รับประกันโดยศูนย์ไทย (Systems 2000) ระยะเวลา 1 ปี
เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
แชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกสินค้าที่ใช่สำหรับคุณ
รีวิว Plantronics Voyager Edge หูฟังบลูทูธดีไซน์สวยงามอย่างมีรสนิยม
หากคุณกำลังมองหาหูฟังบลูทูธเพื่อใช้สนทนาโทรศัพท์ แน่นอนว่า Plantronics จะต้องเป็นชื่อที่คุณได้ยินบ่อยอย่างแน่นอน เพราะด้วยความเชี่ยวชาญที่ทำเทคโนโลยีหูฟังบลูทูธเพื่อการสนทนามาอย่างยาวนาน ฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างครบครัน และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ Plantronics เป็นแบรนด์อันดับต้นๆที่คนใช้หูฟังบลูทูธให้ความไว้วางใจตลอดมา
ในช่วงประมาณหลายปีที่แล้วหลายคนอาจจะเคยเห็นหูฟังบลูทูธรุ่น Discovery 975 ที่ถูกกล่าวถึงอยากมากในด้านการใช้งานที่สามารถใช้สนทนาได้ชัดเจนและตัดเสียงรบกวนได้ดี ที่สำคัญคือรูปลักษณ์ภายนอกที่โด่ดเด่น ออกมาแบบมาได้อย่างหรูหราและมีระดับ ส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้ใช้เป็นอย่างมาก และยังได้รับรางวัลมากอีกมากมายเป็นเครื่องการันตีคุณภาพ มาถึงวันนี้ Plantronics ได้พัฒนาต่อยอดจากหูฟังรุ่นดังกล่าวโดยการปรับโฉมใหม่ให้ดูโมเดิร์นมากขึ้น ตัดเสียงรบกวนระหว่างการสนทนาได้ดีขึ้น เพิ่มการเชื่อมต่อแบบ NFC และสามารถเปลี่ยนภาษาได้ พร้อมทั้งเปลี่ยนชื่อรุ่นเป็น Voyager Edge ให้เข้ากับหน้าตาที่ดูทันสมัยมากขึ้น
ลักษณะภายนอก Plantronics Voyager Edge เป็นหูฟังบลูทูธข้างเดียว ดีไซน์โดดเด่นสวยงามและน้ำหนักเบา สามารถสวมใส่ได้กระชับ ไม่ต้องกังวลว่าจะหลุดออกจากหูเพราะที่ตัวหูฟังจะมีห่วงดันใบหูด้านในที่ทำมาจากยางทำให้สามารถยึดติดกับใบหูได้แม้เวลาที่นั่งมอเตอร์ไซด์เร็วๆก็ตาม ตัวหูฟังทำมาจากพลาสติกขัดเรียบอย่างดีและเคลือบสารป้องกันความชื้นและการกัดกร่อนจากสารเคมี ทำให้สีของลำโพงบลูทูธรุ่นนี้ติดแน่นคงนาน ที่ตัวหูฟังมีปุ่มเปิด/ปิดบลูทูธ, ปุ่มรับสาย/วางสาย และปุ่มฟังก์ชันที่กดเพื่อ Mute ระหว่างการสนทนาหรือเปิดฟังก์ชันการใช้งานด้วยเสียง
อุปกรณ์ในกล่อง Plantronics Voyager Edge
- • 1 X หูฟังบลูทูธ Platronics Voyager Edge
- • 1 X จุกหูฟัง 3 ขนาด S, M, L
- • 1 X ก้านคล้องหลังหู
- • 1 X สายชาร์จและอัพเกรดเฟิร์มแวร์ USB
- • 1 X Car Charger สำหรับชาร์จไฟในรถยนต์
- • 1 X สายคล้องคอสำหรับพกพาหูฟัง
การเชื่อมต่อ
- Bluetooth – เชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 4.0 กับโทรศัพท์ หรืออุปกรณ์ทีต้องการใช้ร่วมด้วยในระยะถึง 30 เมตร
- NFC – หรือ Near Field Communication เพียงแค่วาง Voyager Edge ไว้ใกล้โทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่รองรับก็สามารถเชื่อมต่อได้อย่างสะดวก
ฟังก์ชันพิเศษ
- ไมค์ 3 ตัว ตัดเสียงรบกวน – Plantronics ให้ไมโครโฟนสำหรับตัดเสียงรบกวนมากมากถึง 3 ตัว (รุ่น Discovery 975 จะมีเพียง 2 ตัว) ทำหน้าที่รับเสียงและตัดเสียงรบกวนภายนอก ทำให้ได้เสียงที่พูดชัดเจน ซึ่งไมค์แต่ละตัวจะทำหน้าที่รับเสียงพูดและเสียงบรรยากาศภายนอกทำงานร่วมกันและตัดเสียงที่ไม่จำเป็นออกให้ทันที
