เซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร?

19 ม.ค. 2566

เซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร?

หากจะพูดถึงเทคโนโลยีด้านเสียงในปัจจุบันแล้วก็ต้องบอกเลยว่าเทคโนโลยีด้านเสียงนั้นมีการพัฒนาไปไกลมากๆ จากระบบเสียง Mono ในอดีตที่ไม่มีการแยกมิติเสียงซ้าย - ขวาผลที่ได้คือประสบการณ์เสียงที่เรียบแบน ทำให้ไม่ว่าจะฟังเสียงจากข้างใดก็ให้ประสบการณ์เสียงที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก จนมาสู่ระบบเสียงแยกทิศทางซ้าย - ขวาหรือที่เรียกว่า Stereo ช่วยเพิ่มมิติเสียงให้มีความสมจริงมากยิ่งขึ้น โดยผู้ฟังสามารถสัมผัสประสบการณ์เสียงที่ใกล้เคียงความเป็นจริงได้มากขึ้นกว่าเดิมมากขึ้นจากการแยกเสียงซ้ายและขวาในระบบเสียแบบ Stereo นั่นเอง และเทคโนโลยีด้านเสียงยังไม่หยุดอยู่แค่ Stereo เท่านั้นกับเทคโนโลยีเสียงที่สมจริงมากขึ้นไปอีกระดับกับระบบเสียงทีเรียกว่า Surround หรือก็คือการจำลองทิศทางเสียงที่ละเอียดมากขึ้นกว่าระบบเสียงแบบ Stereo ที่แจกแจงระบบเสียงได้เพียง 2 ทิศทางซ้าย - ขวานั่นเอง และด้วยทิศทางเสียงที่สามารถแจกแจงได้อย่างละเอียดทำให้ระบบเสียง Surround หรือ เซอร์ราวด์ นั้นถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในงานที่ต้องการให้ประสบการณ์ความสมจริงของเสียงเช่นในโรงภาพยนตร์ ระบบห้องดูหนัง Home Theater ไปจนถึงระบบเสียงภายในที่พักอาศัยที่ให้ประสบการณ์เสียงไม่แพ้กับการรับฟังภายในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว


และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมีข้อสงสัยว่า ระบบเสียง เซอร์ราวด์ คืออะไร ในครั้งนี้ mercular.com ก็ได้รวบรวมเอาข้อมูล เซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร? มาแนะนำให้กับผู้ที่ใช้งานลำโพงและผู้ที่ยังไม่รู้จัก เซอร์ราวด์ คืออะไร รวมถึงผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรายละเอีดยอย่างไร และน่าสนใจมากแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ

เซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร?

เซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร?

1. ระบบเสียง Stereo


ก่อนจะไปทำความเข้าใจว่า ระบบเสียงเซอร์ราวด์ คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับระบบเสียงแยกมิติซ้าย - ขวาขั้นพื้นฐานอย่าง Stereo กันก่อนครับโดยระบบเสียง Stereo จะเป็นระบบเสียงพื้นฐานเริ่มต้นที่จะเป็นการแยกเสียงจากทางซ้ายและขวาออกจากกัน และมีการขับเสียงในแต่ละข้างที่เป็นอิสระ กล่าวคือในบางครั้งเสียงข้างซ้ายอาจจะดังกว่าและในบางครั้งเสียงจากข้างขวาก็อาจจะดังกว่าได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิดเสียงว่าดำเนินไปในทิศทาใดนั่นเอง ซึ่งระบบเสียง Stereo ก็ยังสามารถแยก Channel หรือช่องขับเสียงไปได้อีก 2 รูปแบบคือ Stereo 2.0 CH และ Stereo 2.1 CH โดย Stereo 2.0 Channel จะเป็นระบบเสียงแยกซ้าย - ขวาธรรมดา ส่วน 2.1 CH จะเป็นการเพิ่มส่วนของลำโพง Subwoofer (.1) เข้ามาช่วยในการขับเสียงย่านต่ำหรือเสียงเบสให้ลงได้ลึกและกระหึ่มถึงใจมากยิ่งขึ้นเพื่อความสมจริงของมิติเสียงที่มากขึ้นกว่าเดิม


หลักๆ ประเภทลำโพงที่มาในระบบเสียงแบบ Stereo 2.0 CH และ 2.1 CH นั้นจะเป็นลำโพงขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น ลำโพงคอมพิวเตอร์ ลำโพง Bookshelf และลำโพงเกมมิ่ง เป็นต้น

ระบบเสียง เซอร์ราวด์ คืออะไร?

