ใกล้ถึงเวลาเปิดตัวกันแล้วสำหรับกล้อง Action Camera รุ่นใหม่จาก GoPro ซึ่งในคราวนี้นั้นมาถึง 2 รุ่น 2 ขนาดตามรูปแบบการใช้งานที่แตกต่างกันเลยทีเดียว โดยสำหรับ GoPro Max กล้อง Action Camera ขนาดใหญ่ผู้อ่านสามารถอ่านมินิรีวิวของ Mercular.com ได้ตามลิงค์นี้เลยครับ แต่สำหรับบทความนี้จะเป็นการมินิรีวิวฟังก์ชั่นการใช้งานที่เด่นๆ ของ GoPro HERO 8 Black มาก่อน ซึ่งต้องบอกเลยว่าฟังก์ชั่นต่างๆ ให้มาเยอะมากๆ เริ่มที่ข่าวดีสำหรับผู้ใช้งาน GoPro ระดับมืออาชีพน่าจะดีใจกันมากขึ้นเพราะว่า GoPro HERO 8 Black จะมีอุปกรณ์เสริมหรือ Mod อย่างเป็นทางการวสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันครับ โดยเริ่มต้นทางแบรนด์วางแผนไว้ 3 รูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Mod ประเภท Media Mod ที่เน้นการใช้งานถ่ายวิดิโอเป็นหลัก ด้วย Mod ไมโครโฟนแบบ Shotgun รวมถึงพอร์ต HDMI ที่เพิ่มเข้ามาแล้ว Mount แบบ Shoe Mount สำหรับติดตั้งเพิ่ม หรือจะเป็น Display Mod ที่จะเป็นการเพิ่มหน้าจอเสริมแบบพับได้เข้ามา ใครที่ชื่นชอบการทำวิดิโอแบบ Vlog น่าจะถูกใจมากขึ้น ปิดท้ายด้วย Light Mod ที่เป็นการติดตั้งแสงไฟแบบ LED ความสว่างสูงสำหรับการใช้งานพื้นที่แสงน้อย โดยคาดว่า Mod ทั้ง 3 รูปแบบนี้จะวางจำหน่ายภายหลัง GoPro HERO 8 Black ในช่วงเดือนธันวาคมนี้ 

HyperSmooth ภาพลื่นไหลกว่าเดิมแถมถ่ายสโลว์โมชั่นได้ด้วย

ต่อไปคือส่วนของเลนส์ดิจิตัลที่ผู้ใช้งานจะสามารถปรับมุมกล้องได้มากกว่าเดิม ทำให้ภาพหรือวิดิโอที่ได้ออกมามีมุมที่แตกต่างกันไปตามตัวเลือก อาทิเช่น SuperView 16mm, Wide 16-34mm, Linear 19-39mm, Narrow 27mm เป็นต้น ทำให้ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมรูปแบบใดก็สามารถหามุมกล้องที่เหมาะสมได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเสริมต่อจาก GoPro 7 ในหลายๆ ฟังก์ชั่น ยกตัวอย่างเช่นฟังก์ชั่น HyperSmooth ที่จะช่วยในการ Stabilize ให้วิดิโอนิ่งกว่าเดิมแม้ว่าจะใช้งานกิจกรรมที่ผาดโผนแค่ไหน เพราะใน GoPro HERO 8 Black ได้เปลี่ยนมาใช้ HyperSmooth 2.0 รุ่นใหม่ล่าสุด เรียกจะเอาไปเล่นสเก็ตบอร์ดหิมะ, แข่งมอเตอร์ไซค์แบบ MotoGP หรือออกวิ่งด้วยควมเร็วสูงจะทำให้การ Stabilize ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ กว่าเดิม นอกจากนี้ HyperSmooth 2.0 ยังใช้งานร่วมกับโหมด Slo-Mo ที่สามารถถ่ายแบบสโลว์โมชั่นมากถึง 8 เท่าอีกด้วย 

ไลฟ์ Facebook ได้มีฟังก์ชั่น SuperPhoto สำหรับถ่ายภาพแบบ Extreme

สำหรับฟังก์ชั่นที่พัฒนาเสริมมายังมีอีก ไม่ว่าจะเป็น TimeWarp 2.0 ที่ตอนนี้สามารถเลือกสปีดความเร็วของวิดิโอได้อัตโนมัติหรือจะเปลี่ยนมาปรับสปีดด้วยตัวเองให้ช้าหรือเร็วขึ้นตามต้องการได้สะดวกขึ้น สำหรับโมเมนต์การถ่ายภาพแบบ Extreme GoPro HERO 8 Black เองก็มี SuperPhoto + Improved HDR  ที่จะช่วยเพิ่มคอนทราสต์ภาพและเพิ่มความคมชัดให้มากขึ้น ทำให้ภาพทีได้ออกมามีชีวิตชีวามากขึ้นอีกด้วยในตัว นอกจากนี้แล้ว GoPro HERO 8 Black ยังมีฟังก์ชั่นหรือคุณสมบัติเด็ดๆ อีกหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟน 3 ตัวสำหรับการลดเสียงรบกวนเมื่อถ่ายวิดิโอ ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในกิจกรรมที่มีความเร็วสูงก็มั่นใจได้ว่าเสียงที่ได้จะไม่เต็มไปด้วยเสียงรบกวนอย่างแน่นอน หรือคุณสมบัติในการกันน้ำได้มากถึง 10 เมตรโดยไม่จำเป็นต้องใส่อุปกรณ์เสริมเพิ่ม และอื่นๆ อย่าง GoPro App สำหรับตัดต่อวิดิโอที่ได้มา, คุณสมับติในการ Live บน YouTube และ Facebook ได้ สำหรับการวางจำหน่าย GoPro HERO 8 Black ในไทยนั้น คาดว่าจะเป็นช่วงปลายเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ โดยทาง Mercular.com จะอัพเดทข่าวสารให้อีกครั้งอย่างแน่นอนเมื่อกล้อง Action Camera ตัวนี้วางจำหน่ายครับ