- รับสาย/ตัดสาย ด้วยระบบคำสั่งเสียง – ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก เนื่องจากคนที่ใช้หูฟังบลูทูธส่วนใหญ่ต้องการฟังก์ชันที่เป็น Hand-free หรือไม่ต้องใช้มือ เช่นระหว่างการขับรถ หรือนั่งมอเตอร์ไซด์ซึ่งเมื่อมีคนโทรเข้ามา Voyager Edge จะสามารถเลือกรับสายหรือวางสายได้เพียงออกคำสั่ง Answer เพื่อรับสายหรือ Ignore เพื่อวางสาย ถึงแม้เวลาพูดจะเป็นสำเนียงคนไทย ไม่ชัดเหมือนฝรั่งตัวหูฟังก็สามารถเข้าใจได้ เรียกได้ว่าทาง Plantronics ได้มีการทำการบ้านในส่วนนี้มาอย่างดี
- แบตเตอรี่ใช้ได้ยาวนาน – ตัวหูฟังใช้พูดคุยต่อเนื่องได้ถึง 6 ชั่วโมง และ standby รอรับสายได้ถึง 7 วัน นอกจากนี้ยังมีแทนชาร์จขายแยก ซึ่งสามารถเพิ่มระยะเวลาการใช้งานได้อีก 16 ชั่วโมง
- Bluetooth 4.0 พร้อมกับ NFC – อีกจุดเด่นนึงที่หูฟังตัวนี้มีเหนือ Discovery 975 คือเทคโนโลยี NFC ที่เพียงนำไปแตะก็สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
เสียง
ในส่วนของเสียงจะขอแบ่งเป็น 3 ประเภทคือใช้ฟังเพลง และพูดคุยทั่วไป
- • คุณภาพเสียงเมื่อใช้ฟังเพลง : เมื่อใช้ฟังเพลงเสียงที่เด่นคือเสียงย่านกลาง เสียงร้องและรายละเอียดได้ยินอย่างชัดถ้อยชัดคำ รายละเอียดของชิ้นดนตรีมีครบ ส่วนเสียงสูงและเสียงเบสจะออกแนวติดบางไปนิด แต่ยังมีเสียงย่านดังกล่าวให้ได้ยิน โดยรวมถือว่าสามารถฟังเพลงแก้ขัดระหว่างเดินทางได้ แต่ถ้าจะใช้ฟังเพลงจริงจังยังไม่แนะนำ
- • เสียงพูดที่เราได้ยินผ่านหูฟัง : Voyager Edge นั้นมีจุดเด่นที่การเน้นเสียงพูดให้ชัดเจน ได้รับคำพูดของคู่สนทนาได้อย่างชัดเจนไม่คลุมเคลือ เนื่องจาก Plantronics Voyager Edge มีการปรับแต่งให้เสียงพูดเด่นลอยออกมาออกมาข้างหน้าจากเสียงย่านอื่นอยู่แล้ว ทำให้สามารถสื่อสารกับคู่สนทนาได้อย่างชัดเจนไม่ติดขัด
- • เสียงที่คู่สนทนาได้ยินผ่านไมโครโฟนเรา : ถือเป็นจุดเด่นของหูฟัง Plantronics เลย ด้วยความที่มีไมโครโฟนถึง 3 ตัว ทำงานสอดประสานกันเพื่อตัดเสียงรบกวนและให้คู่สนทนาได้ยินเสียงชัดมากที่สุด จากการทดสอบถ้าใช้หูฟังในห้องที่มีเสียงรบกวนน้อยเช่นในออฟิศทำงานเสียงที่คู่สนทนาได้ยินจะเงียบสงัดเหมือนอยู่ในห้องเงียบๆคนเดียว ถึงแม้จะอยู่ริมถนนที่มีเสียงรถบีบแตร หรือนั่งมอเตอร์ไซด์ขับเร็วที่มีเสียงลมตีไมค์รุนแรง เสียงที่คู่สนทนาได้ยินจะเป็นเพียงเสียงพื้นหลังเท่านั้นยังคงสนทนาต่อเนื่องได้อย่างไม่มีปัญหา
สรุป Platronics Voyager Edge เหมาะกับใคร?
Platronics Voyager Edge ราคาถึงแม้จะอยู่ในระดับเกือบ 4,000 บาท ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับหูฟังบลูทูธทั่วไป แต่บอกได้เลยในแง่ของฟังก์ชันการใช้งาน และความสามารถในการตัดเสียงรบกวน Voyager Edge ทำได้สะดวกและดีกว่าหูฟังบลูทูธทั่วไปมาก โดยเฉพาะระบบการสั่งการด้วยเสียงที่ทำให้เราสามารถรับ/วางสาย เช็คสถานะการเชื่อมต่อ หรือแม้กระทั่งโทรกลับเบอร์ที่ติดต่อมาล่าสุด ก็สามารถทำได้สะดวกมาก นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะมีเสียงภายนอกที่ดังขนานไหน ก็มั่นใจได้ว่าหากสนทนาผ่าน Voyager Edge ตัวนี้อยู่ไม่ต้องกังวลว่าคู่สนทนาของคุณจะคุยไม่รู้เรื่องอีกต่อไป