คีย์บอร์ดเกมมิ่ง เป็นเกมมิ่งเกียร์อีกชิ้นที่เหล่าเกมเมอร์ต้องการ นอกจากภายนอกที่ดูสวยงาม ไฟ RGB หลากหลายสีวิบวับกันแสบตา ภายในเองก็ยังมีเทคโนโลยีและการปรับแต่งอีกมากที่ใส่มาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยการออกแบบอย่างเข้าใจคนเล่นเกม จึงไม่แปลกใจเลยหากเกมเมอร์ที่เคยสัมผัสการใช้งานคีย์บอร์ดเกมมิ่ง 2024 เล่นเกมสักครั้งจะไม่สามารถใช้คีย์บอร์ดทั่วไปได้อีกเลย

แต่ละแบรนด์ก็ขยันทำสินค้าออกมาเพื่อรองรับความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขนาดคีย์บอร์ดที่หลากหลาย การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เพิ่มความสะดวก และมีหลากหลายราคาตามความไหวของเกมเมอร์ วันนี้ทาง Mercular ขอรวบตึง 18 คีย์บอร์ดเล่นเกมราคาไม่เกิน 5000.- ที่ทางเราคัดสรรมาเป็นอย่างดีแล้วว่าเงินที่เสียไปคุ้มค่าแน่นอน ด้วยช่วงราคานี้ต้องบอกเลยว่ามีหลายเลยทีเดียวที่น่าสนใจ คุ้มค่าเกินราคา แล้วจะมีตัวไหนโดนตาโดนใจเกมเมอร์กันบ้าง มาดูกันครับ

• คีย์บอร์ด Loga Yaksa 65AL : Vanilla Caramel Biscuits Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH)
• คีย์บอร์ด Akko 7th Anniversary MOD 007 PC Wireless Mechanical Keyboard (EN)
• คีย์บอร์ด Keydous NJ98 Wireless Mechanical Keyboard
• คีย์บอร์ด HyperX Alloy Origin Mechanical Keyboard (EN/TH)
• คีย์บอร์ด Loga Ravana 2 SIRIMONGKOL : Black Edition Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH)
• คีย์บอร์ด Melgeek Modern97 Wireless Mechanical Keyboard (EN)
• คีย์บอร์ด Keychron V1 Max Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH)
• คีย์บอร์ด MonsGeek M1 HE Mechanical Keyboard (EN)
• คีย์บอร์ด Asus ROG Strix Scope II 96 Wireless Mechanical Gaming Keyboard (EN/TH)
• คีย์บอร์ด Keychron K3 Max Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH)

เริ่มต้นกันด้วยคีย์บอร์ดสัญชาติไทยจากแบรนด์ Loga ที่มาในสีมินิมอลสุดน่ารักอย่าง คีย์บอร์ด Loga Yaksa 65AL : Vanilla Caramel Biscuits Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH) เป็นคีย์บอร์ดไร้สายขนาด 65% ที่มีธีมเป็น ขนมบิสกิตรสวานิลาคาราเมล ที่จับคู่สีพาสเทล ขาว ครีม น้ำตาลผสมกันอย่างลงตัว ใครที่กำลังจะแต่งโต๊ะคอมด้วยสี Earth tone ไม่ควรพลาด ซึ่งจุดเด่นต้องเป็นปุ่มที่กดสนุก พิมพ์มัน ด้วยสวิตซ์เอกลักษณ์ที่มีให้เลือกสองแบบ นมเย็น Linear และ ชาไทย Tactile ตามความชอบ ทาง Loga ก็ได้ทำการ Pre-Lube มาให้แล้ว ได้เสียงเพราะ ๆ พร้อมสัมผัสสนุก ๆ ทุกครั้งที่กดแน่นอน ตัวคีย์บอร์ดนั้นแข็งแรงไว้ใจได้ด้วยวัสดุอะลูมิเนียมทั้งตัว แค่จับก็สัมผัสได้ถึงความพรีเมียม มาพร้อมกับ Knob ด้านขวาบนสำหรับการปรับระดับเสียง และแบตที่ใช้งานได้ถึง 40 ชั่วโมงจากการชาร์จแค่ 1 ครั้ง เป็นคีย์บอร์ดน่ารักที่เหมาะกับเกมเมอร์สายหวาน ใครที่อยากเพิ่มพื้นที่ในการสะบัดเมาส์ ไปพร้อม ๆ กับเพิ่มเติมสีสันให้กับโต๊ะคอม บอกเลยว่าต้องมี

