เรียกได้ว่าปี 2022 ที่กำลังจะผ่านไปนี้เป็นปีทองของวงการ Wearable Device เลยก็ว่าได้ เพราะจำนวนสินค้าที่ออกใหม่ในปีนี้นั้นถือว่าเยอะมาก ๆ แม้กระทั่งแบรนด์ Smartwatch อันดับ 1 อย่าง Garmin เองก็ได้ออกสินค้าในไลน์นาฬิกาอัจฉริยะออกมามากกว่า 10 ตัวในปีเดียว ฉะนั้นในวันนี้ Mercular จะขอพูดสรุปถึง 5 Series ตัวท้อปของนาฬิกา Smart Watch ว่า Garmin ที่นำเข้ามาขายในประเทศไทยในปี 2023 ที่มากถึง 6 ซีรีย์ได้แก่ Venu, Vivoactive, Vivomove, Instinct, Forerunner และ Fenix แน่นอนว่าถ้าเกิดจะให้เลือกซื้อกันแบบไม่รู้อะไรเลยได้มึนหัวกันแน่นอน เลยมีคำถามยอดฮิตว่า Garmin รุ่นไหนดี? เราจึงขอจัดกลุ่มเจ้านาฬิกาทั้ง 6 ซีรีย์นี้ให้ดูกันตามประเภทการใช้งาน

สำหรับนิยามของ Lifestyle Smartwatch ก็จะเป็นนาฬิกาที่เน้นการใช้งานติดตามสุขภาพเป็นหลัก อย่างเช่นการดื่มน้ำ หรือการติดตามการนอน/ความเครียด แม้จะมีฟังก์ชั่นการออกกำลังกายไม่ได้โดดเด่นเท่ากับ Sport Series แต่จะได้ในเรื่องของหน้าจอที่มีสีสันสวยงาม และการออกแบบที่หรูหราสวยงาม สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส เหมาะกับผู้ใช้งานในสังคมทำงาน สังคมเมืองที่อาจจะไม่ได้มีเวลาออกกำลังกายมาก และต้องการความช่วยในการดูแลสุขภาพเป็นหลัก โดยภายในซีรีย์ Lifestyle Smart watch ปีนี้ที่ออกมาก็จะอยู่ในช่วงราคาประมาณปลายพัน ต้นหมื่น และจะมีตัวสำคัญ ๆ ได้แก่

1.Garmin Venu SQ 

สมาร์ทวอชจาก Venu "รุ่นล่าสุด" เน้นที่การใช้งานครบครับเทียบเท่ารุ่นอื่น ๆ ในแนวเดียวกันด้วยราคาที่ถูกกว่า และขนาดที่เล็กลงให้อารมณ์ Apple Watch

2.Garmin Venu 

สมาร์ทวอชตัวท้อปของไลฟ์สไตล์ซีรีย์ที่มาพร้อมกับหน้าจอที่สวยที่สุดอย่างจอ AMOLED

3.Garmin Vivoactive 4 

การทำงานเหมือนกับ รุ่น Venu แต่จอจะยังเป็นรุ่นเก่า แต่ก็กินแบตน้อยกว่า และมีราคาประหยัด

4.Garmin Vivoactive 3 Elements 

ตัวท้อปของสายบัตเจทที่ใครอยากได้สมาร์ทวอชสายแฟชั่นในราคาหลักพัน

Hybrid Smartwatch จัดว่าเป็นเทรนด์ใหม่ของตลาด Smartwatch ที่เน้นการออกแบบ และรูปลักษณ์ที่ดึงเอานาฬิกา Analog เข้ามาผสม ทำให้มีความคลาสสิคสามารถใส่เข้ากันได้กับทุกสถานะการณ์ ในขณะเดียวกัน ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างครบถ้วนครบครัน ไม่ต่างกับ Lifestyle Watch ทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการติดตามสุขภาพที่ครบครัน หรือการออกกกำลังกายตัวนาฬิกาไฮบริดนี้ก็สามารถทำงานได้เทียบเท่านาฬิกาอัจฉริยะตัวอื่นของ Garmin ทั้งหมด เรียกได้ว่าเป็นตัวที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานทั้งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ สำหรับคนที่ชื่นชอบความคลาสสิคนั่นเอง โดยภายในซีรีย์ Vivomove 3 Hybrid Smartwatch ปีนี้ก็มีช่วงราคาอยู่ที่หลักพันปลายๆ และจะมีตัวสำคัญ ๆ ได้แก่ 

