• ประเภท (ทำงาน, เล่นเกม, 2 in 1)
• สเปก (CPU, การ์ดจอ, แรม)
• ความจุ (HDD, SSD 128GB - 1TB)
• การพกพา (ขนาด, ความหนา)

สิ่งแรกที่ต้องดูนั้นก็คือการซื้อไปใช้งานของคุณครับ เพราะว่าในปัจจุบันนี้เหล่าโน๊ตบุ๊คเองก็มีประเภทของมันให้สามารถเลือกใช้ได้แล้ว ว่าจะเอาไว้ทำงานหรือว่าเล่นเกม ซึ่งใครที่สงสัยว่าโน๊ตบุ๊คยังมีประเภทอีกเหรอ แล้วแต่ละประเภทนั้นแตกต่างกันยังบ้าง ก็ต้องไปดูกันแล้วล่ะครับ ว่าแต่ละประเภทนั้นมีจุดเด่นอะไรยังไงบ้าง

สำหรับการเลือกดูสเปกนั้น ก็คงต้องเริ่มจากมันสมองของโน๊ตบุ๊คกันก่อนเลย นั่นก็คือ CPU หรือชื่อเต็มว่า Central Processing Unit ที่เป็นหน่วยประมวลผลของโน๊ตบุ๊ค หรือจะพูดภาษาง่าย ๆ ก็คือ มันสมองของเครื่องนั่นเองครับ ซึ่งการเลือกใช้งานนั้นก็ควรเลือกซีพียูที่เป็นเจนใหม่ เพราะจะสามารถขับเคลื่อนได้อย่างเร็วและแรง ไม่สะดุด โดยวิธีการเลือกนั้นก็ดูได้ตามนี้

CPU ต้องดูอะไรบ้าง

โดยทั่วไปแล้ว CPU นั้นจะมีแบรนด์ชั้นนำอยู่ด้วยกันสองแบรนด์นั่นก็คือ Intel และ AMD ซึ่งการเลือกใช้งานนั้นก็ง่ายมาก ๆ นั่นก็คือควรจะเลือกซีรีส์ที่เป็นเจนใหม่โดย Intel ให้ดูที่เป็น Core i5 ขึ้นไป ส่วน AMD นั้นก็ให้ดู Ryzen 5 ขึ้นไป พร้อมกับเลขรุ่นที่ออกมาใหม่ ๆ เพราะยิ่งตัวเลขของซีรีส์และรุ่นใหม่เท่าไหร่ ประสิทธิภาพก็ยิ่งดีขึ้นตามมากเท่านั้น

ใครที่อยากได้ภาพคม ๆ ฉายผ่านหน้าจอมาอย่างสวยงามนั้น ก็ต้องเล็งการ์ดจอดี ๆ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเลือกที่เป็นรุ่นใหม่ ๆ ที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะไม่เพียงแค่ความสวยงามของภาพเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเล่นภาพที่ไหลลื่น นั่งดูได้เพลิน ๆ โดยไม่มีกระตุก ซึ่งการ์ดจอก็จะแบ่งได้อีกสองประเภทคือ การ์ดจอออนบอร์ด กับ การ์ดจอแยก

การ์ดจอออนบอร์ด

การ์ดจอออนบอร์ดคือการ์ดจอที่ติดอยู่ในซีพียู ซึ่งจะเป็นตัวแสดงภาพความคมชัดมาตรฐาน มักจะเจอเจ้าตัวนี้อยู่ในโน๊ตบุ๊คสำหรับทำงาน เป็นการ์ดจอที่กินไฟน้อย และแน่นอนว่าไม่เหมาะกับการเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ เนื่องจากการ์ดจอออนบอร์ดนั้นมีสเปกไม่มากพอที่จะนำมาเล่นเกมหนัก ๆ ได้

การ์ดจอแยก

การ์ดจอแยก เป็นการ์ดจอที่จะถูกประกอบเสริมเข้าไปแยกจากตัวการ์ดจอออนบอร์ด มักจะเจอในโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง เนื่องจากโน๊ตบุ๊คประเภทนี้ต้องการความเร็วในการรันกราฟิกมากกว่านั่นเอง ซึ่งตัวการ์ดจอแยกนี้ก็มาพร้อมกับสเปกในการเล่นเกมที่ครบครันและยังแรงกว่าการ์ดจอออนบอร์ด จึงทำให้เกิดการกินไฟมากกว่าการ์ดจอออนบอร์ดนั่นเอง

RAM คือ หน่วยความจำหลัก เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ CPU และการ์ดจอทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเครื่องจะเร็วแค่นั้นก็อยู่ที่แรมนี่แหละครับ ดังนั้นการเลือกใช้งานก็จะต้องพิถีพิถันกันสักหน่อย เพื่อให้ได้แรมที่เหมาะสมกับการนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันของเรานั่นเอง

สำหรับ แรม ต้องดูอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

อันดับแรกให้ดูประเภทซ็อกเก็ต 

หรือช่องใส่แรมที่อยู่บนเมนบอร์ดก่อนเลยว่าเป็นประเภทไหน โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีอยู่สองแบบก็คือ DDR4 เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้งานกันทั่วไป และ DDR5 รุ่นใหม่กว่า เร็วกว่า และแน่นอนว่าราคาก็ย่อมสูงกว่า

