แนะนำ 5 Soundbar JBL รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม ดูหนังสะใจ
25 ต.ค. 2565
หากจะให้พูดถึงแบรนด์เครื่องเสียงยอดนิยมในปัจจุบัน ชื่อหนึ่งที่อยู่มาอย่างยาวนาน และได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ ย่อมต้องมีชื่อของแบรนด์ JBL อยู่ในใจผู้ใช้งานกันไม่มากก็น้อย ด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่มีสินค้ายอดนิยมมากมายหลากหลาย Categories ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ลำโพง, ลำโพงไร้สาย, ลำโพงพกพา และหูฟังประเภทต่างๆ เป็นต้น ซึ่งประเภทสินค้า Soundbar JBL ก็มีหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกด้วยกัน โดยแต่ละรุ่นก็มาพร้อมจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น จุดเด่นในเรื่องการเชื่อมต่อที่มีทั้งการเชื่อมต่อแบบมีสายและการเชื่อมต่อแบบไร้สาย, ด้านรูปร่างหน้าตาที่ดูเท่ ทันสมัย น่าใช้งาน และที่ขาดไปไม่ได้เลยคือ ด้านแนวเสียงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ตามสไตล์ของ JBL และในขณะเดียวกันแม้ Soundbar JBL จะมาพร้อมจุดเด่นที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไปตามรุ่นต่างๆ แต่ด้านของราคานั้นล้วนมาพร้อมระดับที่เบาสบายกระเป๋าจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายดายในแทบทุกรุ่น แบบที่เรียกได้ว่าเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่นๆ ในระดับฟังก์ชันใกล้เคียงกัน Soundbar JBL ก็จตะโดดเด่นด้วยการมาพร้อมราคาที่เบาสบายกระเป๋ากว่านั่นเอง
และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา Soundbar JBL และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดจะมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่โดดเด่นเหมาะกับตนเองมากที่สุด จาก Soundbar JBL หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับเองเป็นเจ้าของในปัจจุบันนี้ ในครั้งนี้ Mercular จึงได้รวบรวมเอา 5 Soundbar JBL รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม ดูหนังสะใจ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ
5 Soundbar JBL ในบทความนี้
ลำโพง JBL Bar 9.1 Dolby Atmos Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Wifi, Ethernet, Bluetooth 4.2, HDMI, Optical, USB
ระบบเสียง: 9.1 Channel
Subwoofer: มี
JBL Bar 9.1 Dolby Atmos เป็นลำโพง Soundbar JBL ขนาดของ Soundbar อยู่ที่ W: 884 x H: 62 x D: 120 มิลลิเมตร และ Surround อยู่ที่ข้างละ 173 x 60 x 120 มิลลิเมตร มาพร้อมซับวูฟเฟอร์ไร้สายขนาดอยู่ที่ W: 305 x H: 440 x D: 305 มิลลิเมตร การเชื่อมต่อให้มาแบบครบถ้วนผ่าน Wifi รองรับทั้งคลื่น 2.4 และ 5 GHz, Ethernet, Bluetooth 4.2, HDMI และ Optical จุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือระบบเสียง เพราะมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทางที่สมจริงสุดๆ ถึง 5.1.4 หรือ 9.1 Channel รองรับระบบเสียง 3 มิติ 3D Dolby ATMOS เป็นระบบ Surround แบบ True Surround เพราะสามารถถอดแยกชิ้นลำโพงออกมาวางในตำแหน่งและทิศทางที่ต้องการได้อย่างอิสระ ภายในมาพร้อมไดรเวอร์ขับเสียงที่ครบถ้วนทุกย่านเสียงทั้งในส่วนของตัว