Keychron V5 คีย์บอร์ดขนาดกลาง มีนัมแพดและKnob รองรับQMK/VIA

Keychron มักเป็นหนึ่งในตัวเลือกแรกๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาแมคคานิคอลคีย์บอร์ดพร้อมใช้งาน หรือคัสตอมคีย์บอร์ดคุณภาพดีสักตัว ตอนนี้ทาง Keychron ออกสินค้ามาเป็นจำนวนมาก แบ่งไลน์การใช้งานอย่างชัดเจน อย่างคีย์บอร์ดซีรีส์ K ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทันที คีย์บอร์ดซีรีส์ Q จัดเต็มทุกองค์ประกอบ คัสตอมได้สะใจ และซีรีส์น้องใหม่อย่าง V ที่มีคล้ายคลึงกับซีรีส์ Q ทั้งการคัสตอมได้อย่างเต็มที่ รองรับโปรแกรมปรับแต่งปุ่มคำสั่ง แต่เปลี่ยนวัสดุบางส่วนเพื่อราคาที่เข้าถึงง่าย โดยเป็นซีรีส์ที่ถูกใจใครหลายๆ คนเลย

วันนี้ เราจะมาพูดถึง Keychron V5 หนึ่งในคีย์บอร์ดซีรีส์ใหม่ที่มาพร้อมขนาด 96% Layout ที่น้อยแบรนด์จะเลือกทำ แต่ถูกใจใครหลายๆ คนอย่างแน่นอน มีตัวเลือก Knob และไม่ Knob โครงสร้างภายในคุณภาพ ราคาเป็นมิตร ใครที่มองหาคัสตอมคีย์บอร์ดดีๆ สักตัวอยู่ไม่ควรพลาด

Keychron V5 ตอนนี้เปิดวางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยบนหน้าเว็บไซต์ของทางแบรนด์ โดยมีตัวเลือกทั้งแบบครบชุดหรือ Fully Assembled มีทั้งโครงคีย์บอร์ด คีย์แคป สวิตซ์มาให้พร้อมใช้งาน และอีกแบบคือ Barebone มีโครงคีย์บอร์ดมาให้ ที่เหลือผู้ใช้งานสามารถเลือกซื้อได้เองตามต้องการทั้งสวิตซ์และคีย์แคป โดยทั้งสองแบบนั่นก็มีตัวเลือก Knob และไม่มี Knob มาให้ด้วย แล้ว Keychron V5 ตัวนี้มีจะอะไรน่าสนใจบ้าง ตามมาดูกันครับ

ดีไซน์และขนาดที่ถูกใจคนสายทำงาน

Keychron V5 เป็นคีย์บอร์ดขนาด 96% ที่มี Layout น่าสนใจทีเดียวครับ โดยปกติแล้วหลายเจ้าที่อยากทำคีย์บอร์ดให้ขนาดเล็กลง มักจะตัดส่วนนัมแพดออกไปอย่างขนาด TKL แต่ยังคงเหลือปุ่มคำสั่งไว้อยู่ หรือจะเป็นขนาด 96% เดียวกันตัวอื่นที่เลือกที่จะย้ายปุ่มคำสั่งไปทางมุมขวา และตัดช่องว่างให้ปุ่มทั้งหมดชิดติดกันเหมือน Keychron K4 รุ่นยอดนิยม แต่ Keychron V5 นั้นแม้จะเป็นขนาด 96% เหมือนกัน แต่มีความต่างอยู่บ้างตรงที่คีย์ตัวอักษร และชุดปุ่มนัมแพดหรือตัวเลขไม่ได้ชิดกันจนเบียด แต่มีช่องว่างไว้เล็กน้อยเพื่อให้สามารถพิมพ์ได้ถนัดมากขึ้น ลดการกดพลาดได้เป็นอย่างดี ส่วนปุ่มคำสั่งจะถูกตัดบางส่วนและย้ายมันไปได้บนขวา ถือเป็น Layout ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเข้าถึงปุ่มตัวเลขได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่ต้องการให้มันเบียดจนพิมพ์ไม่ถนัด 

Keychron V5 จึงค่อนข้างเหมาะกับคนสายทำงานที่ไม่ต้องการใช้งานปุ่มคำสั่งมากนัก อยากได้ปุ่มตัวเลขที่อยู่เป็นที่ของมัน และยังเล็กกว่าขนาด Full-Size ด้วยครับ สำหรับสายเกมเมอร์ตัวนี้ก็ถือว่าเหมาะมากทีเดียว เพราะปุ่มยังคงอยู่ครบ บางเกมเองก็ต้องปุ่มตัวเลขไว้สำหรับออกคำสั่งบางอย่าง นัมแพดเองก็ยังมีอยู่ แถมไม่ได้ชิดติดกันมาก และมีขนาดเล็กกว่า Full-Size อย่างที่กล่าวมา เพิ่มพื้นที่การใช้เมาส์ได้หน่อยเลยครับ