ความจุ

สำหรับความจุของแรมนั้นก็สามารถเลือกได้ตามที่ใช้งานได้เลย แต่หากยิ่งมีความจุมาก โน๊ตบุ๊คก็ยิ่งสามารถรันได้เร็วขึ้น โดยความจุต่ำกว่า 8GB เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป ความจุ 16GB เพียงพอต่อการนำไปเล่นเกมทั่วไป และความจุตั้งแต่ 32GB สามารถทำงานและเล่นเกม High end ได้อย่างไม่เป็นปัญหาอะไรเลย

คนที่ต้องทำงานอย่างหนักหน่วง มีการเก็บไฟล์งานไว้ใช้มากมาย หรือเหล่าเกมเมอร์ที่ต้องเล่นเกมต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลานั้น การเลือกดูความจุของเครื่องนั้นก็สามารถเป็นการวางแผนการใช้งานที่ดีเลยล่ะครับ เพราะว่าคุณนั้นสามารถคำนวณได้ว่า งานหรือเกมของคุณนั้นจะสามารถจัดเก็บได้มากน้อยขนาดไหนนั่นเอง โดยตัวความจุในเครื่องนั้นก็จะแบ่งเป็นสองประเภทด้วยกันนั่นก็คือ

Hard Disk Drive (HDD)

นี่คือหน่วยความจำที่เรียกได้ว่าเป็นรุ่นเก่า มาพร้อมกับขนาดที่ใหญ่พอสมควร ซึ่งในปัจจุบันนั้นเจ้าตัว HDD นี้ก็มีความสามารถในการเขียนอ่านที่บอกได้ว่าช้าไม่ทันใจคนรุ่นใหม่จริง ๆ แต่ว่าข้อดีของมันก็คือ การที่ตัว HDD มีความจุสูงและยังมีราคาที่เป็นมิตร สามารถซื้อมาเป็นเจ้าของได้ง่ายดาย

Solid State Drive (SSD)

หน่วยความจำรุ่นใหม่ที่ผลิตออกมาให้ใช้งานกันอย่างมากมาย โดยตัว SSD นั้นจะมีขนาดที่เล็กลงกว่า HDD สามารถใส่ได้ 2 - 4 ตัวแล้วแต่เมนบอร์ดของโน๊ตบุ๊คนั้น ๆ โดยให้ความสามารถในการเขียนอ่านได้อย่างรวดเร็ว ในความจุนั้นก็เรียกได้ว่าเท่ากับ HDD ทุกประการ แต่ในเรื่องของราคานั้นกลับสูงกว่า แต่ว่าคนส่วนมากก็ยอมจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีกว่านั่นเอง

เพราะว่าการพกพาคือปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดโน๊ตบุ๊คขึ้นมาบนโลก ดังนั้นการจะพกพาจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คกันเลยทีเดียว โดยขนาดของโน๊ตบุ๊คนั้นก็มีให้เลือกได้มากมาย แล้วแต่ความชื่นชอบของแต่ละคนกันไปเลย ซึ่งก็ต้องดูจากขนาดหน้าจอและความหนาของตัวเครื่อง เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจในเรื่องของการพกพาไปทำงานหรือเล่นเกมข้างนอกสถานที่

เครื่องบาง

แน่นอนอยู่แล้วว่าถ้าคุณเป็นคนที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนบ่อย ๆ นั้น การเลือกซื้อโน๊ตบุ๊คที่มีขนาดความหนาของเครื่องที่บางจะช่วยให้สามารถพกพาได้ง่ายขึ้น อีกทั้งน้ำหนักก็ยังเบาและยังประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋ามาก ๆ ซึ่งข้อดีของโน๊ตบุ๊คแบบนี้จะมาพร้อมกับความแบตอึดสามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน แต่กลับกันในเรื่องของราคานั้นก็เรียกได้ว่าสูงเมื่อเทียบกับสเปกอีกด้วย

เครื่องหนา

สำหรับโน๊ตบุ๊คที่ถูกผลิตออกมาให้มีความหนานั้นมักจะพบได้ในโน๊ตบุ๊คเล่นเกมหรือ Workstation เพื่อให้เป็นการใช้งานอยู่กับที่เสียมากกว่า เพราะยิ่งเครื่องหนาเท่าไหร่ก็ยิ่งพกพาได้ลำบากเนื่องจากน้ำหนักที่มาก อีกทั้งตัวของแบตเตอรี่ยังหมดไวเพราะเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ตัวเครื่องอัดแน่นเข้ามาในเครื่องอีกด้วย

มาถึงบทสรุปกันแล้วนะครับกับ ซื้อโน๊ตบุ๊ค ต้องดูอะไร ไม่รู้เรื่องคอมก็ทำได้ ซึ่ง Mercular นั้นได้รวบรวมมาให้กันอย่างจุใจ เพื่อให้คุณสามารถเลือกโน๊ตบุ๊คได้ด้วยตัวคุณเอง ซึ่งใครที่ยังลังเลและชั่งใจอยู่นั้นว่าจะเลือกแบบไหนดีนั้น เราก็ได้ทำตารางสรุปมาให้แล้ว ที่ด้านข้างนี้เลย รับรองเลยว่า หากดูตารางนี้แล้วคุณจะได้โน๊ตบุ๊คที่ตอบสนองการใช้งานของคุณได้อย่างแน่นอน