รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ

เมื่อพูดถึงแบรนด์ หูฟัง ลำโพง และอุปกรณ์ Electronics ที่มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน มีสินค้าระดับตำนานมากมาย รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและได้รับการยอมรับจากสำนักต่างๆ รวมถึงมีกลุ่มผู้ใช้งานที่ชื่นชอบมากมายจนได้ชื่อเรียกว่า สาวกอารยธรรม กับแบรนด์ Sony นั่นเองครับ โดยเฉพาะสินค้าประเภท หูฟัง Sony ที่ในปัจจุบันมีหลากหลายรุ่นให้ได้เลือกจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มาพร้อมจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นความแตกต่างในด้านการสวมใส่ที่แต่ละรุ่นก็ล้วนมาพร้อมการออกแบบที่ทำให้สวมใส่ได้สบายหูมากที่สุด, การเชื่อมต่อที่มีความทันสมัย เชื่อมต่อได้ง่าย ให้สัญญาณการเชื่อมต่อที่มีความเสถียรสูงและรองรับ Codec ไร้สายความละเอียดสูงในระดับ Hi-Res Lossless, ฟังก์ชันการใช้งานที่ล้ำสมัยและพัฒนามาเป็นอย่างดีโดยเฉพาะฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวนที่ได้รับการยอมรับจากสำนักต่างๆ ว่าตัดเสียงรบกวนได้ยอดเยี่ยมเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ และที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือเรื่องของแนวเสียงที่ต้องยอมรับเลยว่า หูฟัง Sony เป็นหูฟังที่ให้เสียงที่ยอดเยี่ยม และฟังสนุกเป็นอันดับต้นๆ ของวงการ โดยเฉพาะย่านเสียงเบสที่เหล่าบรรดาผู้ใช้งานนั้นรู้กันเลยว่าหากมองหาหูฟังเบสหนัก หูฟังเบสหนัก Sony ตอบโจทย์ได้ครบตามความต้องการไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน

และเพื่อเป็นการเอาใจผู้ที่กำลังมองหา หูฟังเบสหนัก Sony และยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกซื้อหรือจับจองรุ่นใดดี หรือไม่แน่ใจว่ารุ่นใดจะมาพร้อมเบสที่หนักแบบ Extra Bass หรือสามารถปรับ EQ เน้นเบสหนักๆ Bass Boost ได้จาก หูฟังเบสหนัก Sony หลากหลายรุ่นที่มีให้ได้เลือกซื้อและจับจองเป็นเจ้าของ ในครั้งนี้ mercular.com จึงได้รวบรวมเอา 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ มาแนะนำเป็นตัวเลือกให้กับผู้อ่านทุกคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีรุ่นใดบ้าง และแต่ละรุ่นจะน่าสนใจแค่ไหนนั้น เราไปดูกันเลยครับ

5 หูฟังเบสหนัก Sony

• หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Over Ear Headphone
• หูฟัง Sony INZONE H9 Wireless Gaming Headset
• หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless
• หูฟัง Sony LinkBuds S WF-LS900N True Wireless
• หูฟัง Sony WH-XB910N Wireless Over Ear Headphone

รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ รุ่นแรกกับ หูฟัง Sony WH-1000XM5 Wireless Over Ear Headphone สวมใส่แบบ Over Ear รูปร่างหน้าตาสุดเท่ สวมใส่ได้สบายหูตลอดวันด้วยน้ำหนักเพียง 250 กรัมเท่านั้น จุดเด่นของรุ่นคือการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling เลือกใช้ Chipset ประมวลผล V1 และ QN1 ที่ทำให้ตัดเสียงรบกวนได้อย่างยอดเยี่ยม และยังมาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนมากถึง 8 ตัว ในขณะเดียวกันฟังก์ชันรับเสียงจากภายนอก Transparency ก็รับเสียงได้คมชัดเป็นธรรมชาติด้วยเช่นกัน การเชื่อมต่อเลือกใช้เป็น Bluetooth 5.2 รองรับการส่งสัญญาณเสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-Res Lossless ผ่าน Codec LDAC และเชื่อมต่อมีสายผ่าน AUX/3.5 mm. สำหรับฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ ก็จัดเต็มไม่ว่าจะเป็นไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์แบบ Beamforming รวม 4 ตัว และแบตเตอรี่ภายในตัวที่ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 30 ชั่วโมง พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็วเพียง 3 นาทีใช้งานได้ 3 ชั่วโมง สำหรับสเปคเสียงมาพร้อมไดรเวอร์เสียงขนาดกำลังดีข้างละ 30 มิลลิเมตร ปรับจูนเสียงมาเป็นอย่างดีพร้อมเทคโนโลยี DSEE Extreme ที่จะเพิ่มเติมรายละเอียดเสียงที่ถูกบีบอัดให้ใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับ ซึ่งหากไม่ถูกใจแนวเสียงก็ยังสามารถปรับแนวเสียงโดยเฉพาะเสียงเบสด้วย Bass Boost ได้ผ่าน App Sony | Headphones Connect

