แนะนำ 5 หูฟังไอแพด เชื่อมต่อง่าย ใช้งานสะดวก

19 พ.ค. 2565

แนะนำ 5 หูฟังไอแพด เชื่อมต่อง่าย ใช้งานสะดวก

หากพูดถึงอุปกรณ์ Smartphone ยอดนิยมเชื่อว่าผู้ใช้งานหลายๆ คนย่อมน่าจะต้องนึกถึง Smartphone อัจฉริยะจากค่าย Apple อย่าง Apple iPhone รวมถึงเป็นเจ้าของและใช้งานเป็นโทรศัพท์มือถือหรือ Smartphone เครื่องหลักกันอย่างแน่นอน และนอกจาก iPhone แล้วอุปกรณ์ Smart Gadget ที่ได้รับความนิยมสูงไม่แพ้กันก็คือ Apple iPad ที่แม้จะมีจุดเด่นที่ต่างกันอย่างหน้าจอที่ใหญ่กว่า และใช้แนบหูเพื่อโทรศัพท์ไม่ได้ แต่ด้านฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ก็จัดเต็มและใช้งานได้อย่างครบถ้วนไม่แพ้กัน ซึ่งแน่นอนว่าในยุคนี้ Smart Gadget ย่อมต้องมาควบคู่กับหูฟังเพื่อตอบโจทย์การเล่นเพลง ดูหนัง เล่นเกม และ Multimedia ต่างๆ ในเวลาที่ไม่ต้องการเปิดเสียงออกลำโพงเพื่อรบกวนใคร ทำให้ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเอาใจผู้ใช้งาน iPad ที่กำลังมองหาหูฟังที่ใช้งานร่วมกันได้อย่างลื่นไหล ทาง mercular.com จึงได้ทำการรวบรวม 5 หูฟังไอแพด เชื่อมต่อง่าย ใช้งานสะดวก มาเป็นตัวเลือกให้ได้ นำไปตัดสินใจเลือกซื้อ หูฟังไอแพดกันในบทความนี้แล้ว โดยจะมีรุ่นไหนบ้างและแต่ละรุ่นจะน่าสนใจมากแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ


5 หูฟังใช้กับ iPad ในบทความนี้


1.หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro

หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro ราคา


สเปคเด่น


การสวมใส่: In Ear


การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0


ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี


แบตเตอรี่: 4.5 ชั่วโมง (รวมเคส 24 ชั่วโมง)


มาตรฐานกันน้ำ: IPX4

สำหรับ หูฟังไอแพด รุ่นแรกในบทความนี้ที่พูดเลยว่าสำหรับ หูฟัง iPad คงไม่มีแบรนด์ใดที่จะทำหูฟังมาให้ใช้งานควบคู่ไปได้อย่างลื่นไหลพร้อมฟังก์ชันใช้งานร่วมกันที่ครบถ้วนจัดเต็มไปได้มากกว่าแบรนด์ Apple อย่างแน่นอน โดย Apple AirPods Pro มาพร้อมชิพ Apple H1 ที่ทำให้เชื่อมต่อกับ iPad ได้อย่างง่ายดายเพียงแตะเดียวผ่าน Pop-Up การเชื่อมต่อที่จะขึ้นมาเมื่อนำไปวางไว้ใกล้กับ AirPods นอกจากการเชื่อมต่อที่ง่ายดายแล้ว การสลับไปใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ของ Apple ก็ยังง่ายดายมากๆ เพียงกดเล่นเพลงหรือใช้งานหูฟัง ไอแพดจากอุปกรณ์นั้นๆ ตัวหูฟังก็จะสลับไปเชื่อมต่อกับอีกอุปกรณ์โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้งาน Siri ได้ตลอดเวลาผ่านการออกเสียงพูด “สวัสดี Siri” นอกจากชิพ H1 ที่เป็นจุดเด่นแล้ว ตัวหูฟังยังมาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่สมกับความเป็น Apple จนหูฟังรุ่นอื่นหลายๆ รุ่นนำไปใช้เป็นแรงบันดาลใจ รวมถึงด้านการสวมใส่ที่จะเรียกว่าเป็นรุ่นแรกๆ ของวงการก็ได้ที่ออกแบบท่อระบายอากาศภายในให้สามารถถ่ายเทแรงดันได้ ผลคือเป็นหูฟัง In-Ear ที่ใส่สบายหูที่สุด ใส่แล้วไม่อึดอัดหรือรู้สึกว่าถูกอุดหูแบบหูฟัง In-Ear ทั่วๆ ไป อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนที่ทำได้ยอดเยี่ยมในอันดับต้นๆ ของวงการจนหูฟังหลายๆ รุ่นจากหลายๆ แบรนด์ต่างต้องนำ AirPods Pro ไปทดสอบกับหูฟังรุ่นใหม่ๆ อยู่เสมอ เท่านั้นยังไม่พอการใช้งาน Apple AirPods ร่วมกับ iPad ยังทำให้สามารถใช้งานระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos และ Spatial Audio เมื่อใช้ร่วมกับ Apple Music, Apple TV และแอปดูหนัง, เล่นเพลงอื่นๆ ที่รองรับอีกด้วย