มาแล้วกับคีย์บอร์ด Rapid Trigger ในราคาไม่ถึง 5000 บาท เกมเมอร์สายจริงจังไม่ควรพลาด ขอแนะนำ คีย์บอร์ด Akko 7th Anniversary MOD 007 PC Wireless Mechanical Keyboard (EN) ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ฉลองครบรอบ 7 ปีแบรนด์ Akko ที่มาพร้อมกับสวิตซ์ Magnetic และคีย์แคปลายแมวโรบอทมาสคอตของแบรนด์สุดน่ารัก โดยทีเด็ดของเจ้าสวิตซ์ Magnetic คือฟีเจอร์ Rapid Trigger ที่ตอบสนองต่อการกดได้ไวมาก แค่สัมผัสเบา ๆ ปุ่มก็พร้อมตอบสนองแล้ว ทำให้ทุกการควบคุมเป็นไปได้ดั่งใจ ไม่มีอีกแล้วคำว่า “กดแล้วทำไมไม่ไป” ซึ่งความเร็วในการตอบสนองนี้เราก็ตั้งค่าเองได้ตั้งแต่ 0.1 - 2.5 มม. ผ่านซอฟต์แวร์เลย เป็นฟีเจอร์ที่คอเกมยิงต้องได้ลองสัมผัสสักครั้งครับ นอกจากนี้จะมอบสัมผัสในการกดที่มันสุด ๆ อีกหนึ่งคีย์บอร์ด ราคาไม่เกิน 5000 ที่ไม่แนะนำไม่ได้ ถ้าได้ลองใช้จะต้องตกหลุมรักในประสิทธิภาพแน่นอนครับ

มาต่อกันกับอีกหนึ่งคีย์บอร์ดไร้สายขนาด 98% ที่พร้อมดึงดูดทุกคนด้วยหน้าตามินิมอลสุดน่ารักอย่าง คีย์บอร์ด Keydous NJ98 Wireless Mechanical Keyboard โดยจุดเด่นของเขาก็ต้องเป็นหน้าจอ Docking Screen ที่คอยบอกสถานะต่าง ๆ ของคีย์บอร์ดเรา ทั้งแบตเตอรี่ เวลา รูปเคลื่อนไหว รวมถึงสามารถใช้เป็นเครื่องคิดเลขได้ด้วย วางขาง ๆ กับ Knob ปรับระดับเสียงที่สวยงาม เรื่องสวิตซ์และเสียงกดก็บอกเลยว่าไม่ใช่เล่น ๆ นุ่มทุ้ม ไพเราะ ด้วยสวิตซ์ที่ได้รับการ Pre-Lube มาให้แล้ว ทั้งสวิตช์ Gateron และ Kailh Box ปุ่มแน่น ชวนให้อยากกดพิมพ์ตลอดเวลา โดยรองรับการ Hot-Swap ใครที่อยากเปลี่ยนสวิตซ์หรือ Lube เพิ่มก็ไม่ต้องไปบัดกรีให้ยุ่งยากเลยครับ นอกจากนี้ยังมีซอฟต์แวร์ตั้งค่าจาก Keydous สำหรับการตั้งค่าไฟและตั้งปุ่มมาโครช่วยในการเล่นเกมและทำงานอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นคีย์บอร์ดที่เสียงเพราะ ที่มีลูกเล่นเยอะ จัดให้ทั้งหน้าจอและ Knob หมุน มาในราคาไม่เกิน 5000 บอกเลยว่าคุ้ม ของมันต้องมีจริง ๆ ครับ

