หากจะให้พูดถึงกลุ่มสินค้าเครื่องเสียงยอดนิยมในปัจจุบันที่ประกอบไปด้วย หูฟังไร้สาย, หูฟังไร้สาย True Wireless, หูฟังตัดเสียงรบกวน, ลำโพงไร้สาย, ลำโพงบ้าน, ลำโพงบลูทูธใหญ่ และลำโพง Multi-Room เป็นต้น แน่นอนว่า 1 ในหมวดสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้นๆ และมีผู้ใช้งานมากมายที่อยากจะมีไว้เป็นเจ้าของอย่างน้อยก็ 1 ตัวนั่นก็คือสินค้าประเภท ลำโพงบลูทูธ ที่ในปัจจุบันก็มีสินค้าให้เลือกมากมายหลากหลายรุ่นด้วยกัน แต่ละรุ่นก็มาพร้อมจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเชื่อมต่อ, มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนาน, ไฟแสดงผลสุดเท่, รูปร่างหน้าตาสุดล้ำ รวมไปถึงขนาดของลำโพงที่มีให้เลือกหลากหลายขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กกะทัดรัดพกพาสะดวก ไปจนถึงลำโพงขนาดใหญ่ไซส์บิ๊กที่ไม่เพียงแต่มาพร้อมขนาดที่ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ที่ครบครันทั้งการเชื่อมต่อหลากหลาย, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน และอื่นๆ เหมือนรวมลำโพงหลายๆ ประเภทเข้าไว้ในตัวเดียวกันรวมไปถึงแนวเสียงที่แน่นอนว่าลำโพงตัวใหญ่ย่อมให้เสียงที่ดังกระหึ่มถึงใจอีกด้วย

และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี รวมถึงไม่แน่ใจว่ารุ่นใดที่จะมาพร้อมขนาดที่ใหญ่สะใจ รูปร่างหน้าตาสุดพรีเมียม การเชื่อมต่อที่ครบครัน ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน และแนวเสียงที่ดังกระหึ่มถึงใจ ในครั้งนี้ Mercular จึงได้รวบรวมเอา 5 ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ เสียงดังกระหึ่มถึงใจ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ

5 ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ในบทความนี้

• ลำโพง B&O Beoplay A9 Gen 4 GVA by Bang & Olufsen
• ลำโพง JBL Partybox 710 Bluetooth Speaker
• ลำโพง Marshall Woburn III Bluetooth Speaker
• ลำโพงไร้สาย Klipsch The Three II Speaker
• ลำโพง Sony SRS-XP500 Portable Bluetooth Speaker

ลำโพงบลูทูธใหญ่ B&O ตัวแรกกับลำโพง B&O Beoplay A9 Gen 4 GVA by Bang & Olufsen มาพร้อมความสามารถที่อัดแน่น แนวเสียงที่ทรงพลังแต่ก็ยังสุขุมนุ่มลึก ออกแบบโดย Øivind Alexander Slaatto ที่ทำให้ A9 เป็นมากกว่าลำโพงไร้สายทั่วไปแต่เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านแบบหรูหราอีก 1 ชิ้นที่จะตั้งวางก็มาพร้อมขาตั้ง หรือจะแขวนติดผนังก็ยังทำได้เช่นกัน ด้านวัสดุผ่านการเลือกสรรค์มาเป็นอย่างดีมาพร้อมขนาดที่ใหญ่ถึงใจที่ 70.1 x 90.8 x 41.5 เซนติเมตรในโหมดตั้ง และ 70.1 x 21.3 เซนติเมตรในโหมดแขวนผนัง และแม้จะตัวใหญ่แต่น้ำหนักไม่มากเพียง 14.7 กิโลกรัม (รวมขาตั้ง) และ 14 กิโลกรัม (ไม่รวมขาตั้ง) สามารถขับเสียงได้ครบทุกย่านด้วยระบบเสียงแบบ Stereo พร้อมไดร์เวอร์ภายในอันครบครัน แยกกันขับเสียงในแต่ละย่านรวมไปถึงเสียงเบสที่ทรงพลังด้วย Bass-reflex เอกลักษณ์ของแบรนด์ B&O ด้านการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 4.2 รองรับ Codec ไร้สายส่งสัญญาณคุณภาพสูงที่หลากหลาย เชื่อมต่อผ่าน WiFi รองรับคลื่นความถี่ทั้ง 2.4 GHz และ 5GHz สามารถสตรีมเสียงจากแแอปที่คุณชื่นชอบได้ทั้ง iPhone และ Android ด้วย Apple AirPlay 2 และ Google Chromecast ภายในตัว

ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ตัวที่ 2 กับ ลำโพง JBL Partybox 710 Bluetooth Speaker มาพร้อมพลังเสียงในแบบ JBL Original Pro Sound หนักแน่น กระหึ่ม จัดเต็มเหมือนงานคอนเสิร์ต ตัวลำโพงมีกำลังขับ 800 วัตต์ RMS ภายในติดตั้งทวีตเตอร์คู่ 2.75 นิ้ว และวูฟเฟอร์ 8 นิ้ว จับคู่กับ Passive Radiator ที่ออกแบบมาเป็นอย่างดี มอบความสมบูรณ์แบบของเสียงที่มีรายละเอียดยอดเยี่ยม เบสหนักพื้นสะเทือน กลาง แหลม ชัดใส เสียงดังมากแต่มีคุณภาพที่ดี สัมผัสได้ถึงจังหวะเพลงอย่างแท้จริง โดดเด่นด้วยเอฟเฟกต์ไฟ LED ที่สามารถปรับแสงสีได้ไม่จำกัด ควบคุมได้ง่ายๆ ผ่านแป้นหมุนด้านบนตัวลำโพงที่และควบคุมผ่านแอปฯ มาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำมาตรฐาน IPX4 สามารถตั้งใช้งานริมสระว่ายน้ำหรืออ่างอาบน้ำได้อย่างไม่มีปัญหา เข็นลำโพง JBL Partybox 710 ไปตั้งวางยังจุดต่างๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วเพราะว่าที่ตัวลำโพงมีด้ามจับและล้อลาก เคลื่อนย้ายได้ง่ายดาย ปาร์ตี้ได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านทิศทางเสียง

ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ตัวที่ 3 กับ ลำโพง Marshall Woburn III Bluetooth Speaker ลำโพงบลูทูธรุ่นใหญ่สุดในตระกูล Home Speaker ของ Marshall อัปเกรดสเปกและคุณภาพเสียงจากเจเนอเรชันก่อนหน้าด้วยระบบไดรเวอร์ 3 ทางใหม่ ประกอบด้วย ดอกทวีตเตอร์ขับเสียงแหลม 2 ตัว ดอกมิดเรนจ์ขับเสียงกลาง 2 ตัว และดอกวูฟเฟอร์ขับเสียงเบส 1 ตัว กำลังขับรวม 150W ตอบสนองความถี่ 35 – 20,000 Hz ลำโพงมีระบบเสียงแบบสเตอริโอ พร้อมเทคโนโลยี Dynamic Loudness ช่วยปรับสมดุลของโทนเสียงให้ดียิ่งขึ้น รูปลักษณ์ดีไซน์มาในแนวทางคลาสสิก ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูงและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยปราศจาก PVC และใช้พลาสติกรีไซเคิล 70% เป็นส่วนประกอบ ด้านการเชื่อมต่อไร้สายอัปเกรดเป็น Bluetooth 5.2 การเชื่อมต่อมีสายรองรับทั้ง AUX/3.5 mm., RCA Stereo และครั้งแรกของลำโพง Marshall คือช่อง HDMI ซึ่งช่วยให้เชื่อมต่อเข้ากับทีวีได้แล้ว ผู้ใช้งานสามารถควบคุมการทำงานของลำโพงได้ผ่านปุ่มหมุนควบคุม Control Knob บนตัวลำโพงและควบคุมผ่านแอปฯ Marshall Bluetooth ที่สามารถการปรับแต่งเสียงและควบคุมการเล่นเพลงได้แบบละเอียด

ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ตัวที่ 4 กับลำโพงไร้สาย Klipsch The Three II Speaker มาพร้อมสเปกด้านเสียงแบบจัดเต็มโดยภายในติดตั้งไดร์เวอร์ขับเสียงต่ำ Long-Throw Woofer ขนาด 5.25 นิ้ว 1 ดอก พร้อมด้วยไดร์เวอร์ Full Range ขับเสียงครบทุกย่าน ขนาด 2¼ นิ้ว 2 ดอก และ Passive Radiator คู่ขนาด 5¼ นิ้ว กำลังขับรวมทั้งระบบสูงสุด 120W ตอบสนองความถี่เสียงครอบคลุมตั้งแต่ 45 - 20,000 Hz อีกทั้งยังรองรับการถอดรหัสไฟล์เสียงความละเอียดสูง 24-bit/192kHz อีกด้วย มาพร้อมรูปลักษณ์สไตล์คลาสสิค รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าวางแนวนอน วัสดุบอดี้เป็นไม้แท้หุ้มรอบด้วยผ้าเนื้อละเอียดอย่างดี ด้านบนมาพร้อมปุ่มควบคุมที่เลือกใช้เป็นแบบหมุน Control Knob สวิตช์เปิด-ปิดแบบแท่ง ตกแต่งด้วยแถบโลหะปัดเงาสุดคลาสสิก โดยตัวลำโพงมีขนาดใหญ่ถึง 13.7 x 7 x 8 นิ้ว และน้ำหนัก 4.7 กิโลกรัม ด้านการเชื่อมต่อมีช่อง input RCA ขาว-แดง พร้อมสวิตช์เลือกช่องสัญญาณระหว่าง Phono กับ Line สำหรับเชื่อมต่อกับเครื่องเล่นระบบ Analog นอกจากนี้ตัวลำโพงยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านทางช่อง USB Type B ที่สามารถถอดรหัสไฟล์เสียงความละเอียดสูงสุด 24-bit/192kHz และมีช่อง AUX/3.5 mm. สำหรับต่อกับเครื่องเล่น MP3 ยุคเก่า เรียกได้ว่ารองรับได้ครบและครอบคลุมมากๆ

ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ตัวสุดท้ายกับ ลำโพง Sony SRS-XP500 Portable Bluetooth Speaker ลำโพงที่ออกแบบมาให้เน้นความทนทานในการใช้งานเป็นหลักทำให้สามารถพกพาออกไปได้ทุกที่โดยไม่ต้องเป็นห่วงเวลาพกพาออกไปไหน นอกจากนี้ยังออกแบบให้ทนน้ำระดับ IPX4 จึงสามารถใช้งานกลางแจ้งได้อย่างไม่ต้องกัววลฝนตกอีกต่อไป ด้านสเปกเสียงดอกลำโพงประกอบไปด้วย Woofer 2 ตัวระบบ X-Balanced Units Speaker และ Tweeter 2 ตัว ที่ให้มิติเสียงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้การวางดอกลำโพงรูปแบบนี้ทำให้สามารถวางได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน ด้านการเชื่อมต่อนอกจากจะเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth แล้วยังเชื่อมต่อแบบมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB-A ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบ Party mode ที่เชื่อมต่อกับลำโพงตัวอื่นๆ ที่เข้ากันได้ถึง 100 ตัว ด้านแบตเตอรี่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 20 ชั่วโมงมาพร้อมช่อง USB 2 ช่องที่สามารถใช้ชาร์จ Smartphone ได้ด้วยเช่นกัน

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ แนะนำ 5 ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ เสียงดังกระหึ่มถึงใจ ที่ทาง Mercular ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ที่ไม่เพียงแต่มีขนาดที่ใหญ่เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่จัดเต็ม ตอบโจทย์ครบถ้วนทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรูปร่างหน้าตาสุดเท่ ทันสมัย การเชื่อมต่อที่ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย ทนทานไม่กลัวทั้งน้ำและฝุ่นด้วยมาตรฐานกันน้ำภายในตัว และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนานในรุ่นที่รองรับแบตเตอรี่ ที่สำคัญคือมาพร้อมแนวเสียงที่ดังกระหึ่มถึงใจ สมกับขนาดตัวลำโพงอย่างแน่นอน รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ

ซึ่งทาง Mercular ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง ลำโพงบลูทูธตัวใหญ่ รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