2. ระบบเสียง เซอร์ราวด์ คืออะไร?


รู้จักระบบเสียง Stereo กันไปแล้วต่อไปก็มาทำความรู้จักกับระบบเสียง เซอร์ราวด์ กันต่อครับ โดยให้อธิบายง่ายๆ เลย ระบบเสียงเซอร์ราวด์ ก็คือระบบเสียง Stereo ที่พัฒนาไปอีกขั้น โดยมีการเพิ่มทิศทางการขับเสียงให้มากขึ้นจาก Stereo ที่มีแค่ข้างซ้ายและข้างขวาเท่านั้น ซึ่งทิศทางที่เพิ่มเข้ามาก็มีตั้งแต่ด้านหน้า ด้านข้าง ด้านหลัง ไปจนถึงการเพิ่มลำโพงที่ด้านบนเพื่อประสบการณ์ที่สมจริงเสมือนเข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์จริงๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อเพิ่มประสบการณ์การรับเสียงที่สมจริงมากยิ่งขึ้น โดยหลักการของการเป็นระบบเสียง เซอร์ราวด์คือ จะต้องมีลำโพงอย่างน้อยที่สุดคือ 3 ตำแหน่งขึ้นไป โดยลำโพงทั้ง 3 ตำแหน่งนั้นจะไม่นับรวมกับส่วนของลำโพง Subwoofer


ซึ่งระบบเสียง Surround นั้นส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้เหมาะในการใช้งานรับชมภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่ เพราะมิติเสียงจากรอบทิศทางจะช่วยในเรื่องของการจำลอง และแยกทิศทางของเสียงขากรอบรอบตัวเพื่อให้ได้ประสบการณ์การรับชมและรับฟังที่สมจริงมากที่สุด ซึ่งความสมจริงก็จะช่วยช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้สนุกและเต็มอิ่มมากยิ่งขึ้นนั่นเอง โดยระบบลำโพงเซอร์ราวด์ที่มีในปัจจุบันนั้นแบ่งออกได้ดังนี้


ลำโพงเซอร์ราวด์ 3.1 CH


ระบบลำโพงเซอร์ราวด์ 3.1 CH จะประกอบไปด้วยลำโพง ซ้าย - ขวา และตรงกลางที่อยู่ระหว่างระหว่างลำโพงข้างซ้ายและข้างขวาหรือก็คืออยู่ข้างหน้าผู้ฟัง ที่จะช่วยขับเสียงให้สมจริงมากขึ้นจากเดิมที่ได้ยินแค่ด้านซ้ายและด้านขวาก็จะมีในส่วนของรายละเอียดเสียงจากด้านหน้าเข้ามาด้วย โดยจะมีส่วนของ Subwoofer ทำหน้าที่ขับเสียงเบสแยกต่างหากเพื่อความสมจริงของเสียงย่านต่ำและเสียงเบส


ลำโพงเซอร์ราวด์ 4.1 CH


ระบบลำโพงเซอร์ราวด์ 4.1 CH จะแตกต่างจาก 3.1 เล็กน้อยคือในระบบ 3.1 จะแบ่งเป็นลำโพงข้างซ้าย ด้านหน้า และข้างขวา แต่ในระบบ 4.1 CH จะแตกต่างออกไป โดยจะแบ่งเป็นลำโพงด้านซ้ายและด้านขวา แต่จะไม่มีลำโพงด้านหน้า และจะเพิ่มลำโพงด้านหลังซ้าย และด้านหลังขวาเข้ามาแทน ซึ่งจะช่วยเพิ่มมิติเสียงในด้านหลังเข้ามาเพื่อความสมจริงมากขึ้น และจะมีส่วนของ Subwoofer ทำหน้าที่ขับเสียงเบสแยกต่างหากเพื่อความสมจริงของเสียงย่านต่ำและเสียงเบส

ลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 CH

ลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 CH


ระบบลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 CH พูดได้ว่าเป็นระบบลำโพงเซอร์ราวด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการรวมเอาระบบเสียงเซอร์ราวด์ 3.1 และ 4.1 มาไว้ด้วยกันประกอบไปด้วย ลำโพงข้างซ้าย ลำโพงด้านหน้า (Center) ลำโพงข้างขวา และลำโพงข้างหลังซ้าย - ขวา และจะมีส่วนของ Subwoofer ทำหน้าที่ขับเสียงเบสแยกต่างหากเพื่อความสมจริงของเสียงย่านต่ำและเสียงเบส ทำให้ประสบการณ์เสียงที่ได้นั้นเรียกได้ว่าสมบูรณ์และสมจริงใกล้เคียงกับการรับชมในโรงภาพยนตร์ก็ว่าได้ โดยระบบลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 CH ยังเป็นที่รู้จักในชื่อ Home Theater อีกด้วย