ข้อดี


  • ใส่สบายหูไม่อึดอัดหูแบบ In-Ear ทั่วๆ ไป
  • ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทเป็นเบอร์ต้นๆ ของวงการ
  • ชิพ Apple H1 ใช้งานกับอุปกรณ์ Apple ได้สมบูรณ์แบบ
  • ไมค์โทรศัพท์ชัดมากหาคู่แข่งที่สูสีได้ยากมากๆ

ข้อควรระวัง


  • แบตเตอรี่ใช้งานต่อครั้งเพียง 4.5 ชั่วโมงเท่านั้น น้อยไปหน่อย
  • ใช้งานกับ Android ได้แต่จะไม่ครบทุกฟังก์ชันแบบ Apple
หูฟังไร้สาย Apple AirPods Pro ใส่สบาย

2.หูฟัง Apple AirPods (3rd generation)

หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ราคา


สเปคเด่น


การสวมใส่: Earbud


การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0


ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): ไม่มี


แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง (รวมเคส 30 ชั่วโมง)


มาตรฐานกันน้ำ: IPX4

หูฟังไอแพด รุ่นที่ 2 กับ หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ที่รุ่นนี้เปลี่ยนมาเป็นการสวมใส่แบบ Earbud ในรูปร่างหน้าตาแบบเดียวกับ AirPods Pro โดยภาพรวมการใช้งานทั้งหมดนั้นยังคงฟังก์ชันแบบเดียวกับ AirPods Pro แต่ในรุ่นนี้จะตัดในส่วนของการตัดเสียงรบกวนหรือ Active Noise Cancelling ออกไปนั่นเองโดย หูฟัง iPad Apple AirPods (3rd generation) มีน้ำหนักที่เบาเพียงข้างละ 4.28 กรัมเท่านั้น มาพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth 5.0 เชื่อมต่อได้ง่ายกับอุปกรณ์ Apple เพียงสัมผัสเดียวผ่าน Pop-Up สามารถสลับไปใช้งานและควบคุมได้จากทุกอุปกรณ์ Apple ที่ใช้ ID เดียวกันด้วย Chipset อัจฉริยะอย่าง Apple H1 ภายในตัว ตัวหูฟังมาพร้อมไมโครโฟนที่รับเสียงได้คมชัดในระดับผู้นำของวงการ และยังมาพร้อมเซ็นเซอร์ตรวจจับผิวหนังหรือเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ที่จะเล่นและหยุดโดยอัตโนมัติ พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 และแบตเตอรี่ที่ในรุ่นนี้ก็ใช้งานได้นานถึง 6 ชั่วโมง จากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้รวมเป็น 30 ชั่วโมง รวมถึงตัวเคสเองก็มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX4 และยังรองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe

ข้อดี


  • เชื่อมต่อไร้สายเสถียรและง่ายดายผ่าน Pop-Up (iOS)
  • รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos
  • ระบบเสียง Spatial Audio ขับเสียงแบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ
  • เคสรองรับการชาร์จไร้สาย MagSafe

ข้อควรระวัง


  • ใช้งานกับ Android ได้แต่อาจจะไม่ได้ฟังก์ชันครบครัน
  • มาตรฐานกันน้ำ IPX4 เท่านั้นล้างน้ำไม่ได้
Active หูฟัง Apple AirPods (3rd generation) ใส่สบาย

3.หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone

หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone ราคา


สเปคเด่น


การสวมใส่: Over Ear


การเชื่อมต่อ: Bluetooth 5.0, AUX/3.5 mm.


ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี


แบตเตอรี่: 20 ชั่วโมง


มาตรฐานกันน้ำ: ไม่มี

หูฟังไอแพด รุ่นต่อไปขอแนะนำ หูฟัง Over Ear จากแบรนด์ Apple กับ หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone ที่โดดเด่นด้วยการสวมใส่ที่สบายหู รูปร่างหน้าตาสุดหรูไม่ซ้ำใคร ฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวนที่ยอดเยี่ยม การเชื่อมต่อที่เสถียรและง่ายดายเมื่อใช้งานกับอุปกรณ์ของ Apple รวมถึงจุดเด่นด้านแนวเสียงที่นอกจากจะให้เสียงที่ฟังสนุก ครบถ้วนทุกย่านเสียงด้วย EQ แบบปรับอัตโนมัติให้เข้ากับแนวเสียงที่กำลังฟังอยู่มากที่สุดแล้ว ยังมาพร้อมความสามารถที่เหนือกว่าหูฟังหลายๆ รุ่นในปัจจุบันนี้อย่างการรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos ร่วมกับเทคโนโลยี Spatial Audio ที่เสียงจะหมุนไปตามการหันของศีรษะ ซึ่งทำให้ประสบการณ์การดูหนังผ่าน Smartphone ที่บ้านนั้นเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากระบบเสียง Stereo ธรรมดาก็กลายเป็นเสียงรอบทิศทางแบบเดียวกับประสบการณ์ในโรงภาพยนตร์อีกด้วย

ข้อดี


  • Earcup แบบแม่เหล็กถอดเปลี่ยนง่าย
  • รองรับเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos
  • ใช้งานกับอุปกรณ์ Apple ได้ง่ายดาย
  • ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิท

ข้อควรระวัง


  • มีน้ำหนักมากกว่ารุ่นอื่น ใส่นานๆ อาจเมื่อยได้
  • แบตเตอรี่ 20 ชั่วโมงถือว่าน้อยมาก
  • เคสสำหรับพกพาที่ไม่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนใดๆ
หูฟังไร้สาย Apple AirPods Max Wireless Headphone ใส่สบาย

4.หูฟัง Beats Studio Buds True Wireless

สเปคเด่น


การสวมใส่: In Ear


Bluetooth: 5.2


ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี


แบตเตอรี่: 8 ชั่วโมง (รวมเคส 24 ชั่วโมง)


มาตรฐานกันน้ำ: IPX4

รุ่นที่ 4 ของ หูฟังไอแพด ในบทความนี้กับหูฟังจากแบรนด์ Beats ภายใต้การดูแลของ Apple กับ หูฟัง Beats Studio Buds True Wireless ที่แน่นอนว่าเป็น การดูแลของ Apple ทั้งทีก็จะต้องใช้งานกับ iPad ได้ง่ายดาย ลื่นไหล และครบถ้วนทุกฟังก์ชันอย่างแน่นอน โดยหูฟัง Beats Studio Buds True Wireless เป็นหูฟัง True Wireless จากแบรนด์ Beats ที่ฉีกแนวเดิมๆ ไปอย่างสิ้นเชิง ทั้งรูปร่างหน้าตาสไตล์ใหม่ และแนวเสียงที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่ผู้ใช้งานหลายๆ คนครหาว่า Beats เสียงไม่ดีเท่าที่ควร ในรุ่นนี้จึงมาพร้อมแนวเสียงแบบใหม่ที่ปรับจูนมาเป็นอย่างดีและยังมาพร้อมกับระบบ Active Noise Canceling (ANC) ปรับการใช้งานได้ถึง 3 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น ANC on, ANC off และ Transparency Mode และยังมาพร้อมระบบเปิดการใช้งาน Siri ด้วยการพูดว่า “Hey Siri” อีกด้วย ด้านการเชื่อมต่อใช้เป็น Bluetooth 5.2 รุ่นใหม่ล่าสุดที่สามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง iOS และ Android ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 8 ชั่วโมง และชาร์จเพิ่มจากเคสได้รวมเป็น 24 ชั่วโมง ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ไม่กลัวเหงื่อและละอองน้ำด้วยมาตรฐาน IPX4 ส่วนของแนวเสียงได้มีการปรับปรุง Acoustic chamber รวมถึง Driver แบบ Dual-element diaphragm ทำให้เสียงมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

