คีย์บอร์ดไร้สาย Keychron K4 V.2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard TH

Keychron K4 V.2 แมคคานิคอลคีย์บอร์ดรุ่นพัฒนาแต่ยังคงดีไซน์คล้ายเดิม ตัวคีย์บอร์ดมาด้วยขนาด 96% ที่ยังคงเหลือส่วนนัมแพดหรือชุดตัวเลขไว้ แต่เขยิบเข้ามาใกล้กับปุ่มตัวอักษรมากขึ้น เหมาะสำหรับใครที่อยากได้คีย์บอร์ดที่มีขนาดเล็กกว่า Full-Size แต่ยังคงมีนัมแพดอยู่เพื่อเข้าถึงการกดปุ่มตัวเลขได้อย่างรวดเร็ว

การเชื่อมต่อของ Keychron K4 V.2 นี้สามารถทำได้ทั้งผ่านสายและไร้สายด้วย Bluetooth ทำให้มันครอบคลุมทั้ง คอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊ค รวมถึงอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตด้วย นอกจากนี้ยังมีสวิตซ์สำหรับการสลับใช้งานระหว่างระบบปฏิบัติการ Windows/Android และ macOS/iOS ด้วย นั่นทำให้การทำงานบนคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊คจาก Apple เมื่อใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดตัวนี้จะยังคงให้ประสิทธิภาพไม่ต่างจากการใช้งานคีย์บอร์ดจาก Apple โดยตรงเลยครับ ใครที่ใช้ iMac หรือ MacBook อยู่ก็หายห่วงเลยครับ ใช้งานได้เต็มระบบแน่นอน

แมคคานิคอลคีย์บอร์ด ที่เหมาะกับทุกอุปกรณ์

ดีไซน์

Keychron K4 V.2 Wireless Hotswap เป็นแมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สายขนาด 96% เล็กกว่า Full-Size แต่ยังคงมีปุ่มที่สำคัญต่อการใช้งานครบๆ อย่างปุ่มนัมแพดหรือชุดปุ่มตัวเลข ชุดปุ่มฟังก์ชัน (ปุ่มF) ปุ่มคำสั่ง และปุ่มตัวอักษร แต่ที่ขนาด 96% แตกต่างจาก Full-Size คือส่วนตัวนัมแพดเขยิบชิดเข้ามาหาสปุ่มตัวอักษร ส่วนปุ่มอื่นๆ ก็แทบไม่มีช่องว่างเลย เขยิบเข้ามาหากันหมด ส่วนชุดคำสั่งอย่าง Home, End, PgUp, PgDn ถูกย้ายไปด้านบนสุดแทน ทำให้มันมีขนาดเล็กลง แต่ปุ่มยังคงครบๆ ทำงานได้ทุกรูปแบบ

บริเวณฐานของคีย์บอร์ดมีแผ่นยางกันลื่น 4 มุม และมีขาตั้งที่สามารถปรับได้ 2 ระดับ เพิ่มความเข้ามือมากขึ้น โดย Keychron K4 V.2 ตัวนี้ถูกปรับดีไซน์เล็กน้อยจากเวอร์ชันแรก ส่วนที่ปรับไปด้วยคือองศาการเอียงของคีย์บอร์ดมีการลาดลงมากขึ้น ทำให้กดได้เข้ามือแม้จะไม่ได้ใช้ขาตั้ง หรือจะใช้ขาตั้งก็ได้ความเอียงลงมากขึ้น ผู้ใช้งานสามารถปรับได้ตามความถนัดได้เลย

วัสดุ

Keychron K4 V.2 เลือกใช้อะลูมิเนียม Aircraft-grade และพลาสติก ABS เป็นวัสดุหลัก ส่วนกรอบเคสที่เป็นอะลูมิเนียมดูพรีเมี่ยมสุดๆ ส่วนพลาสติกเองก็มีความแข็งแรงและน้ำหนักเบา ทำให้คีย์บอร์ดตัวนี้มีน้ำหนักอยู่ที่ 933 กรัม โดยมีข้อสังเกตตรงด้านใต้คีย์บอร์ดที่เป็นวัสดุพลาสติกจะเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย รวมถึงคราบมันบนมือจะติดง่ายเช่นกัน แต่ก็สามารถทำความสะอาดได้ง่ายเช่นเดียวกันครับ ไม่ต้องกังวล

ส่วนสายเชื่อมต่อที่ให้มาภายในชุดจะเป็นสายแบบถัก นอกจากจะสวยงาม ยังยืดอายุการใช้งานสาย แข็งแรง ทนทานกว่าสายทั่วไปครับ