รุ่นที่ 2 ของ รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ รุ่นแรกกับ หูฟัง Sony INZONE H9 Wireless Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งไร้สาย สวมใส่แบบครอบหู โดดเด่นด้วยรูปร่างหน้าตาสุดพรีเมียม ล้ำสมัยมาพร้อมโทนสีขาวดำสไตล์เดียวกับเครื่อง PlayStation 5 สวมใส่สบายหูด้วยวัสดุระดับพรีเมียมทั้ง Earcup ที่ออกแบบมาให้มีแรงกดทับกับใบหูน้อยที่สุด และ Headband ที่กว้างและถ่ายเทน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ปรับระดับได้มากถึง 10 ระดับ ใส่สบายตลอดวันด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 330 กรัม รองรับการใช้งานทั้งบน PC, Laptop และ PlayStation 5 เชื่อมต่อไร้สายครบถ้วนทั้งเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Wireless 2.4 GHz ที่ใช้งานร่วมกับ Wireless USB และเชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0 ระยะการเชื่อมต่อไกลถึง 10 เมตรโดยไม่มีอะไรกั้น จุดเด่นคือการตัดเสียงรบกวนผ่านเทคโนโลยี Dual Noise Sensor แบบเดียวกับที่ Sony ใช้บนหูฟังรุ่นเรือธงในซีรีส์ 1000X สามารถตัดเสียงได้เงียบสนิท มาพร้อมไมโครโฟนบูมที่รับเสียงได้คมชัด รองรับ Discord Certified และพับเก็บได้ รองรับการปรับตั้งค่าเพิ่มเติมผ่าน Software Inzone Hub ที่รองรับการใช้งานเฉพาะบน Windows เท่านั้น พร้อมไฟแสดงสถานะรูปวงกลมสุดเท่ที่ตัวหูฟังซึ่งมีเฉพาะในรุ่นนี้เท่านั้น รวมถึงยังมาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 32 ชั่วโมง แน่นอนว่าให้เสียงเบสที่ดังกระหึ่มด้วยสเปกเสียงอย่างไดรเวอร์ Dynamic ขนาดใหญ่ถึงข้างละ 40 มิลลเมตร พร้อมแม่เหล็กแบบ Neodymium ปรับจูนเสียงมาเป็นอย่างดีรวมถึงตัวไดรเวอร์เสียงยังรองรับระบบเสียงรอบทิศทาง 360 Spatial Audio อีกด้วย

รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ รุ่นที่ 3 กับ หูฟังไร้สาย Sony WF-1000XM4 True Wireless หูฟังไร้สาย True Wireless สวมใส่แบบ In-Ear รูปร่างหน้าตาออกแบบโดยอิงจากหลักสรีรศาสตร์จากการวิจัยที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 1982 การเชื่อมต่อเลือกใช้ Bluetooth 5.2 รองรับ Codec ไร้สายสำหรับฟังเพลง Lossless อย่าง LDAC ที่เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของทาง Sony รองรับการใช้งานแยกข้างได้อย่างอิสระ การตัดเสียงรบกวนก็ได้รับการอัพเกรดมาใหม่ทั้งหมด ทำงานร่วมกับไมโครโฟนและชิพใหม่ล่าสุดจากการวิจัยและพัฒนาของ Sony อย่าง Integrated Processor V1 และมาพร้อมโหมด Transparency รับเสียงภายนอก รวมถึงฟังก์ชัน Speak-to-Chat สวมใส่ออกกำลังกายได้ด้วยมาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ IPX4 แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงเมื่อเปิดโหมดการตัดเสียงรบกวน และ 12 ชั่วโมงเมื่อไม่เปิดหมวด ANC จากนั้นชาร์จแบตฯเพิ่มได้รวมเป็น 24 ชั่วโมง ตัวเคสรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi และแนวเสียงมาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 6 มิลลิเมตรที่ได้รับการปรับปรุงและปรับจูนเสียงมาเป็นอย่างดี รองรับการปรับแนวเสียง EQ และเพิ่มเบส Bass Boost ผ่าน App Sony | Headphones Connect ทำให้เสียงที่ได้นั้นยอดเยี่ยมครบถ้วน ฟังสนุกทุกย่านเสียงโดยเฉพาะย่านเบส

