เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้
12 ม.ค. 2565
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/articles/2022/01/1200X628-%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B8%B6%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%90%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%88%20how-to-choose-right-charger.jpg)
ทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามเรื่องรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเลือกซื้ออุปกรณ์เสริม หัวชาร์จ โดยที่ไม่รู้เลยว่า หากเราเลือกใช้งานหัวชาร์จ ที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้มาตรฐาน และจ่ายไฟไม่ตรงตามอุปกรณ์ที่ใช้งานจะส่งผลเสียต่าง ๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแบตเสื่อม รวมไปถึงตัวเครื่องอาจเกิดความเสียหายที่ไม่อาจจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ วันนี้เราเลยอยากจะมา เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้ เพื่อให้ได้เลือกซื้อใช้งาน หัวชาร์จ ได้อย่างถูกต้อง ให้ตรงตามสเปคสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานกันอยู่ เพื่อที่ว่าจะได้ใชาร์จใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่เกิดปัญหาขึ้น
หากซื้อหัวชาร์จที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจส่งผลทำให้เกิดอันตราย!
ปกติแล้ว เวลาที่เราซื้อสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เครื่องใหม่ ภายในกล่องจะมาพร้อมอแดปเตอร์ (Adaptor) หรือที่เราเรียกกันว่าหัวชาร์จที่จะมาควบคู่กับสายชาร์จ แต่ในส่วนของ iPhone จาก Apple นั้นจะไม่ได้มีหัวชาร์จมาให้ต้องซื้อเพิ่ม ซึ่งบนหัวชาร์จจะมีการระบุตัวเลขแสดง กำลังไฟ รวมไปถึงแรงดันไฟ ที่จะเป็นอักษร Amps และ Voltage และ Input, Output ซึ่งหากไม่สังเกต ก็แทบจะมองไม่เห็น หรือบางคนอาจไม่ได้ใส่ใจด้วยซํ้า แต่เมื่อที่เราจะต้องหาซื้อหัวชาร์จใหม่ สิ่งเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญ เพราะการที่เราจะซื้อหัวชาร์จใหม่สักชิ้น เราจะต้องใช้งานติดตัวอยู่ตลอด ชาร์จใช้งานทั้งที่บ้าน และที่ทำงาน เรื่องของความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ หากเราซื้อหัวชาร์จที่จ่ายไฟเกินสเปคสมาร์ทโฟนของเรา หรือซื้อหัวชาร์จที่ไม่ได้มีมาตรฐานใด ๆ รองรับ อาจส่งผลทำให้เกิดอันตรายอย่างมากเลยครับ
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-1.jpg)
วิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จมาตรฐานดีที่ถูกต้อง
หลายอาจคิดว่า หัวชาร์จที่ขายทั่วไปตามท้องตลอด สามารถนำมาชาร์จใช้งานได้โดยไม่เกิดปัญหา แต่ความจริงแล้วหากว่าเราใช้งานหัวชาร์จที่ไม่มีมาตรฐานจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่รวมไปถึงตัวอุปกรณ์สมาร์ทโฟนเองด้วย โดยเฉพาะผู้ใช้งาน iPhone อาจต้องหันกลับมาคิดใหม่ เพราะหัวชาร์จของ Apple มีความอัจฉริยะมาก หากเราใช้หัวชาร์จที่ไม่ไ่ด้มาตรฐาน เครื่อง iPhone จะไม่ยอมรับให้เราชาร์จไฟเข้า accessories not supported จนทำให้ตัวเครื่องไอโฟนอาจเกิดปัญหาขึ้นได้ในอนาคต นอกจากนี้สายชาร์จก็เป็นสิ่งที่สำคัญเราควรเลือกสายชาร์จที่ได้มาตรฐานอย่าง iPhone เองนั้น ก็จะมีมาตรฐาน MFI นอกจากสินค้าแบรนด์ Apple แล้วก็ยังมีแบรนด์ผู้ผลิตอีกมายที่ได้รับ Logo MFI เช่นกัน เพื่อทำให้เรามั่นใจได้ว่า หัวชาร์จ และสายชาร์จที่เราใช้งานอยู่นั้นมีมาตรฐานดี สามารถใช้งานร่วมกันได้ หลายแบรนด์ผู้ผลิตอย่าง Belkin, Nomad และ Anker ก็ถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีมาตรฐานดี ทำให้เราใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาครับ โดยวิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จดี ที่จะทำให้เราเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น มีดังนี้
