ตอนนี้ไม่ว่ามองไปทางไหน ใครๆ ก็เริ่มใช้คัสตอมคีย์บอร์ดกันหมด ทั้งสำหรับทำงานและสำหรับเล่นเกม ต๊อกๆ แต๊กๆ สนั่นไปทั่ว การเข้ามาของคัสตอมคีย์บอร์ดทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งคีย์บอร์ดตั้งแต่เริ่มจนจบให้ออกมาเป็นคีย์บอร์ดในฝันของเรา หรือถ้าคิดว่าคัสตอมคีย์บอร์ดลึกเกินไป แมคคานิคอลคีย์บอร์ดสมัยนี้ก็สามารถปรับแต่งได้เยอะขึ้นตั้งแต่มี Hot-Swap เข้ามา สามารถเปลี่ยนสวิตซ์ได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องบัดกรี เมื่อปรับเปลี่ยนได้เยอะ อีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนชอบเปลี่ยน ชอบตามหา ชอบสะสมมากๆ คือ Keycaps ครับ

Keycaps (คีย์แคป) คือส่วนประกอบหนึ่งของคีย์บอร์ด เป็นส่วนที่ครอบกับสวิตซ์อยู่ ใช้สำหรับการกด มีการพิมพ์ตัวอักษรด้านบนเพื่อให้ผู้ใช้งานทราบว่ากำลังพิมพ์คำสั่งใด ตัวคีย์แคปมีขนาดที่หลากหลายตามตำแหน่งที่แตกต่างกันไป รวมถึงแตกต่างกันไปตาม Layout ของคีย์บอร์ด

Keycaps เมื่อก่อนมีดีไซน์และการตกแต่งที่เหมือนกันไปหมด เพราะออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานได้เท่านั้น แต่ในสมัยนี้ ทั้งการเข้ามาของแมคคานิคอลคีย์บอร์ดและคัสตอมคีย์บอร์ดที่ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนได้หลากหลายส่วน ทำให้มีแบรนด์และศิลปินขยันทำคีย์แคปออกมาเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เลือกสรรกันอย่างสนุกสนาน แล้วมันแบ่งได้กี่ประเภท แต่ละแบบมีความโดดเด่นอย่างไร แล้วจะเลือกซื้อแบบไหนถึงจะตอบโจทย์ทั้งเราและเข้าได้กับคีย์บอร์ดที่เราใช้ วันนี้ได้รู้กันแน่นอนครับ

แบ่ง Keycaps ตามวัสดุ

อย่างแรกที่เราสามารถแบ่งประเภทของ Keycaps ได้คือวัสดุ แต่ละวัสดุมีความโดดเด่นเฉพาะตัว มีความแข็งแรงคงทนแตกต่างกันไป และที่สำคัญ เสียงและสัมผัสการกดก็แตกต่างกันด้วยครับ จะมีวัสดุไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกัน

ABS

ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene) หรือที่เราคุ้นชินกับคำว่า พลาสติก ABS เป็นวัสดุที่ถูกทำ Keycaps มากที่สุด คีย์บอร์ดที่หลายคนใช้อยู่ในตอนนี้อาจใช้วัสดุ ABS อยู่ก็เป็นได้ ข้อดีของวัสดุ ABS คือมีราคาถูก เข้าถึงง่าย มีความยืดหยุ่นสูง นั่นทำให้ผู้ใช้งานถอดเข้าถอดออกได้อย่างสบายใจมากขึ้น ไม่หักง่าย แต่ก็มีข้อจำกัดตรงที่จะเกิดเงาได้ง่ายกว่า หากใช้คีย์บอร์ดเกมมิ่งแล้วกดปุ่ม WASD บ่อยๆ จะเห็นได้ว่าจะมีความเงากว่าตัวข้างๆ อีกอย่างที่ต้องระวังคือจะเหลืองได้ง่าย ต้องระวังเรื่องแสงแดด ไม่ควรวางไว้ที่มีแดดจัด

PBT

PBT (Polybutylene Terephthalate) พลาสติก PBT ถูกนิยมใช้งานมากขึ้น แม้จะมีราคาสูงกว่า ABS แต่แลกมากับความคงทนที่มากกว่า สัมผัสและเสียงกดแน่นกว่า ABS ขึ้นเงาได้ยาก มีความสากเล็กน้อยเมื่อได้ลองลูบ มีข้อจำกัดอยู่ที่เมื่อมันแข็งแรง ทนทานมากกว่า ความยืดหยุ่นจึงน้อยกว่า ABS อาจต้องระมัดระวังในการถอด Keycaps เพราะมันมีโอกาสบิดเบี้ยวหรือแตกหักได้ 

