุด 12 วัน
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการตรวจไฟฟ้าหัวใจ ECG
หากคุณกำลังเริ่มที่จะรักตัวเอง บอกเลยว่าการซื้อ Smartwatch วัดความดันให้ตัวเองสักเรือนถือเป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีมาก เพราะคุณสามารถตรวจจับค่าสุขภาพของร่างกายได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้คุณสามารถเรียนรู้สุขภาพร่างกายและหันมาออกกำลังกายได้ตลอดเวลา นอกจากนั้นยังสามารถตามทันไลฟ์สไตล์ได้อย่างไม่มีสะดุด หากคุณไม่อยากพลาดทุกความเคลื่อนไหว มาช้อป Smartwatch วัดความดันและสมาร์ทอวทช์รุ่นอื่น ๆ ที่ Mercular ได้เลย ช้าหมดอดไม่รู้ด้วยนะ!