5.Garmin Vivomove 3s

นาฬิกาไฮบริดหน้าปัดขนาดเล็ก มีฟีเจอร์การทำงานเทียบเท่ารุ่นอื่น แต่จอแสดงผลเป็นแบบสีเดียว

6.Garmin Vivomove 3

นาฬิการุ่นกลางขนาดหน้าปัดค่อนข้างใหญ่ จอแสดงผลสีเดียว

7.Garmin Vivomove Style

หน้าเรือน 42 มม. วัสดุพรีเมี่ยมกว่ารุ่นเล็กกว่า 2 รุ่นหน้า ทำงานจอสี

Sport Smartwatch นั้นก็คือนาฬิกาสำหรับใช้ออกกำลังกายเป็นหลัก โดยสมาร์ทวอชตัวท้อปสำหรับออกกำลังกายที่โดดเด่นในปี 2023 มาจากซีรีย์กีฬายอดนิยมของช่วงท้ายทศวรรษนี้อย่างการวิ่งมาราธอน โดย Forerunner Series ที่มีช่วงราคาอยู่ที่หลักพันไปถึงหมื่นบาทต้นๆ แม้ว่าจะเป็น Smartwatch สำหรับวิ่ง แต่ภายในนั้นยังมีฟังก์ชั่นออกกำลังกายและสันทนาการอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย รวมถึงแอพพลิเคชั่นที่ช่วยพัฒนาศักยภาพร่างกายให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย โดยรุ่นไหนดีนั้นหลัก ๆ ที่วางขายในปีนี้ก็ประกอบไปด้วย

8.นาฬิกา Garmin Forerunner 255 Smart Watch

สมาร์ทวอทซ์สายวิ่งยอดนิยม นาฬิกา Garmin รุ่นกลางของซีรีส์ Forerunner ทีมาพร้อมกับความสามารถและฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การใช้งาน เหมาะสำหรับการวิ่งที่หลายหลาย พร้อมฟังก์ชันการตรวจวัดสุขภาพ และโหมดกีฬาให้เลือก

9.นาฬิกา Garmin Forerunner 255 Music Smart Watch Black

สมาร์ถวอทซ์ Garmin รุ่นนี้จะมาพร้อมกับสเปกภายในและฟีเจอร์ต่างๆ เหมือนกับในรุ่น Garmin Forerunner 255 แต่ในเวอร์ชั่น Garmin Forerunner 255 Music จะสามารถดาวน์โหลดเพลงจากแพลตฟอร์ม Streaming มาเก็บไว้ ใช้ฟังเพลงจากนาฬิกาได้ทันที

10.นาฬิกา Garmin Forerunner 955 Smart Watch Whitestone

Smartwatch สายวิ่งรุ่นท๊อปสุดของซีรีส์ Forerunner สำหรับนักวิ่งมือโปร โดยในรุ่น 955 นั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอแบบ Touchscreen ที่ใช้งานได้ง่ายและสะดวกสบาย พร้อมกับการรองรับการใช้งานอื่นๆ ทั้งโหมดกีฬาและการฝึกต่างๆ ที่หลากหลายขึ้น

11.Garmin Forerunner 45/45s

เหมาะสำหรับผู้สนใจเริ่มใช้งาน Smart watch ด้วยราคาหลักพัน เข้ากันได้กับการวิ่ง Half-Marathon ไม่มีฟังก์ชั่นการว่ายน้ำ แต่สามารถลงน้ำลึกได้สูงถึง 50 เมตร

