หูฟัง Focal Elear Headphone

รีวิว หูฟัง Focal Elear Headphone

สรุป หูฟัง Focal Elear Headphone เหมาะกับใคร?

หูฟัง Focal Elear Headphone ราคา อาจจะฟังดูสูงสำหรับบางท่าน เพราะอยู่ราวๆ ครึ่งแสนเลยทีเดียว แต่บอกเลยว่า Elear เป็นสินค้าที่ไม่มีตัวไหนในโลกมาเทียบได้ง่ายๆ จุดเด่นที่สุดคงไม่พ้นเรื่องเสียงที่ดีมากๆ จริงๆ วัสดุที่เลือกใช้แต่เกรดพรีเมียม Hi-End ทำให้นอกจากจะมีความคงทนแข็งแรง ดูหรูหรา และยังสามารถสวมใส่ได้สบายๆ อีกด้วย ส่วนของเรื่องเสียงถ้าได้ลองหยิบมาฟังรับรองว่าวางไม่ลงแน่ๆ ทั้งดีไซน์ที่ดูพรีเมียม การสวมใส่ที่สบาย ใช้ได้ยาวๆฟินๆ ได้เป็น 10 ปี กับสินค้าตัวนี้แน่นอน

รายละเอียดทั่วไป

สำหรับ Focal ก็เรียกได้ว่ากวาดรางวัลมาเรียบ เพราะขึ้นชื่ออยู่แล้วเรื่องคุณภาพกับแบรนด์สัญชาติฝรั่งเศสแบรนด์นี้ และสำหรับในรุ่น Focal Elear ก็ถือว่าเป็นรุ่นที่อยู่ในระดับรองท๊อป Flagship กับราคาหลักหมื่นกลางๆ มาพร้อมคำโปรยว่าเป็นรุ่นที่มี High Fidelity และเป็น หูฟังครอบหูแบบเปิดข้าง Over-Ear Open-Back โดยมีจุดเด่นหลักๆ ตามที่กล่าวไว้ก็คือเป็น Open Back Headphone คุณภาพแบบ Very Hi-End นำเทคโนโลยีจากลำโพงรุ่นใหญ่ย่อขนาดให้มาอยู่ในสินค้าตัวนี้ ทั้งยังดีไซน์และผลิตที่ฝรั่งเศสแบบ Elegant และ Sophisticated คือเรียบหรู โก้ๆ และวัสดุชั้นยอด ตัว Elear มีขนาดอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ใหญ่เกินไปและก็ไม่เล็กเกินไปค่ น้ำหนักกำลังดีอยู่ที่ 450 กรัม (ไม่รวมสาย) จัดว่าไม่หนักจนเกินไป วัสดุที่เลือกใช้ก็มีทั้งหนังเกรดพรีเมียม ส่วน Headband ก็เลือกใช้วัสดุสุดทนทานอย่าง Aluminum Yoke ที่ทำให้มีความแข็งแรงในขณะเดียวกันก็มีความหรูหราเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งยังสามารถปรับระดับให้พอดีกับศีรษะได้หลากหลายขนาดอีกด้วย ส่วนของ Earcup ด้านในใช้วัสดุเป็น Memory Foam ที่มีจุดเด่นคือสามารถซึมซับแรงกดทับได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถคือนรูปได้รวดเร็วและกลับสู่สภาพเดิมไม่เสียงรูปร่างง่ายๆ แบบ Foam ธรรมดาทั่วไปอีกด้วย หุ้มด้วย Microfiber Fabric Cushion ที่มีผิวสัมผัสที่นุ่มสบายผิวทำให้สามารถสวมใส่ได้เป็นเวลานานโดยไม่ระคายเคืองหูง่ายๆ นั่นเองไม่ธรรมดา การใช้งานควรใช้งานกับ DAC/AMP หรือเครื่องเล่นเพลงคุณภาพสูงๆ เพราะนี้มีแรงต้านทานอยู่ที่ 80 Ohms จัดว่าสูงทีเดียว ด้วยความที่ Elear เป็นแบบ Open-Back  จะได้ยินเสียงบรรยากาศรอบข้างได้หมดเมื่อเปิดเพลงฟังก็จะให้ความเป็นธรรมชาติได้ Ambient รอบข้างไปด้วย ให้ความรู้สึกโปร่งและไม่อึดอัด สเป็คเทพมากๆ ไดร์เวอร์ทำจากแร่ Beryllium บริสุทธิ์ นิยมใช้ในลำโพงบ้านราคาหลักล้าน ที่ทาง Focal นำมาดีไซน์ใหม่เรียกว่า Pure Beryllium “M” – Shaped dome ที่เป็นไดร์เวอร์จากลำโพงขนาดใหญ่ที่ทาง Focal ย่อขนาดเพียง 40 มิลลิเมตร ให้ความถี่ได้ตั้งแต่ 5Hz – 23kHz ไม่ใช้วงจรแบ่งความถี่หรือ Filter ใดๆ ทำให้เสียงออกมาโดยไม่ถูกลดทอนประสิทธิภาพนั่นเอง