สำหรับใครที่มองหา Gaming Keyboard Full Size ที่ขนาดเหมาะมือพกพาง่าย ไฟสวย ราคาไม่แพง คีย์บอร์ด HyperX Alloy Origin Mechanical Keyboard (TH) จากแบรนด์ HyperX คือคำตอบที่ใช่ที่สุดในตอนนี้ ตัวคีย์บอร์ดเกมมิ่งขนาด Full Size รูปทรง Compact พกพาง่าย แต่ก็ยังคงเสน่ห์ของ Alloy Series ที่แข็งแรงทนทาน จากวัสดุที่แข็งแรงทนทานอย่าง อะลูมิเนียมเกรด Air Craft ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน พร้อมด้วยไฟ LED 16.8 ล้านสีที่สวยงาม ตัวของมันยังถูกออกแบบมาให้สามารถปรับระดับความสูงได้มากถึง 3 ระดับ และสายเชื่อมต่อ USB Type-C ถอดได้ ทำให้มันกลายเป็นคีย์บอร์ด Full Size ขนาดพกพาที่มาในขนาด 44x13 cm เหลือที่ว่างเอาไว้ให้กับการเคลื่อนที่เมาส์ของคุณได้อย่างสบาย ๆ เลยครับ

กลับด้านสลับสีให้ตามคำเรียกร้อง กับ คีย์บอร์ด Loga Ravana 2 SIRIMONGKOL : Black Edition Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH) คีย์บอร์ดแมคคานิคอลสไตล์ไทยแท้ ไทยทำ ไทยเจริญ ที่กลับมาใหม่ในดีไซน์สีดำขาวให้แมตซ์กับสไตล์การแต่งโต๊ะคอมสีดำ โดยยังคงมีคีย์แคปลายวัฒนธรรมไทยมาให้ถึง 10 ปุ่มและมีสวิตซ์อย่างนมเย็น (Linear) และชาไทย (Tactile) มาให้เลือกเหมือนเคย มาในไซซ์ 98% ที่มีให้ครบทุกปุ่มที่ต้องการ สามารถเชื่อมต่อได้ครบทั้งมีสายและไร้สาย พร้อมกับแบตที่อึดสุด ๆ ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 100 ชั่วโมง เป็นคีย์บอร์ดที่เหมาะทั้งใช้พิมพ์งาน และใช้เล่นเกม ได้รับการ Mod และ Pre-Lube มาให้พร้อมใช้งานตั้งแต่แกะกล่อง แต่ใครที่ชอบ Custom ก็ทำได้สบายเลยครับเพราะรองรับ Hot-Swap เปลี่ยนสวิตซ์ได้เลย ไม่ต้องบัดกรี อีกหนึ่งคีย์บอร์ดแบรนด์ไทยที่บอกเลยว่าประสิทธิภาพครบเซ็ต คุณภาพเทียบเคียงกับคีย์บอร์ดจากแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกได้สบาย ๆ เลยครับ

เข้าถึงธรรมชาติได้เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสกับ คีย์บอร์ด Melgeek Modern97 Wireless Mechanical Keyboard (EN) ที่มาในดีไซน์ลายหินอ่อนที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ สบายตาทุกครั้งที่มองลงไป เป็นคีย์บอร์ดขนาด 90% ที่มีฟังก์ชันเพื่อการใช้งานอย่างครบถ้วน แต่ขยับให้ชิดกันเรียงเป็นระเบียบมากขึ้น มาพร้อมกับ MCR Profile ที่มีขนาดปุ่มใหญ่กว่า Cherry Profile เล็กน้อย มอบความสบายให้มากกว่าเคย โดยเฉพาะเมื่อต้องเล่นเกมติดต่อกันเป็นเวลานาน และแน่นอนว่าต้องกดสนุกมือ โดนใจเกมเมอร์ด้วยสวิตซ์ Kailh Game Switch ที่ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความได้เปรียบในเกมการแข่งที่ดุเดือด พร้อมเสียงกดที่นุ่ม ฟังสบายตรงตามคอนเซ็ปต์ธรรม นอกจากนี้ยังตอบโจทย์คนทำงาน ด้วยการเชื่อมต่อไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อได้มากถึง 8 อุปกรณ์พร้อมกันและตั้งปุ่ม Shortcut เพื่อเรียกใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ สรุปตรง ๆ เลยว่าคุ้ม ฟีเจอร์เยอะจัดเต็มเหมาะกับทั้งเกมเมอร์วัยรุ่นและเกมเมอร์วัยทำงาน 