12.Garmin Forerunner 245

เหมาะสำหรับการวิ่งมาราธอน และมีฟังก์ชั่นที่ครอบคลุมการออกกำลังกายทั้งบนบก และในน้ำ นอกจากนั้นยังสามารถใช้งานเกี่ยวกับเพลงได้เต็มรูปแบบในรุ่น Forerunner 245 Music ขึ้นไปอีกด้วย

13.Garmin Forerunner 745

ที่มีการใช้งานเหนือกว่า Forerunner แทบจะทุกอย่างนอกจากขนาดหน้าปัดที่เล็กกว่าเท่านั้น สำหรับผู้ใช้งานที่เน้นความคุ้มค่านับว่าพลาดไม่ได้

14.Garmin Forerunner 945

ที่เน้นการพัฒนาศักยภาพของผู้ใช้งาน และฟีเจอร์ในการใช้งานกับการวิ่งทางไกลไปจนถึงไตรกีฬา เป็นเรือนท้อป ตัวจบของสายวิ่ง

สำหรับ Sportwatch นั้นจัดได้ว่าเป็นซีรีย์ใช้งานของ นาฬิกาสมาร์ทวอชที่จำแนกการใช้งานยิบย่อยมาก ๆ ยิ่งกับแบรนด์ใหญ่ก็มีแยกย่อยเพิ่มรายละเอียดลงไปในกีฬาต่าง ๆ แยกเป็นรุ่นเฉพาะไป ซึ่งอีกรุ่นที่น่าสนใจที่ออกมาใหม่ในปีนี้น่าจะเป็นที่ถูกใจของสายลุยทั้ง สาย Extreme หรือ Outdoor อย่าง รุ่น Instinct สมาร์ทวอชที่จะส่งให้คุณได้ทำตามสัญชาตญาณของตัวเอง ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของตัวเรือนที่ทนทานมาก ๆ แต่แลกมาด้วยหน้าจอขาว-ดำ เป็น Smartwatch ที่เน้นการใช้งานอย่างแท้จริง นอกจากนั้นราคาก็ยังถือว่าถูกมาก ๆ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหน้าใหม่งบกลางๆ

15.Garmin Instinct Solar

สมาร์ทวอทซ์สายอึดรุ่นนี้เป็นเวอร์ชันอัพเกรดจากรุ่น Garmin Instinct โดยที่ในรุ่นนี้จะสามารถรองรับการชาร์จแบตเตอรีด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และสามารถใช้งานได้นานถึง 54 วัน จะอยู่ที่ไหน ก็ไม่ต้องกลัวแบตหมด

16.Garmin Tactix Delta Solar

สมาร์ทวอทซ์ Garmin สายอึดรุ่นนี้มาพร้อมกับมาตรซานความทนทานในระดับ Military-grade ควบคู่ไปกับโหมดยุทธวิธีทางทหาร และระบบ GPS เซ็นเซอร์และโหมดการออกกำลังกายที่หลากหลาย พร้อมกับรองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่อง

17.Garmin Descent G1 Solar

สมาร์ทวอทซ์สายทนรุ่นี้ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานแบบ Adventure โดยเฉพาะกับการดำน้ำ ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการดำน้ำโดยเฉพาะ สามารถใส่ลงน้ำได้ถึง 100 เมตร และยังรองรับการชาร์จพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย

18.Garmin Instinct 2

นาฬิกาสุดอึดรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบ GPS ที่แม่นยำ ใช้งานได้ยาวนานถึง 65 วัน กันน้ำได้ถึง 100 เมตร พร้อมกับเซนเซอร์ตรวจจับสุขภาพและโหมดออกกำลังกายที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ

19.Garmin Instinct

นาฬิกาสุดทนทานในงบหมื่นต้น ๆ ที่ใช้มาตรฐานทางการทหารในการออกแบบ ทำให้ได้ความทนทานแข็งแรงในระดับสูงสุด เหมาะสำหรับการใช้งานที่สมบุกสมบัน