การเชื่อมต่อ

• • AUX/6.35 mm.

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• • 1 x Focal Elear
• • 1 x สาย OFC AUX/6.35 mm.
• • 1 x เคสสุดหรูหรา

Key-Highlight

• • หูฟังระดับ Very High-End
• • วัสดุระดับพรีเมียมสุดหรูหรา
• • Headphone แบบเปิด Open Back
• • รองรับความถี่ 5Hz - 23kHz

รีวิวเสียง

สัมผัสแรกเลยคือเป็นเสียงระดับ Reference ที่ธรรมชาติที่สุดตั้งแต่ที่เคยฟังมา และเป็น Open Headphone ที่เบสดีมากๆ ฟังสนุกอีกด้วย ใช้ฟังได้ทุกแนวแม้กระทั่ง Rock, EDM แถมบาลานซ์ดีแทบจะที่สุด เนียนกริ๊บทุกย่าน สุดทั้งมิติด้านลึกและด้านกว้างโดยเฉพาะย่านของเสียงกลางทำได้หวานมากๆ พุ่งและคม เสียงร้องลอยเด่นอยู่ตรงกลาง ได้ยินเสียงนักร้องแบบเนื้อๆ นวลๆ และที่ทำได้ดีคือพวกเสียงเครื่องดนตรี Acoustic ขับออกมาได้เนียนเป็นธรรมชาติมากๆ อย่างกีต้าร์โปร่ง เครื่องเป่าต่างๆ ทั้งเรื่องของ Soundstage ทำได้อยู่ในระดับที่เรียกว่าสุดยอด Stage กว้างมากแต่ไม่กว้างเว่อร์จนเกินไป บอกระยะตำแหน่งชิ้นดนตรีได้เห็นภาพ ให้อารมณ์คล้ายๆ อยู่ใน Hall Concert ขนาดใหญ่ หรือนั่งฟังเพลงจากลำโพงหลักล้านในห้องยังไงอย่างนั้นเลย ด้านเสียงสูงฟังแล้วเนียนหูใช้ได้ ปรับมาพอดี ไม่บาด ไม่ทู่ ปลายเสียงไปได้สุด ให้ไดนามิคอย่างชัดเจน ส่วนเสียงเบสเป็นอะไรที่ Surprise พอสมควร ปกติสินค้าระดับ Hi-End หลักแสนจะให้เบสมาในระดับที่น้อยมากๆ แต่ Utopia ให้มา Balance พอดิบพอดีกับเสียงสูง Level อยู่ในระดับใกล้ๆ กัน เบสมาเป็นเนื้อเน้นๆ ลึกถึงไหนถึงกันฟังแล้วอิ่มใจแนวสะอาด ถือว่า Overall ครบทุกย่าน ให้บาลานซ์และไดนามิคเสียงที่สุดยอด เอาอยู่หมดทุกแนว ใช้ฟังได้ตั้งแต่ Classic ยัน Metal

แนวเพลงที่เหมาะสม 

Pop / Pop-Rock / Rock / Alternative / Hip-Hop / R&B / EDM