POM

POM (Polyoxymethylene) เป็นอีกวัสดุที่ถูกนิยมมากขึ้น โดดเด่นตั้งแต่สีและการสัมผัส โดย POM เป็นวัสดุที่มีสัมผัสคล้ายกับการจับสบู่ ลื่นๆ ส่วนมากมักทำสีที่ฉูดฉาด และหากคีย์บอร์ดมีไฟ RGB ไฟจะลอดผ่านขึ้นมาสวยงามเป็นอย่างมาก แต่ด้วยสัมผัสที่มันลื่นแบบแปลกๆ หนึบแบบพูดยาก ทำให้หลายคนอาจไม่ประทับใจในสัมผัสมากนัก แต่อย่างเพิ่งส่ายหน้าหนี มีอีกหลายคนเลยครับที่ชอบสัมผัสแปลกๆ นี้ รวมถึงสีของคีย์แคป POM และความสามารถที่ให้แสงลอดผ่านได้ ก็ทำให้มันสวยงามในแบบของตัวเอง

แบ่ง Keycaps ตาม Profile

Keycaps เองก็มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างกันออกไป มีความสูงต่ำไม่เท่ากัน ซึ่งส่งผลต่อการกดและเสียงด้วย โดยเราจะดูความสูงต่ำของคีย์แคปด้วยกัน 6 แถวตามคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐาน จะมี Profile ไหนบ้างที่นิยมใช้ มาดูกันครับ

Keycaps OEM Profile

เป็นหนึ่งใน Profile ที่เราพบเห็นมากสุดในปัจจุบัน แต่ละแถวมีความสูงต่ำไม่เท่ากัน เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้ว่าแต่ละแถวจะลาดเข้ามาประจบที่แถวกลาง ตัว Keycaps จะมีด้านนึงสูงกว่าอีกด้านเสมอ กดได้ถนัดมือมากครับ

Keycaps Cherry Profile

เป็น Profile ที่มีความคล้ายกับ OEM คือ แต่ละแถวมีความสูงต่ำไม่เท่ากัน แต่ละแถวจะลาดเอียงเข้ามายังแถวกลาง และมีด้านหนึ่งสูงกว่าอีกด้าน แต่มีความลาดเอียงน้อยกว่า OEM เล็กน้อย และมีความระดับความสูงของคีย์แคปน้อยกว่า OEM ครับ

Keycaps SA Profile

เป็นคีย์แคปที่มีความสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ Profile ที่กล่าวมาข้างต้น ออกลักษณะอวบๆ แต่ละแถวยังมีความลาดเอียงเข้าหาแถวกลาง และยังมีด้านหนึ่งสูงกว่าอีกด้าน โดยชนิดนี้จะมีเสียงกดดังกว่าเพราะมีขนาดเน้นไปทางสูง สวยไปอีกแบบครับ

Keycaps DSA Profile

เป็นคีย์แคปที่มีความสูงเท่ากันทุกตัว ระนาบเดียวกันหมดคล้ายกับคีย์บอร์ดบนโน๊ตบุ๊ค ข้อดีของ Profile นี้คือสามารถสลับปุ่มใช้งานได้ทุกตัวเลยครับเนื่องจากมีระดับเดียวกัน มีหลายคนเลยครับที่ชอบ Profile แนวนี้

แบ่ง Keycaps ตามการพิมพ์ตัวอักษร

ตัว Keycaps มีการพิมพ์ตัวอักษรที่แตกต่างซึ่งจะส่งผลถึงความคงทนของตัวอักษรและการลอดผ่านของไฟ RGB บนตัวคีย์บอร์ดด้วย ซึ่งปกติแล้วหากซื้อคีย์แคป ทางแบรนด์จะบอกอยู่เสมอว่าเป็นการพิมพ์ตัวอักษรแบบใดเพื่อให้ผู้ใช้งานประเมินได้ว่าเข้ากับคีย์บอร์ดที่ใช้อยู่หรือไม่ 

Pad Print

เป็นการพิมพ์ตัวอักษรที่พบได้ตามคีย์บอร์ดทั่วไปและคีย์บอร์ดสำนักงาน สังเกตได้ได้ง่ายเพราะเหมือนเป็นการแปะตัวอักษรลงไปเลย ลูบแล้วจะพบว่ามีความไม่เท่ากัน การพิมพ์แบบนี้จะมีอายุการใช้งานน้อย

หากกดปุ่มเดิมซ้ำๆ อย่างคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่มักใช้ปุ่ม WASD บ่อยครั้ง ปุ่มเหล่านี้จะจางหายได้เร็วกว่าปุ่มอื่นอย่างเห็นได้ชัด แต่ข้อดีคือมีราคาถูกครับ

Laser Etch

ใช้เลเซอร์แกะสลักลงไปบนเนื้อพลาสติก มีวิธีทำแบ่งย่อยลงไปอีก สังเกตได้จากผิวจะเรียบเสมอกัน ไม่นูน โดยการพิมพ์แบบนี้แสงไฟจะสามารถลอดผ่านได้ครับ