อีกส่วนที่น่าสนใจคือ Knob มันสามารถหมุนเพื่อปรับระดับเสียงได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องลากเมาส์ไปปรับหรือใช้คีย์ลัดแต่อย่างใด และเมื่อมันสามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมปรับแต่งเสริมอย่าง QMK / VIA คำสั่งจึงไม่ได้หยุดอยู่เพียงการปรับระดับเสียง เราสามารถนำไปใช้งานอื่นๆ ได้ เช่น การซูมเข้า ซูมออกในบางโปรแกรมครับ ยืดหยุ่นต่อการใช้งานสุดๆ

วัสดุและโครงสร้างภายใน

ยังคงให้ความจัดเต็มแบบฉบับ Keychron ซีรีส์ V เหมือนกับรุ่นอื่นๆ เลยครับ วัสดุกรอบด้านนอกเลือกใช้พลาสติก ABS ที่ให้ความแข็งแรง ทนทานในระดับหนึ่ง สามารถปรับขาตั้งที่อยู่ด้านใต้คีย์บอร์ดเพื่อเพิ่มความชันและความเข้ามือระหว่างพิมพ์ ด้านหลังมีสวิตซ์ปรับระหว่างอุปกรณ์ macOS และ Windows ทำให้มั่นใจได้ว่าคีย์บอร์ดตัวนี้ใช้งานได้เต็มระบบทั้งสองระบบปฏิบัติการ

ภายในเสริมชั้นโฟม และ Silicone Pad เพื่อซับเสียงที่ไม่พึงประสงค์ และหากต้องเสริมเติมแต่งให้ได้เสียงที่ต้องการ คีย์บอร์ดตัวนี้ก็รองรับการคัสตอมเต็มรูปแบบ

แผงวงจรที่ให้มาเป็นแบบ Hot-Swap นั่นทำให้ผู้ใช้งานสามารถถอดและใส่สวิตซ์ได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องบัดกรี จะถอดเปลี่ยนสวิตซ์ หรือถอดออกมาลูปก็ทำได้อย่างง่ายดาย

ทางด้านการเล่นเกมก็หายห่วงเรื่องการส่งสัญญาณ เพิ่มความมั่นใจมากขึ้นแม้จะเป็นการเชื่อมต่อแบบสาย ด้วย สถาปัตยกรรม ARM ทำให้ได้ Polling Rate ที่ 1000 Hz หายห่วงทุกการส่งคำสั่ง รวดเร็วไร้กังวล

สวิตซ์และคีย์แคป

หากต้องการชุดแบบจัดเต็ม เปิดกล่องปุ๊บใช้งานได้ปั๊บ ทางแบรนด์ก็มีตัวเลือกสวิตซ์อย่าง Keychron K Pro ที่มีให้เลือกถึง 3 รูปแบบด้วยกัน ทั้ง Tactile, Linear และ Clicky ส่วนคีย์แคปก็เลือกใช้วัสดุ PBT ที่มีความแข็งแรง ทนทาน เกิดเงาได้ยาก โปรไฟล์ OSA ที่เป็นเอกลักษณ์ ใช้สีที่ตัดกันอย่างสวยงาม

โปรแกรมปรับแต่ง

Keychron V5 รองรับการใช้งานร่วมกับโปรแกรมปรับแต่งที่หลายคนคุ้ยเคยอย่าง QMK / VIA ที่สามารถปรับตั้งค่าคำสั่งรายปุ่ม การสร้างชุดคำสั่งมาโคร และเมื่อมีไฟ RGB จึงสามารถปรับรูปแบบการแสดงไฟได้ผ่านทางช่องทางนี้อีกด้วย แน่นอนว่าหากเลือกชุดที่มี Knob ก็สามารถปรับคำสั่งได้หลากหลายมากกว่าการปรับระดับเสียงผ่านโปรแกรมนี้ได้เช่นกัน สามารถสร้าง Layer ได้เยอะเพื่อครอบคลุมทุกการใช้งาน

ใครที่สนใจ Keychron V5 ก็สามารถจับจองได้ผ่านทางหน้าเว็บไซต์ของทางแบรนด์ ส่วนทางไทยอาจต้องรอการนำเข้ามาอีกสักระยะ ทางด้านราคาก็เปิดตัวมาได้น่าพอใจ ตัว Fully Assembled Knob มีราคาอยู่ที่ $99 หรือประมาณ 3,500 บาท ส่วน Barebone Knob เปิดราคาที่ $79 หรือที่ประมาณ 2,800 บาท ใครที่อยากได้คีย์บอร์ดสำหรับทำงาน หรือคีย์บอร์ดเล่นเกมที่มีนัมแพดพร้อมใช้งาน แถมยังมีขนาดเล็กกว่า Full-Size คีย์บอร์ด Keychron V5 ตัวนี้ตอบโจทย์แน่นอนครับ

หากใครกำลังมองหาอุปกรณ์เสริมสำหรับการ Mod คัสตอมคีย์บอร์ด หรืออยากได้แมคคานิคอลคีย์บอร์ดพร้อมใช้งาน ที่ Mercular เรามีสินค้าให้เลือกมากมาย คัดสรรจากแบรนด์ดัง สินค้าคุณภาพ การรับประกันหลังการขายหายห่วงครับ