ลำโพงเซอร์ราวด์ 7.1 CH


หากชุดลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 CH ยังให้มิติเสียงที่สมจริงไม่มากพอ ก็ยังมีระบบลำโพงเซอร์ราวด์ 7.1 CH ที่เป็นทางออก โดยเป็นการนำระบบลำโพงเซอร์ราวด์ 5.1 CH ที่ประกอบไปด้วย ลำโพงหน้าข้างซ้าย ลำโพงด้านหน้า (Center) ลำโพงหน้าข้างขวา และลำโพงข้างหลังซ้าย - ขวา และจะมีส่วนของ Subwoofer ทำหน้าที่ขับเสียงเบสแยกต่างหากเพื่อความสมจริงของเสียงย่านต่ำและเสียงเบส และเพิ่มลำโพงด้านข้างมาอีก 2 ตัวประกอบไปด้วยด้านซ้ายและด้านขวา หรือพูดได้เลยว่ามีลำโพงอยู่รอบตัวทำให้กลายเป็นชุดลำโพง Home Theater ขนาดใหญ่ที่ตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการประสบการณ์เสียงที่สมจริงเสมือนรับชมอยู่ภายในโรงภาพยนตร์หรือเข้าไปอยู่ร่วมในเหตุการณ์จริงก็ว่าได้

ลำโพงเซอร์ราวด์ Dolby Atmos

ลำโพงเซอร์ราวด์ Dolby Atmos


และเทคโนโลยี เซอร์ราวด์ขั้นสูงสุดที่เมื่อลำโพงรอบตัวนั้นยังให้เสียงที่ไม่สมจริงเพียงพอกับความต้องการ กับระบบเสียง Surround Dolby Atmos ที่จะมาในรูปแบบของ 5.1.2 CH และ 7.1.2 CH โดยจะเป็นการเพิ่มลำโพงแขวนด้านบนศีรษะเข้าเข้ามา 2 ตัวที่ข้างซ้าย 1 ตัวและข้างขวา 1 ตัว ซึ่งทำให้ไม่เพียงแต่เสียงที่เข้ามาจากรอบตัวเท่านั้นแต่ยังมีเสียงที่มาจากด้านบนผ่านไปอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นหากเซอร์ราวด์ 5.1.2 CH และ 7.1.2 CH ยังไม่เพียงพอก็ยังมีระบบเสียงเซอร์ราวด์ 5.1.4 และ 7.1.4 CH ให้ได้เลือกอีก โดยจะเป็นการเพิ่มลำโพงบนศีรษะจาก 2 ตัวให้เป็น 4 ตัวซึ่งนับว่าเป็นระบบเซอร์ราวด์ที่ให้ความสมจริงสูงสุดแบบที่หากนั่งหลับตาฟังก็แทบแยกไม่ออกเลยว่าเป็นเสียงจากลำโพงไม่ใช่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ


เป็นยังไงกันบ้างครับกับ ระบบเสียงเซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร? ที่ mercular.com ได้นำมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยจะเห็นได้ว่า ระบบเสียงเซอร์ราวด์ นั้นไม่เพียงแต่ให้เสียงรอบทิศทางที่สมจริงเท่านั้น แต่ยังสามารถแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบระบบเสียงตามจำนวนของลำโพงที่ใช้งานได้อีกด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้งานนั้นมีพื้นที่ในการวางลำโพงมากเพียงใด และมีงบที่สูงในระดับไหน ในการจับจองเป็นเจ้าของลำโพงระบบเสียงเซอร์ราวด์ให้เหมาะกับการทำงานใช้งานมากที่สุดครับ


และสำหรับครั้งนี้ mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลนี้จะช่วยผู้อ่านเข้าใจและรู้จัก ระบบเซอร์ราวด์ คืออะไร พิเศษกว่าระบบเสียงปกติอย่างไร? ได้ไม่มากก็น้อยครับ และในครั้งหน้าหากมีข้อมูลใดที่เป็นประโยชน์อีกก็จะรีบนำมาแนะนำกันอย่างแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้สวัสดีครับ

article-banner-1
article-banner-2