Dye Sublimation

เป็นวิธีที่ให้หมึกซึมลงไปในเนื้อคีย์แคป สามารถใช้งานวิธีนี้ได้กับ Keycaps แค่บางสีเท่านั้น แม้จะมีความคงทนสูง แต่ตัวอักษรจะไม่ค่อยคมครับ

Double-shot

วิธีนี้จะใช้พลาสติกสองชั้น มีกรอบด้านนอกและกรอบด้านใน มีความคงทนมาก เป็นวิธีที่ใช้ทำแคปสำหรับคีย์บอร์ดเกมมิ่ง หรือคีย์บอร์ดที่มีไฟ RGB เพราะแบบนี้แสงไฟจะสามารถลอดผ่านได้ แต่เป็นแคปที่มีราคาสูงมากครับ เพราะไม่ได้พิมพ์หรือสกรีนตัวอักษร แต่เป็นเนื้อพลาสติกอีกชิ้นนึงเลย

การซื้อ Keycaps ขึ้นอยู่กับความชอบและลักษณะการใช้งานเลยครับ ไม่มีตายตัว อย่างที่บอก นอกจากสวิตซ์ที่จะให้สัมผัสและเสียงที่แตกต่างกันไปแล้ว ตัว Keycaps เองก็มีผลต่อเสียงและการสัมผัสเช่นกัน แต่เรื่องที่ไม่อยากให้พลาดเหมือนใครหลายๆ คนที่ซื้อมาแล้วไม่สามารถใช้งานร่วมกับคีย์บอร์ดที่เรามีได้คือ ขนาดของมันครับ

Keycaps จะมีหน่วยวัดเป็นหน่วย U ซึ่งจะอ้างอิงจากตัวอักษร 1U = 1 คีย์แคปตัวอักษร หากทางแบรนด์คีย์บอร์ดไม่ได้บอกขนาดของคีย์แคปที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ วิธีวัดขนาดแบบง่ายๆ คือการนำคีย์แคปตัวอักษรมาเทียบกับคีย์แคปส่วนอื่นที่เราไม่มั่นใจ เช่น ขนาดของ Control, Shift, Enter, Spacebar และส่วนอื่นๆ ที่มีขนาดมากกว่าปุ่มตัวอักษร เพราะคีย์บอร์ดแต่ละตัวมี Layout ไม่เหมือนกัน แม้จะเห็นว่ามันยาวๆ แต่ก็อาจมีขนาดที่แตกต่างกันไปอย่าง Spacebar ก็มีขนาดต่างกันมากมายตั้งแต่ 6U, 6.25U, 6.5U, 7U และอีกมาก จะเห็นได้ว่ามีขนาดต่างกันนิดเดียวเองเท่านั้น แต่หากซื้อมาผิดขนาด ก็จะเบียดกับตัวอื่นและไม่สามารถใช้งานได้ครับ เรื่องขนาดจึงเป็นเรื่องหลักที่ผู้ใช้งานควรทราบเป็นอย่างแรกเลย

สมัยนี้ Keycaps มีให้เลือกมากมาย ทั้งคีย์แคปสวยๆ หรือคีย์แคปจากศิลปินดัง เข้าถึงง่าย ซื้อได้หลายช่องทางและมีราคาที่หลากหลายกันไป แต่การแข่งขันด้านนี้ก็สูง ไม่เพียงแต่ร้านค้าที่ต้องแข่งขันผลิตคีย์แคปออกมาให้ตรงกับความต้องการ แต่ผู้ซื้ออย่างเราๆ ก็ต้องแข่งขันกันซื้อให้ทันด้วย บางคีย์แคปผลิตออกมาน้อย แถมยังมีดีไซน์ที่สวยจนหลายคนหลงใหล ถ้ามาในราคารีเซล ก็มีหลังหักกันบ้าง แพงกว่าราคาเปิดตัวหลายเท่าเลย

ใครที่มีความสนใจในคัสตอมคีย์บอร์ดหรือแมคคานิคอลคีย์บอร์ด แต่ยังคงสับสนว่ามันต่างจากคีย์บอร์ดทั่วไปอย่างไร สามารถเข้าไปอ่านได้ที่ "Mechanical vs คีย์บอร์ดธรรมดา ต่างแค่ไหน?" คลิกที่นี่เลยครับ

หากกำลังมองหาคีย์แคปและอุปกรณ์เสริมสำหรับแมคคานิคอลคีย์บอร์ด ที่ Mercular เรามีสินค้าให้เลือกมากมายตั้งแต่คีย์บอร์ดไปจนถึงอุปกรณ์เสริม คัดสรรจากแบรนด์ดัง คุณภาพไว้ใจได้ มีให้เลือกอีกมากมายเลยครับ