Soundbar ที่มาพร้อมไดรเวอร์ Racetrack Drivers 4 ตัว ไดรเวอร์ Tweeter ขนาด 0.75 นิ้ว 3 ตัว และไดรเวอร์ยิงขึ้นด้านบน Up-Firing Full-Range Drivers อีก 2 ตัว ส่วนของลำโพง Surround ถอดได้ที่ให้ไดรเวอร์ Tweeter ขนาด 0.75 นิ้วข้างละ 1 ตัวและ Up-Firing Full-Range Drivers อีกข้างละ 1 ตัว รวมไปถึง Subwoofer ที่ให้ไดรเวอร์ Woofer ขนาดใหญ่ถึง 10 นิ้ว การส่งสัญญาณก็เป็นอีกเรื่องที่ถือเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ทั้งการส่งสัญญาณภาพผ่าน HDMIรองรับคุณภาพสัญญาณแบบเต็มๆ Ultra 4K Passthrough พร้อมรองรับ Dolby Vision รวมถึงการส่งสัญญาไร้สายยังรองรับการ Streaming ภาพและเสียงจากทั้ง 2 ค่ายคือ Google Chromecast และ Apple AirPlay 2 ได้แบบไม่มีปัญหา
ข้อดี
- Soundbar ไร้สายถอดชิ้นส่วนได้
- ระบบเสียง 9.1 รองรับเสียง 3D Dolby ATMOS
- ให้เสียง True Surround ไม่ต้องจำลอง
- เสียงกระหึ่ม พร้อมแรงขับสูงสุดถึง 820W
ข้อควรระวัง
- แบตฯ Surround อยู่ได้ 10 ชั่วโมงเท่านั้น
ลำโพง JBL Bar 5.1 Sound Bar Speaker
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Bluetooth, HDMI, Optical, AUX/3.5 mm.
ระบบเสียง: 5.1 Channel
Subwoofer: มี
ลำโพง JBL Bar 5.1 Sound Bar ลำโพง Soundbar JBL ที่ดูแบบผิวเผินๆ ก็เหมือน Soundbar ทั่วไป แต่จริงๆ แล้วจะมีลำโพงแยก Surround ทั้ง 2 ข้างซ้ายขวาติดอยู่ ซึ่งสามารถถอดและเก็บคืนได้ ส่วน Subwoofer มีขนาดใหญ่ แยกเชื่อมต่อออกมาแบบไร้สาย มีดอกลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ข้างในขนาดถึง 10 นิ้ว ส่วนตัว Soundbard มีขนาดเล็ก สามารถนำมาไปวางไว้ใต้ทีวีขนาดราวๆ 40 - 55 นิ้วได้พอดี จุดเด่นของลำโพงตัวนี้คือเป็นลำโพง 5.1 Channel แบบไร้สายทั้งระบบ เสียบแค่สาย AC จ่ายไฟให้กับตัว Soundbar และ Subwoofer เพียง 2 เส้นก็พร้อมใช้งานแล้ว และลำโพง Surround 2 ตัวมีแบตเตอรี่ในตัวใช้ได้ถึง 10 ชั่วโมง ถ้าไม่ใช้ก็แค่เก็บใส่ตรง Soundbar พร้อมกับชาร์จแบตไปในตัว ในส่วนการเชื่อมต่อก็ให้มาแบบจัดเต็มมาก ตัวลำโพงเชื่อมต่อแบบ Bluetooth สามารถต่อมือถือหรือ Device ต่างๆ ได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็น Notebook iPhone หรือ iPad และมีช่องเชื่อมต่อแบบมีสายไม่ว่าจะเป็น AUX/3.5 mm. Optical และ HDMI Inputs ถึง 3 ช่องและมี HDMI Output (ARC) พร้อมภาพและเสียงอีก 1 ช่องรองรับดูหนัง 4K ตัวลำโพงยังมี App JBL SoundShift ที่สามารถสลับการใช้งานเสียงระหว่าง เลือกเล่นผ่าน TV, Smartphone หรือ Tablet ได้ในทันทีทุกเวลา จัดว่าเป็นลำโพง Sound Bar ที่สะดวกต่อการใช้งานมากที่สุด ส่วนของด้านสเป็คลำโพง JBL Bar 5.1 คือมี ดอกทวิตเตอร์ 3 ตัว (1.25 นิ้ว) และซัฟวูฟเฟอร์ขนาดใหญ่ (10 นิ้ว) ให้กำลังขับสูงสุด 510W
ข้อดี
- Soundbar ไร้สายถอดชิ้นส่วนได้
- ระบบเสียง 5.1 ให้เสียงกระหึ่มรอบทิศทาง
- ให้เสียง True Surround ไม่ต้องจำลอง
- เสียงกระหึ่ม พร้อมแรงขับสูงสุดถึง 510W
ข้อควรระวัง
- แบตฯ Surround อยู่ได้ 10 ชั่วโมงเท่านั้น
ลำโพง JBL Link Bar Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Wifi, Ethernet, Bluetooth 4.2, HDMI, Optical, AUX/3.5 mm.
