เทียบสเปค CPU อดีตตัวแรง Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f

21 ต.ค. 2565

เทียบสเปค CPU อดีตตัวแรง Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f

ช่วงปลายปี 2022 นี้ถือว่าเป็นหนึ่งในช่วงที่น่าจับตามองสุดๆ สำหรับวงการคอมพิวเตอร์ เพราะสองยักษใหญ่แห่งวงการ CPU อย่าง AMD และ Intel นั้นต่างพากันเปิดตัวซีพียูเจนใหม่พร้อมๆ กัน อย่างทางฝั่ง Intel ก็เปิดตัว Intel Core Gen 13 และฝั่ง AMD ที่เปิดตัว AMD Ryzen 7000 Series ซึ่งแน่นอนว่าพอมีของใหม่ๆ มาราคาเปิดตัวก็ต้องสูงเป็นธรรมดา ทำให้ฮาร์ดแวร์คอมประกอบ DIY รุ่นก่อนหน้านั้นได้รับความนิยมขึ้นอีกครั้ง และในวันนี้เอง เราจะพาทุกคนไปเทียบสเปค CPU อดีตตัวแรงยอดฮิตระหว่าง Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f ว่าระหว่างซีพียูทั้งสองตัวนี้ ตัวไหนจะดีและเจ๋งกว่ากัน

cpu intel top view clouseup

เทียบสเปค Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f

แต่ก่อนที่จะไปเทียบสเปคของ Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f นั้น เราไปดูสเปคคร่าวๆ ของซีพียูทั้งสองรุ่นกันก่อนจะดีกว่า โดยเริ่นกันที่ Ryzen 5 5600x โดยซีพียูรุ่นนี้ถูกปล่อยออกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2020 ซึ่ง  Ryzen 5 5600x นั้นถือว่าเป็นรุ่นสูงสุดสำหรับ Ryzen 5 5000 Series ซึ่งถือว่าเป็นซีพียูรุ่นกลางๆ ค่อนสูงสำหรับ Ryzen 5000 Series ส่วนทางฝั่ง Intel i5-12400f ถูกปล่อยออกมาเมื่อช่วงต้นปี 2022 นี้เอง ซึ่งซีพียู Intel i5-12400f รุ่นนี้ก็เป็นซีพียูรุ่นกลางๆ ของทางฝั่ง Intel Core i5 12th Gen ซึ่งเมื่อเทียบกันทั้งสองฝั่งนั้นก็ถือว่าสูสีพอกันเลย แต่สเปกของซีพียูรุ่นไหนจะเจ๋งกว่ากัน เราไปดูพร้อมๆ กันเลย

จำนวนคอร์/เธรด


สำหรับสเปกแรกที่เราจะมาเทียบกัน Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f นั้นก็คือเรื่องของคอร์และเธรดของซีพียู โดยซีพียูทั้งสองรุ่นนั้น จะมาพร้อมกับจำนวนคอร์และเธรดที่ 6 Core / 12 Threads ซึ่งเป็นจำนวนที่ถือว่าเพียงสำหรับการทำงานและเล่นเกมกันทั้งคู่ ซึ่งก็ถือว่าตรงกับความต้องในปัจจุบันพอสมควร แต่ทางฝั่งของ Intel i5-12400f นั้นดูจะได้เปรียบกว่า เนื่องจากคอร์ซีพียูรุ่นนี้เป็น Performance Core ที่สามารถทำงานประมวลผลได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากกว่าคอร์ซีพียูทั่วไป และตอบโจทย์การทำงานแบบ Single-Thread ที่มักจะเจอในการประมวลผลเกม ทำให้ทางฝั่งของ Intel ชนะไปในจุดนี้ ส่วนในเรื่องของการ์ดจอ On Broad 