- ปริมาณไฟขาเข้า อะแดปเตอร์ส่วนมากจะมาพร้อมกับปริมาณไฟขาเข้าที่แตกต่างกัน ถึงแม้ว่าหัวชาร์จที่ออกมาใหม่ ๆ จะมีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาด้วย ส่วนมากจะมาพร้อม Smart Charger ที่เป็นชิปอัจฉริยะที่จะช่วยจ่ายไฟได้ตรงตามอุปกรณ์ที่เรานำมาชาร์จ ซึ่งหากว่าเรานำหัวชาร์จที่ซื้อจากต่างประเทศส่วนใหญ่แล้วจะมีปริมาณไฟขาเข้าที่ไม่รองรับการใช้งานในไทย ดังนั้นไม่แนะนำให้เลือกใช้งานไม่อย่างนั้นอาจจะสร้างความเสียหายให้ทั้งหัวชาร์จ และสายชาร์จครับ
- ปริมาณไฟขาออก ต่อมาให้ดูที่ปริมาณไฟขาออก ว่าหัวชาร์จนี้ สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าเท่าไหร่ เพียงพอ และเหมาะสมกับตัวเครื่องที่เราใช้งานอยู่หรือไม่ กระแสไฟฟ้าขาออกดูง่าย ๆ คือ W และ A ของตัวอะแดปเตอร์ โดยหัวชาร์จสามร์ทโฟนทั่วไป จะเริ่มต้นที่ 5W ไปจนถึง 20W สำหรับหัวชาร์จเร็ว (Fast Charger) หรือปัจจุบันนี้มีมากกว่านั้น และสิ่งที่เราต้องเลือกใช้งานให้ สัมพันธ์กัน นั้นก็คือ สายชาร์จของเรา ถ้าเราใช้สาย 2.1 A หัวชาร์จก็ควรเป็น 2.1 A เพื่อที่ว่า จะได้ชาร์จใช้งานได้อย่างมีประสิทธภาพ
- สัญลักษณ์ Certified สุดท้ายคือ สัญลักษณ์ Certified ไม่ว่าจะเป็น MFI, UL, IEC, FCC, CE และ RoHS เป็นต้น เพื่อเป็นหลักฐานว่า อุปกรณ์เสริมของเราได้ผ่านการทดสอบต่าง ๆ ได้รับมาตรฐานดี เพื่อทำให้ผู้บริโภคอย่างเราแน่ใจได้ว่า ใช้งานแล้วจะปลอดภัย และไม่เกิดปัญหาขึ้นครับ
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-10.jpg)
สัญลักษณ์ Certified มีอะไรบ้าง?
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-2.jpg)
1.CE
European Conformity เดิมทีใช้เครื่องหมาย EC แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นเครื่องหมาย CE เมื่อปี 2536 เครื่องหมาย CE มักจะปรากฏอยู่บนสินค้า เครื่องหมายที่แสดงการรับรองจากผู้ผลิต Manufacturer’s Declaration ว่าสินค้านั้นมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านสุขภาพ ด้านความปลอดภัย และการคุ้มครองจากสิ่งแวดล้อม ตามกฎหมาย และกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของสหภาพยุโรป สัญลักษณ์ CE มีความจำเป็นอย่างมาก เพราะหากว่าเราต้องการที่จะส่งสินค้าออกจำหน่ายในกลุ่มประเทศ EU และ EFTA เราต้องมีสัญลักษณ์นี้เท่านั้น ซึ่งจะมีผลิตภัณฑ์อยู่ 20 กลุ่ม ทำให้สมาชิกแต่ละประเทศจะกำหนด การออกกฎหมายภายในประเทศให้สอดคล้องกับกฎระเบียบของสหภาพยุโรป หรือ EC Directives ที่ เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องหมาย CE
2.FCC
FCC Certificate หรือ FCC ย่อมาจาก Federal Communications Commission เดิมเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการเกี่ยวกับการสื่อสาร และโทรคมนาคมของสหรัฐ ฯ หรือคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร องค์กรนี้เป็นตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ วางระเบียบให้แก่อุปกรณ์ประเภทวิทยุ โทรทัศน์ ผู้ให้บริการการสื่อสารระหว่างรัฐ และงานให้บริการระหว่างประเทศที่อยู่ในสหรัฐฯ แต่ปัจจุบันมีหน้าที่รับผิดชอบให้การรับรองผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ และผลิตภัณฑ์ในการสื่อสารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น โทรทัศน์ สมาร์ทโฟน กล้องดิจิทัล อุปกรณ์ไร้สายบูทธู และวิทยุ เป็นต้น มาตรฐานของ FCC ไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณภาพของสินค้า แต่ใช้เพื่อยืนยันว่าสินค้านั้นผ่านข้อจำกัดด้านความปลอดภัยจากการใช้อุปกรณ์สื่อสารทุกประเภท หากมีการทดสอบแล้วว่าอุปกรณ์เหล่านี้มีความปลอดภัยทผ่านเกณฑ์ได้มาตรฐาน และไม่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ก็จะได้รับมาตรฐาน FCC Certification
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-3.jpg)
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-4.jpg)