เมื่อพูดถึงคีย์บอร์ดที่กดสุดมัน ปังทุกตัว จะขาดแบรนด์เจ้าประจำอย่าง Keychron ไปไม่ได้ จึงต้องขอแนะนำ คีย์บอร์ด Keychron V1 Max Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH) คีย์บอร์ดสุดกระทัดรัด ที่มีความมินิมอลตามสไตล์ มากับขนาด 75% และการออกแบบที่เอาใจสาย Custom ให้ถอดประกอบง่ายทุกส่วน พร้อมกับสวิตซ์ Gateron Jupiter ที่มีให้เลือกสองสีระหว่าง Red และ Brown ให้เกมเมอร์กดได้มัน ๆ ไปเลยกว่า 80 ล้านครั้ง ไม่ต้องกลัวพัง แถมมี Polling Rate มาให้ถึง 1K เล่นเกมลื่นไหล สัญญาณไม่ตกร่องแน่นอน ส่วนฟีเจอร์เด่นก็ต้องยกให้การตั้งค่าที่ทำได้ละเอียดยิบผ่าน VIA และ QMK ตั้งค่าได้ครบทุกปุ่ม จะเซ็ตมาโคร ทำ Shortcut หรือแม้แต่ตั้งค่าปุ่ม Knob เรียกได้ว่าเป็นคีย์บอร์ดสำหรับสายคัสตอมที่แท้ทรูสมชื่อ Keychron บอกได้เลยว่าเป็นตัวเริ่มต้นที่ดีสำหรับใครที่สนใจวงการคัสตอมคีย์บอร์ดครับ

อีกหนึ่งคีย์บอร์ด Rapid Trigger ในราคาไม่ถึง 5000 ที่บอกเลยว่าคอเกมยิงไม่ควรพลาด ขอแนะนำ คีย์บอร์ด MonsGeek M1 HE Mechanical Keyboard (EN) เป็นคีย์บอร์ดขนาด 75% ที่มีบอดี้เป็นอะลูมิเนียม มอบสัมผัสที่พรีเมียม อย่างที่บอกไปตอนต้นว่าจุดเด่นเขาคือ Rapid Trigger จากสวิตซ์แม่เหล็ก ที่จะตอบสนองต่อการกดได้ไวมาก ๆ ช่วยให้เคลื่อนไหวในเกมได้ดั่งใจ รัวปุ่มได้ต่อเนื่องไม่ติดขัด กดสนุกมันมือแน่นอนครับ มาพร้อมกับ Knob เพื่อความสะดวกตลอดการใช้งาน ซึ่งความต่างระหว่างตัวนี้กับเจ้า Akko คือต้องเชื่อมต่อแบบมีสายอย่างเดียวครับ แต่ก็ทดแทนมาด้วยวัสดุที่พรีเมียม มีเพลตและโฟม Poron มอบเสียงที่นุ่นลึกเพราะ สรุปให้เลยว่าเป็นคีย์บอร์ดสำหรับเกมเมอร์ FPS ตัวจริง คอเกม Warzone, CS2 หรือ Apex Legends ควรได้ลองสัมผัสสักครั้ง แล้วจะติดใจจนลืมสวิตซ์ Mechanical เลยครับ