ระบบเสียง: 2.0 Channel
Subwoofer: ไม่มี
JBL Link Bar เป็น ลำโพง Soundbar JBL ที่มาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่ดูเท่ทันสมัยน่าใช้งาน โดดเด่นด้วยขนาดที่กำลังดีไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไปอยู่ที่ 1020 x 60 x 93 มิลลิเมตร หยิบยกและเคลื่อนย้ายได้ง่ายดายด้วยน้ำหนักที่เบากำลังดีเพียง 2.5 กิโลกรัม จุดเด่นของ JBL Link Bar Soundbar นั่นก็คือการที่ภายในนั้นใส่ Android TV เข้ามาในตัวทำให้สามารถดาวน์โหลต Application สำหรับรับชมภาพยนตร์รวมไปถึงเกมต่างๆ มาใช้กับ TV ที่กำลังเชื่อมต่ออยู่ได้ และยังสามารถใช้เล่นเว็บไซต์ได้เช่นเดียวกับบน Smartphone Android อีกด้วย ด้านการเชื่อมต่อ JBL Link Bar ก็ให้มาแบบครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Wi-Fi ที่รองรับคลื่นทั้ง 2.4 และ 5 GHz และ Ethernet และยังรองรับการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2 สำหรับการเชื่อมต่อแบบมีสายมาพร้อมช่อง HDMI และ HDMI-ARC รองรับการส่งสัญญาณ 4K รวมถึงยังมาพร้อมช่อง AUX/3.5 mm. และ Optical ด้านการควบคุมก็สะดวกทั้งการควบคุมผ่านปุ่มที่อยู่บนตัวหรือจะควบคุมผ่านรีโมทคอนโทรลที่ให้มาด้วยก็ได้ มาพร้อม Google Assistant ในตัว สำหรับการสั่งการด้วยเสียงพร้อมฟังก์ชัน Far-Field ที่รับเสียงสั่งการได้คมชัดแม้จะนั่งอยู่ไกลจากลำโพงก็ตาม
ข้อดี
- มาพร้อม Android TV ภายในตัว
- ไมค์ Far-Field รับเสียงสั่งการได้ไกล
- HDMI รองรับการส่งสัญญาณภาพระดับ 4K
- เสียงกระหึ่ม สมจริงแบบ JBL legendary sound
ข้อควรระวัง
- ไม่มี Subwoofer ให้มาด้วย
ลำโพง JBL Bar 2.1 Deep Bass Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 4.2, HDMI, Optical, USB
ระบบเสียง: 2.1 Channel
Subwoofer: มี
ลำโพง JBL Bar 2.1 Deep Bass Soundbar เป็น Soundbar JBL ที่มาพร้อมรูปทรงแบบแท่งยาวพร้อมขนาดที่กะทัดรัดเพียง W: 965 x H: 58 x D: 85 มิลลิเมตร เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยน้ำหนักเบาเพียง 2.16 กิโลกรัม มาพร้อม ลำโพง Subwoofer ไร้สาย ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว (W: 240 x H: 240 x D: 379 มิลลเมตร) และน้ำหนักอยู่ที่ 10.4 กิโลกรัม การเชื่อมต่อก็ให้มาแบบครบครันทั้งไร้สายและมีสาย โดยส่วนของการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ Bluetooth 4.2 ส่วนของการเชื่อมต่อแบบมีสายรองรับ HDMI และ Optical ภายในมาพร้อมไดรเวอร์ขับเสียงแบบ Race Track Drivers ถึง 4 ตัว ทำงานร่วมกับไดรเวอร์ Tweeter ขนาด 1 นิ้ว อีก 2 ตัว ขับเสียงย่านกลางและสูงออกมาแบบสมจริง และส่วนของไดรเวอร์ Subwoofer ขนาด 6.5 นิ้วที่ต้องบอกเลยว่าขับเบสได้ลึก กระหึ่ม ถึงใจ