ข้อดี


  • เสียงดีขึ้นแบบสัมผัสได้ตั้งแต่ฟังครั้งแรก
  • ตัดเสียงรบกวนได้เงียบสนิทไม่แพ้ AirPods Pro

ข้อควรระวัง


  • ไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
  • มาตรฐานกันน้ำ IPX4 เท่านั้นล้างน้ำไม่ได้
หูฟัง Beats Studio Buds True Wireless ใส่สบาย

5.หูฟัง Beats Fit Pro True Wireless

สเปคเด่น


การสวมใส่: In Ear


Bluetooth: 5.0


ระบบตัดเสียงรบกวน (ANC): มี


แบตเตอรี่: 6 ชั่วโมง (รวมเคส 24 ชั่วโมง)


มาตรฐานกันน้ำ: IPX4

หูฟังไอแพด รุ่นสุดท้ายในบทความนี้กับ หูฟัง Beats Fit Pro True Wireless หูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear จากแบรนด์ Beats ภายใต้การบริหารของ Apple ที่แน่นอนว่ามาพร้อมจุดเด่นอย่างการเชื่อมต่อกับ iPad ที่ง่ายดาย กับขนาดที่เล็กกะทัดรัดและด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ เพียงข้างละ 5.6 กรัมเท่านั้น จุดเด่นของรุ่น Beats Fit Pro ก็คือการตัดเสียงรบกวนหรือ Active Noise Cancelling โดยสามารถตัดเสียงรบกวนได้อย่างเงียบสนิทในระดับเดียวกับ AirPods Pro และยังมาพร้อมโหมด Transparency ที่สามารถรับเสียงจากภายนอกได้อย่างคมชัดในระดับเดียวกับขณะไม่สวมใส่หูฟังอยู่ นอกจากนี้ยังมาพร้อมไมโครโฟนคู่แบบบีมฟอร์มิ่งที่รับเสียงพูดได้คมชัด ตัดเสียงแทรกและเสียงลมได้ดี ทำให้สนทนาได้ชัดเจนรู้เรื่องไม่พลาดในทุกการติดต่อและทุกสถานการณ์ และด้วยความที่ Beats Fit Pro เป็นหูฟังจาก Apple นั่นจึงทำให้มาพร้อม Chipset ภายในอย่าง Apple H1 ที่ให้สัญญาณที่มีความเสถียรสูง รวมถึงยังเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดายเพียงแตะเดียวผ่าน Pop-Up มาพร้อมมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 ด้านพลังงานก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 6 ชั่วโมง จากนั้นจึงชาร์จเพิ่มจากเคสชาร์จได้อีกรวมเป็น 24 ชั่วโมง พร้อมกับฟังก์ชันชาร์จเร็ว Fast Fuel ตามมาตรฐานของ Beats ใช้เวลาชาร์จเพียง 5 นาทีสามารถใช้งานได้ 1 ชั่วโมง

ข้อดี


  • Chipset อัจฉริยะ Apple H1 ภายในตัว ใช้งานได้ลื่นไหล
  • รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ง่ายดายเพียงแตะเดียว
  • รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos แบบสมจริง
  • ระบบเสียง Spatial Audio แบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ

ข้อควรระวัง


  • Bluetooth 5.0 เท่านั้น น่าจะเป็น 5.2
  • ไม่รองรับ Codec Hi-Res Wireless
หูฟัง Beats Fit Pro True Wireless ใส่สบาย

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ 5 หูฟังไอแพด เชื่อมต่อง่าย ใช้งานสะดวก ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น หูฟังไอแพด ที่เชื่อมต่อเข้ากับ iPad ได้อย่างง่ายดาย และยังควบคุมรวมถึงใช้งานได้อย่างง่ายดายมากๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นส่วนของฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวนที่ตัดได้อย่างเงียบสนิท ไมโครโฟนที่สามารถรับเสียงได้อย่างคมชัด มาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อที่ทำให้สวมใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ และแบตเตอรี่ที่ต้องบอกเลยว่าอึดสุดๆ รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟังไอแพด และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ


ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟังไอแพด ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟังไอแพด รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ Mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2