คีย์บอร์ด Asus ROG Strix Scope II 96 Wireless Mechanical Gaming Keyboard (EN/TH) เป็นคีย์บอร์ดเกมมิ่งแบบ Full-Function ที่ออกแบบมาเอาใจทั้งเกมเมอร์และสตรีมเมอร์ครับ มาในขนาด 96% ที่กระชับพื้นที่เข้ามา เพิ่มตำแหน่งในการจัดโต๊ะหรือขยับเมาส์ ตัวคีย์บอร์ดจะใช้สวิตซ์ซีรีส์ ROG NX ที่มีให้เลือกระหว่าง Snow (Linear) และ Storm (Clicky) โดยเคล็ดลับการกดสุดมันของเขาคือ โฟมซับเสียงซิลิโคนภายใน ที่ช่วยให้ทุกครั้งที่กดลงไปจะสนุกเพลินนิ้ว จนหยุดไม่อยู่ ซึ่งก็รองรับการ Hot-Swap เพื่อการคัสตอมโดยไม่ต้องบัดกรีด้วย นอกจากนี้ปุ่ม F1-F5 ของเขาจะพร้อมใช้งานคู่กับ Xbox Game Bar จะอัดคลิป อัด Instant Replay หรือเปิด-ปิดไมค์ก็ทำได้ทันที แถมมีแผ่นรองข้อมือ นุ่ม ๆ และขาตั้งปรับระดับได้อีก เรียกได้ว่ามีให้พร้อมสำหรับการเล่นเกมยาว ๆ ตลอดทั้งวันเลยครับ ใครที่ต้องการคีย์บอร์ดเกมมิ่งจ๋า ๆ ที่มีฟังก์ชันครบถ้วน บอกเลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

เอาใจเกมเมอร์สาย Low Profile กันบ้างกับ คีย์บอร์ด Keychron K3 Max Wireless Mechanical Keyboard (EN/TH) คีย์บอร์ดปุ่มเตี้ยแต่กดสนุกสุด ๆ ปังสมชื่อ เพราะใช้สวิตซ์ Low Profile 2.0 จาก Gateron ที่มีขนาดเตี้ยกว่าปุ่มทั่ว ๆ ไปถึง 31% เป็นคีย์บอร์ด Mechanical ที่บางที่สุดในโลก มาพร้อมกับบอดีอะลูมิเนียมสุดพรีเมียม และฟองน้ำซับเสียงที่ให้เสียงกดเพราะ ๆ ตลอดการใช้งาน โดยจุดไฮไลท์คือการตั้งค่าปุ่มที่ทำได้ละเอียดสุด ๆ ปรับการใช้งานปุ่มได้แบบไม่มีจำกัดด้วย VIA / QMK ตั้งค่าได้หมดแบบไม่มีอะไรมากั้น นอกจากนี้ยังรองรับการใช้งานกับแทบทุกอุปกรณ์แถมมี Polling Rate มาให้ถึง 1K จะใช้พิมพ์งานหรือเล่นเกม บอกเลยได้ว่าไม่มีคำว่าดีเลย์ครับ ใครกำลังตามหาคีย์บอร์ดปุ่มเตี้ยที่กดสนุก พิมพ์มันมือ ไม่ควรมองข้ามครับ เรียกได้ว่าพร้อมเป็นคีย์บอร์ดคู่ใจตัวใหม่ที่ใช้เท่าไหร่ก็วางไม่ลงแน่นอน

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับคีย์บอร์ดเกมมิ่งในราคาไม่เกิน 5000 กว่าจะได้เป็น 18 ตัวนี้ต้องผ่านการคัดสรรเป็นอย่างดี คัดแล้วคัดอีกให้เหลือเพียง 18 คีย์บอร์ดเกมมิ่ง ราคาไม่เกิน 5000 บาท กดสุดมันส์ ปังทุกตัว ในปี 2024 ที่ถูกลงความเห็นว่าสุดจริงๆ ซึ่งบางตัวต้องบอกว่าคุ้มค่าเกินราคา ใช้ดีกว่าตัวราคาแพงบางตัวอีกด้วย ใครที่ตั้งงบไว้พร้อมแต่ยังไม่รู้จะซื้อคีย์บอร์ดเกมมิ่งตัวไหนดี หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้การเลือกซื้อง่ายขึ้น และหากใครยังอยากดูคีย์บอร์ดเกมมิ่งหรือเกมมิ่งเกียร์อื่นๆ เพิ่มเติม ที่ Mercular.com เรามีสินค้าให้เลือกมากมาย จากแบรนด์ดังคุณภาพ ตั้งแต่ราคาคุ้มค่าจนถึงตัวจบรองรับทุกความต้องการ การรับประกันหลังการขายหายห่วงครับ