ข้อดี
- เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
- รองรับระบบเสียง Dolby Digital
- เบสลงได้ลึกกระหึ่มถึงใจ Deep Bass
- มาพร้อม ลำโพง Subwoofer ไร้สาย
ข้อควรระวัง
- ไม่รองรับการเชื่อมต่อ Internet
ลำโพง JBL Bar 2.0 All In One Soundbar
สเปคเด่น
การเชื่อมต่อ: Bluetooth 4.2, HDMI, Optical, USB
ระบบเสียง: 2.0 Channel
Subwoofer: ไม่มี
ลำโพง JBL Bar 2.0 All In One Soundbar เป็นลำโพง Soundbar JBL ขนาดกะทัดรัด Compact Size ที่ 614 x 58 x 90 มิลลิเมตร เคลื่อนย้ายสะดวกด้วยน้ำหนักกำลังดีเพียง 1.61 กิโลกรัม มาพร้อมการเชื่อมต่อแบบครบครัน และฟังก์ชั่นการใช้งานแบบจบในตัวเดียว All In One ไม่ต้องมีลำโพงส่วนอื่นๆ มาตั้งวางให้วุ่นวาย เหมาะกับการใช้งานในคอนโดมิเนียมที่มีเนื้อที่ไม่มาก หรือวางในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นขนาดเล็กไปถึงกลาง ให้เสียงได้กระหึ่มทั่วทั้งห้องด้วยไดรเวอร์แบบ Racetrack Drivers ถึง 2 ตัว พร้อมแรงขับสูงถึง 40W x 2 ขับเสียงได้ครบทุกย่านเสียงทั้งย่านกลาง สูง และเบส พูดได้เลยว่าถ้ามีงบพอประมาณ เนื้อที่จำกัด ไม่ต้องการต่อสายให้วุ่นวาย รุ่นนี้ตอบโจทย์ ไม่ผิดหวังแน่นอน
ข้อดี
- เชื่อมต่อได้ทั้งแบบมีสายและไร้สาย
- ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา ตั้งวางสะดวก
- ให้เสียงครบถ้วนโดยไม่ต้องต่อลำโพงเพิ่ม
ข้อควรระวัง
- ไม่มี Subwoofer ให้มาด้วย
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 5 Soundbar JBL รุ่นไหนดี? เสียงกระหึ่ม ดูหนังสะใจ ที่ทาง Mercular ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น Soundbar JBL ที่มาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของรูปร่างหน้าตาสุดเท่ ตั้งวางไว้ได้แทบทุกห้องภายในบ้าน ฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็มทั้ง การเชื่อมต่อที่ครบครัน และระบบเสียงที่กระหึ่มสมจริงให้ประสบการณ์แบบเดียวกับโรงภาพยนตร์ได้จากที่บ้าน รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา Soundbar JBL และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ
ซึ่งทาง Mercular ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา Soundbar JBL ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง ซาวด์บาร์ JBL รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