รุ่นที่ 4 จาก รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ กับ หูฟังไร้สาย Sony LinkBuds S True Wireless หูฟัง True Wireless สวมใส่แบบ In Ear สวมใส่สบายหูตลอดวันด้วยน้ำหนักเพียงข้างละ 4.8 กรัมเท่านั้น ใส่ออกกำลังกายได้สบายๆ ด้วยมาตรฐาน IPX4 การเชื่อมต่อเลือกใช้เป็น Bluetooth เวอร์ชัน 5.2 รองรับการใช้งานแยกข้างซ้าย-ขวาได้อย่างอิสระ และยังรองรับการส่งญาณเสียงความละเอียดสูงไร้สายผ่าน Codec LDAC มาพร้อมกับฟังก์ชันการรับเสียงจากภายนอกพร้อมการตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูง รวมถึงฟังก์ชัน Speak-to-Chat ด้านการใช้งานทั่วไปมาพร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ที่รับเสียงได้อย่างคมชัดทุกการติดต่อ รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างยาวนานถึง 6 ชั่วโมงต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง จากนั้นชาร์จเพิ่มจากเคสได้อีก 14 ชั่วโมงรวมแล้วใช้งานได้รวม 20 ชั่วโมง สำหรับแนวเสียงเลือกใช้เป็นไดรเวอร์ขับเสียงขนาด 5 มิลลิเมตรปรับจูนเสียงมาเป็นอย่างดี และยังมีเทคโนโลยีเสียง DSEE Extreme ที่จะเพิ่มเติมรายละเอียดเสียงที่ถูกบีบอัดให้ใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับ รองรับการปรับแนวเสียง EQ และเพิ่มเบส Bass Boost ผ่าน App Sony | Headphones Connect โดยแนวเสียงในภาพรวมมีความกลมกล่อมจะเน้นแนวฟังสบายก็ได้ หรือเน้นเบสหนักก็ยังได้

รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ รุ่นสุดท้ายกับ หูฟัง Sony WH-XB910N Wireless Over Ear Headphone มาพร้อมแนวเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และถูกใจคอเบสอย่างแน่นอนกับ Extra Bass ให้ย่านเบสที่หนักแน่นกระหึ่มถึงใจ ในขณะเดียวกันก็ให้ย่านเสียงกลางและสูงที่ครบถ้วนกลมกล่อมด้วยเช่นกัน โดยภาพรวมนั้นเป็นหูฟังครอบหูไร้สาย สวมใส่ได้สบายๆ ตลอดวันโดยไม่รู้สึกหนักหรืออึดอัดแต่อย่างใด มาพร้อมฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancelling (ANC) ด้านแนวเสียงก็โดดเด่นกว่ารุ่นใดๆ ด้วยเสียงเบสที่ลงได้ลึก ดังกระหึ่มถึงใจแบบ Extra Bass รวมถึงยังให้เสียงที่สมจริงในระดับที่ใกล้เคียงกับเสียงแบบ Hi-Res ด้วยเทคโนโลยี Digital Sound Enhancement Engine (DSEE) ที่จะช่วยคืนค่ารายละเอียดเสียงที่สูญเสียไประหว่างการบีบอัดเพื่อให้ได้เสียงคุณภาพสูงที่ใกล้เคียงกับเสียงต้นฉบับนั่นเอง

เป็นยังไงกันบ้างครับกับ รวม 5 หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนดี เบสกระหึ่มสะใจ ที่ทาง mercular.com ได้คัดเลือกมาแนะนำกันในครั้งนี้ โดยแต่ละรุ่นที่เลือกมานั้นรับรองได้เลยว่าเป็น หูฟังเบสหนัก Sony ที่แน่นอนว่ามาพร้อมเสียงเบสหนักดังกระหึ่มถึงใจ และยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน จัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสวมใส่ที่สบายกระชับหู รูปร่างหน้าตาที่ทันสมัย ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วนทั้งการตัดเสียงรบกวน ไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์ที่คมชัด มาตรฐานกันน้ำกันเหงื่อ และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน รับรองได้ว่าทั้ง 5 รุ่นที่นำมาแนะนำนั้นตอบโจทย์คนที่มองหา หูฟังเบสหนัก Sony และไม่รู้ว่าจะซื้อรุ่นไหนดีอย่างแน่นอนครับ

ซึ่งทาง mercular.com ก็หวังเป็นอย่างยิ่งครับว่าในบรรดา หูฟังเบสหนัก Sony ทั้งหมดจะมีรุ่นที่อยู่ในใจของผู้อ่านกันบ้างอย่างน้อยที่สุดก็ 1 รุ่น และหากอ่านแล้วรู้สึกอยากจับจอง หูฟังเบสหนัก Sony รุ่นไหนหรืออยากเข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถกดเข้าไปตามลิงค์ที่ให้ไว้ในแต่ละรุ่นได้เลยครับ ท้ายนี้ mercular.com ก็ต้องขอตัวลาไปก่อน ครั้งหน้าหากมีสินค้าใหม่ๆ รุ่นใดน่าสนใจอีก ก็จะรีบนำมาแนะนำกันแน่นอนครับ สำหรับครั้งนี้ สวัสดีครับ