การเชื่อมต่อ

Keychron K4 V.2 Wireless Hotswap สามารถเชื่อมต่อได้ 2 วิธี คือการเชื่อมต่อแบบมีสาย และการเชื่อมต่อแบบไร้สาย โดยการเชื่อมต่อแบบมีสายรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB-A ทั้งคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คก็สามารถเสียบใช้งานได้ทันที ส่วนการเชื่อมต่อแบบไร้สาย จะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth5.1 จึงทำให้มันสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์พกพาหรือโน๊ตบุ๊คที่ไม่มีพอร์ต USB-A อย่าง MacBook รุ่นใหม่ๆ ด้วย โดยการเชื่อมต่อไร้สายนี้สามารถจดจำอุปกรณ์ได้มากถึง 3 เครื่องพร้อมกัน เมื่อเชื่อมต่อแล้ว สามารถกดสลับสับเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เคยเชื่อมต่อแล้วได้ทันทีโดยไม่ต้องทำการเชื่อมต่อใหม่ นั่นทำให้คีย์บอร์ดตัวเดียวกันนี้สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ที่บ้าน นำไปใช้ที่ทำงาน หรือใช้งานร่วมกับแท็บเล็ตสำหรับใช้งานนอกสถานที่ได้เลยหากเคยเชื่อมต่อแล้วครั้งหนึ่ง

Keychron K4 V.2 Wireless Hotswap ตัวนี้สามารถใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows และ macOS ทำให้มันสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Apple ได้เต็มระบบ ทั้งคำสั่งบนคีย์บอร์ด คีย์ลัด และอื่นๆ ที่ทำได้บน MacBook ก็สามารถกดได้ผ่านคีย์บอร์ดตัวนี้เช่นกัน

สวิตซ์และคีย์แคป

คีย์แคปตัวนี้จะเป็นภาษาไทย - อังกฤษ เนื่องจากเป็นสินค้าจาก Keychron Thailand ทำให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้ตัวอักษรภาษาไทยใช้งานได้ง่ายขึ้น เลือกใช้วัสดุ ABS ที่มีความยืดหยุ่นสูง ได้เสียงกดที่เป็นเอกลักษณ์ ส่วนสวิตซ์ ตัวนี้ก็มีให้เลือก 3 รูปแบบ ได้แก่ Red Switch แบบ Linear, Blue Switch แบบ Clicky และ Brown Switch แบบ Tactile สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบและความถนัดเลยครับ แต่หากอยากถอดออกมาลูป หรือเปลี่ยนไปใช้สวิตซ์ที่ของตนเอง ก็สามารถถอดสวิตซ์ออกจากแผงวงจรได้ทันทีด้วยฟีเจอร์ Hot-Swappable ทำให้เราสามารถถอดและใส่สวิตซ์ได้ง่าย โดยไม่ต้องบัดกรีแต่อย่างใด

สรุป Keychron K4 V.2 Wireless Hotswap Mechanical Keyboard TH เหมาะสำหรับใคร?

Keychron K4 V.2 Wireless Hotswap เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาแมคคานิคอลคีย์บอร์ดไร้สาย อยากได้ปุ่มครบๆ แต่ไม่อยากได้ขนาด Full-Size เพราะใหญ่เกินไป ตัวนี้มาด้วยขนาด 96% มีปุ่มครบและมีขนาดเล็กกว่า แต่ด้วยปุ่มมีการเรียงชิดติดกัน ทำให้ในช่วงแรกอาจจะไม่คุ้นมือมากนัก แต่หากใช้งานไปสักพัก รับรองว่าตัวนี้จะใช้งานได้เป็นอย่างดีเลยครับ

การใช้งานไร้สายทำให้คีย์บอร์ดตัวนี้สามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค รวมถึงอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตก็สามารถใช้งานได้ด้วย แบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 4000 mAh ทำให้สามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้ต่อเนื่องถึง 240 ชั่วโมง

จากรุ่นแรก จนมาถึง V2 นี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายจุดเพื่อช่วยเสริมให้การใช้งานดีขึ้น ทั้งระดับองศาการเอียงที่เข้ามือมากขึ้น / ระบบไร้สายเป็น Bluetooth 5.1 / ย้ายปุ่ม Del (Delete) ไปไว้ด้านบนเพื่อให้กดง่ายขึ้น และปุ่ม Caps Lock จากเดิมกดแล้วไม่มีไฟบอกสถานะ รุ่นนี้มีไฟเพื่อผู้ใช้งานทราบว่ากำลังกดใช้งานอยู่ครับ

แม้ตัวนี้จะไม่ได้ออกแบบสำหรับการ Mod โดยเฉพาะ แต่สิ่งที่ให้มาก็ดีพอสมควรเลยครับ ใช้งานได้ทันที สวิตซ์พิมพ์สนุก คีย์แคปสีสวย วัสดุคุณภาพ เชื่อมต่อได้หลากหลาย พลาดไม่ได้เลยครับ