20.Garmin Instinct Tactical

นาฬิกาอัจฉริยะที่เหมือนกับรุ่น Instinct เพิ่มเติมคือโหมดยุทธวิธีเหมาะกับการใช้ในการทหารเช่น โหมดสำหรับใช้งานรว่มกับ Night Vision Goggles หรือโหมดช่วยเหลือสำหรับการโดดร่ม เป็นต้น

Overall Smartwatch อย่างซีรีส์ Fenix ถือว่าเป็นสามาร์ทวอชที่ดึงเอาจุดเด่นของรุ่นก่อน ๆ หน้า ทำให้มันโดดเด่นไปด้วยการใช้งานออกกำลังกายที่หลากหลายแบบ รุ่น Forerunner การใช้งานเพื่อการสำรวจและเดินทางไกลและวัสดุที่ทนทานแข็งแรงแบบ รุ่น Instinct ระบบติดตามสุขภาพที่ยอดเยี่ยม ดีไซน์ที่สวยทันสมัยแบบ รุ่น Vivoactive แต่ก้ทำให้มันมีรายละเอียดในการซื้อเยอะมาก ๆ และช่วงราคาที่จัดว่ากว้างตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ จนถึงปลายเลยที่เดียว โดย Mercular ขอหยิบมาอธิบายเฉพาะที่นำมาวางขายในไทยตามนี้ครับ 

21.Garmin fenix 7

สุดยอดสมาร์ทวอทซ์ Multi Sport รุ่นล่าสุด ตอบโจทย์การใช้งานด้วยหน้าจอระบบสัมผัสที่สะดวกสบาย พร้อมกับระบบ GPS ที่แม่นยำ โหมดกีฬาที่มีให้เลือกหลากหลาย การตรวจวัดสุขภาพที่มีความละเอียด ฟีเจอร์แนว Lifestyle ที่มีให้เลือกหลากหลาย ตอบโจทย์ในทุกการใช้ง

22.Garmin Fenix 6

ชื่อรุ่นพื้นฐานขนาดเรือน 47 มม. เน้นใช้งานเพื่อการสำรวจโดดเด่นด้วยฟีเจอร์ควบคุมแบตเตอรี่แบบ Manual

23.Garmin Fenix 6s/x

ชื่อรุ่นสำหรับบ่งบอกขนาดหน้าจอโดย 6s จะเป็นรุ่นเล็กตัวเรือนอยู่ที่ 42 มม. และ 6x ที่เป็นรุ่นใหญ่ ขนาด 51 มม.

24.Garmin Fenix 6 Pro and Sapphire

เพิ่มหน้าจอ Sapphire Crystal ทนทานต่อรอยขีดข่วน ด้วยค่าความแข็ง 9.0 ที่เป็นรองแค่เพชร

25.Garmin Fenix 6 Solar

เพิ่มฟีเจอร์ชาร์จพลังงานด้วยพลังแสงอาทิตย์ช่วยยืดอายุการใช้งานให้กับแบตนาฬิกาเมื่อใช้งานอย่างต่อเนื่อง

ก็จบกันไปแล้ว กับสรุปโดยย่อของ Smartwatch Garmin รุ่นไหนดี คือที่สุดของตัวท้อปของปี 2023 ที่เรียกได้ว่าขายดีกันเทน้ำเทท่ากันทุกชอปเพราะตอบโจทย์การใช้งานไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัด แต่ถ้าใครคิดว่านาฬิกาอัจฉริยะกึ่งไลฟ์สไตล์อย่าง Garmin นั้นไม่ตอบโจทยการใช้งานก็ลองเข้าไปที่บทความ "รวมสมาร์ทวอช Suunto ยอดฮิต" ที่เราสรุปช้อมูลของสปอร์ตวอช แบรนด์คู่แข่งของ Garmin เอาไว้ให้แล้ว สำหรับใครที่ชื่นชอบ Smart watch ตัวไหนก็อย่าลืมไปเลือกดูเลือกซื้อได้ใน Mercular.com เลย เพราะนอกจากจะแล้วเรายังส่งเร็วแล้ว เรายังมีโปรโมชั่นและบทความดี ๆ อีกมากมายให้คอยติดตามกันอย่างต่อเนื่อง