3.UL
UL ย่อมาจาก Underwriter Laboratories องค์กรไม่แสวงผลกำไร ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1894 ได้รับความเชื่อถือให้เป็นผู้กำหนดมาตรฐานในการผลิตสินค้าของอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือทางการแพทย์ เครื่องจักรในอุตสาหกรรม และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์อย่างสายไฟฟ้า เป็นต้น ULมุ่งเน้นเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยเป็นหลัก ทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานปลอดภัยมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรับรองสายชาร์จไฟนี้ มีขนาดที่ถูกต้องพอเหมาะหรือไม่ รองรับกระแสไฟได้ตรงตามตามมาตรฐานหรือเปล่า เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด สินค้าที่ได้รับมาตรฐานนี้ พร้อมเลขทะเบียน UL ระบุอยู่บนตัวสินค้า เป็นเครื่องยืนยันว่า สินค้ามีความปลอดภัย และได้รับการยอมรับในระดับสากลได้รับความเชื่อมั่น ทั้งจากผู้บริโภค และผู้ผลิตเข้าใจง่าย ๆ คือ สัญลักษณ์แห่งความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ในระดับโลก
4.RoHS
RoHS Certification หรือ RoHS ย่อมาจาก Restriction of Certain Hazardous Substances มาตรฐานของสหภาพยุโรปเเกี่ยวเนื่องเฉพาะด้านการใช้สารอันตรายในผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด มาตรฐานของ RoHS ใช้กำหนดค่าสูงสุดของสารต่าง ๆ โดยสารที่จำกัดปริมาณในปัจจุบัน กำหนดไว้ 6 ชนิด ที่มีต่อเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำเป็นต้องใช้สารเหล่านี้ จึงต้องได้รับมาตรฐาน RoHS เพื่อที่จะได้รู้ว่า มีการใช้ในปริมาณที่เหมาะสมหรือไม่ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค รวมถึงสิ่งแวดล้อม RoHS มีผลบังคับใช้โดยตรงในบางประเทศ รวมถึงในสหภาพยุโรปทั้งหมด สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทุกชนิดที่ไม่ผ่านใบรับรองมาตรฐาน RoHS ก็ไม่สามารถนำมาจำหน่ายได้ ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานที่มีความสำคัญอย่างมากเลยทีเดียว
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-5.jpg)
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-7.jpg)
สรุปสั้น ๆ ก็คือ ก่อนการเลือกซื้อหัวชาร์จทุกครั้ง เราควรเลือกซื้อสินค้าที่ผ่านมาตรฐานสินค้า Ce Fcc และ RoHs เท่านั้น เพื่อที่จะทำให้เราแน่ใจได้ว่าหัวชาร์จมาตรฐานดี ทำให้เราใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เกิดปัญหา พร้อมทั้งยังช่วยให้เราอุ่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยอย่างแน่นอนครับ
![เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/01/how-to-choose-right-charger-8.jpg)
ก็จบลงไปแล้วกับบทความ " เจาะลึกมาตรฐานความปลอดภัยบนหัวชาร์จที่ทุกคนควรรู้ " ที่เรานำมาแนะนำในวันนี้ นอกจากนี้ยังมีวิธีการเลือกซื้อหัวชาร์จมาตรฐานดี ที่ถูกต้อง เพื่อที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนเข้าใจมากขึ้น ว่าหัวชาร์จ ที่เราใช้งานอยู่นั้นมีมาตรฐานความปลอดภัยอยู่จริงไหม และหัวชาร์จที่เราใช้งานอยู่นั้น มีกำลังไฟเพียงพอต่อความต้องการของสมาร์ทโฟนที่เราใช้งานอยู่หรือไม่ หากเราเข้าใจมากขึ้นถึงมาตรฐานนี้แล้ว รับรองเลยว่าเราจะสามารถเลือกใช้งานหัวชาร์จได้ถูกต้อง ส่งผลให้ชาร์จใช้งานได้อย่างดีไม่เกิดอันตรายอย่างแน่นอน ไม่ต้องคอยมาเปลี่ยนหัวชาร์จอยู่บ่อย ๆ และไม่ทำให้เสียเงินไปฟรี ๆ และ วันนี้ Mercular อยากจะมาแนะนำแบรนด์ผู้ผลิตหัวชาร์จมาตรฐานดี มีมาตรฐานความปลอดภัยอย่างแบรนด์ Apple, Belkin, Unitek, Remax, Energea, Nomad, Anker และ Aukey เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เลยว่า แบรนด์เหล่านี้จะสามารถชาร์จใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา และไม่เกิดอันตรายขึ้นอย่างแน่นอนครับ