ความเร็ว


ส่วนในด้านของความเร็ว (Clock Speed) ระหว่าง Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f นั้น ทางฝั่งของ Ryzen ดูจะได้เปรียบกว่าตรงที่ Base/ Max Clock Speed ที่ประมาณ 3.7/4.6GHz ขนณะที่ทางฝั่งของ Intel จะอยูที่ 2.50/4.4GHz ซึ่งในจุดนี้ก็ยังถูกชดเชยจาก Performance Core ได้อยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ Ryzen 5 5600x นั้นได้เปรียบกว่าก็คือความสามารถในการ Overclocking ที่ทางฝั่ง Intel i5-12400f นั้นจะถูกล็อกความเร็วไว้ ทำให้ในข้อนี้ AMD เป็นฝั่งที่ได้เปรียบกว่า

cpu amd ryzen on broad dark

การซัพพอร์ตและซ็อคเก็ตที่รองรับ


และสำหรับข้อนี้นั้น Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f ก็ถือว่าสูสีกันทั้งเลย โดยในเรื่องของซ็อคเก็ตนั้น Ryzen 5 5600x ก็จะยังคงใช้ช็อคเก็ต AM4 แบบเดียวกับซีพียู AMD Ryzen รุ่นอื่นๆ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ดบ่อยๆ ในขณะเดียวกัน Intel i5-12400f นั้นก็เปลี่ยนมาใช้ซ็อคเก็ต LGA 1700 ซึ่งต่างจากรุ่น 10th และ 11th ที่ใช้บอร์ด LGA1200 ทำให้ผู้ใช้หน้าเก่าต้องเจียดดตังในส่วนนี้เพิ่มด้วย และการซัพพอร์ตอุปกรณ์อื่นๆ นั้น Intel i5-12400f สามารถรับได้ทั้งพอร์ต PCie 4.0 และซ็อคเก็ตแรม DDR4 และ DDR5 ทำให้ทางฝั่งของ Intel นั้นตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาวได้ดีกว่าซึพียู AMD ที่รองรับแค่ PCie 4.0 และ DDR4


ความร้อนและการกินไฟ


และหัวข้อสุดท้ายสำหรับการเทียบสเปก Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f ก็คือเรื่องของความร้อนและการกินไฟของซีพียูกัน ซึ่งในจุดนี้ Ryzen 5 5600x ถือว่าทำให้ดีกว่า ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ 7nm ทำให้ซูพียูรุ่นนี้กินไฟน้อยกว่า Intel i5-12400f ที่เป็นแบบ 10nm โดยทางฝั่งของ Ryzen 5 5600x จะมีการใช้กำลังไฟสูงสุดอยู่ประมาณ 70 - 80 วัตต์ ในขณะที่ Intel i5-12400f  นั้นใช้กำลังไฟสูงถึง 110 - 120 วัตต์เลยทีเดียว และนอกจากกังลังไฟที่น้อยกว่า Ryzen 5 5600x ยังมีอุณหภูมิสูงสุดที่เย็นกว่า Intel i5-12400f ถึง 5 องศาเซลเซียสอีกด้วย (Ryzen 5 5600x 95°, Intel i5-12400f 100°) ทำให้ Ryzen 5 5600x นั้นเหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดพลังงานสุดๆ

cpu hand holding mainbroad installing

ส่วนทางด้านของราคานั้น Ryzen 5 5600x vs Intel i5-12400f ก็ถือว่าเป็นซีพียูที่อยู่ในระคาที่ไล่เสี่ยกันมากๆ โดยราคาในตลาดตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 6,500 บาท ทั้งนี้ส่วนที่ว่าเราจะเลือกซีพียูรุ่นไหนมาใช้งานกับคอมพิวเตอร์และโน๊ตบุ๊คของเรานั้น ก็ลองอ่านบทความนี้ของเราดู แล้วตัดสินใจจากความต้องการของเราเองได้เลย ส่วนบทความหน้านั้น จะมีเนื้อหาอะไรที่น่าสนใจกันอีกบ้าง รออ่านกันไว้ได้เลย

article-banner-1
article-banner-2