หูฟังไร้สาย Plantronics BackBeat Go 810 Headphone Black
![empty-overall-rating](/images/empty-overall-rating.png)
![guarantee](/icons/badge-product-card/guarantee.png)
รับประกันโดยศูนย์ไทย (Systems 2000) ระยะเวลา 1 ปี
![officialDealer](/icons/badge-product-card/genuine.png)
เป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
![store](/icons/delivery.png)
แชทคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเลือกสินค้าที่ใช่สำหรับคุณ
รีวิว หูฟังไร้สาย Plantronics Backbeat Go 810
![thumbnail-plantronics-backbeat-go-810-headphone](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/images/products/2022/04/thumbnail-plantronics-backbeat-go-810-headphone.jpg)
รายละเอียดทั่วไป
สำหรับหูฟังไร้สาย Plantronics Backbeat Go 810 ถ้าเทียบในกลุ่มหูฟังตัดเสียงรบกวนของแบรนด์ Plantronics ต้องบอกเลยว่าตัว Backbeat Go 810 ถูกอัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นเดิมอย่าง Plantronics Backbeat Pro 2 ค่อนข้างมาก อย่างแรกเลยคือเรื่องของชื่อ จากซี่รี่ส์ Pro ถูกขยับมาอยู่ในซีรี่ส์ Go แทน ซึ่งคาแรคเตอร์เด่นๆของซีรี่ส์นี้อยู่ที่ความสะดวกในการพกพานั่นเอง โดยตรงนี้ถูกสะท้อนออกมาในเรื่องของวัสดุ ผลิตจากพลาสติก บริเวณ Earcup บุด้วยฟองน้ำ หุ้มด้วยหนัง ใส่สบาย ไม่ร้อนหู สามารถพับเก็บได้ 90 องศา ด้านนอกจะมีปุ่มฟังก์ชั่นคีย์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มเปิด-ปิด ปรับเสียง ปุ่มควบคุมการเล่นเพลง เป็นต้น ส่วน Headband หุ้มด้วยผ้า มีความยืดหยุ่นค่อนข้างมาก ใครที่มีศีรษะค่อนข้างใหญ่ หมดห่วงได้เลยว่าก้านหูฟังจะบีบรัดเข้ามาทำให้ปวดเมื่อย น้ำหนักโดยรวมจะอยู่ที่ 289 กรัม เท่านั้น นอกจากนี้ภายในกล่องยังมาพร้อมกระเป๋าผ้าสำหรับเก็บหูฟังพกพาได้อย่างสะดวก
สำหรับแบตเตอรี่ หากเปิดฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนทางแบรนด์ Plantronics เคลมเอาไว้ว่าสามารถใช้งานได้ 22 ชั่วโมง จากที่ทดลองเปิดทิ้งไว้ที่ความดัง 50% ก็ใช้ได้จริงประมาณ 20 ชั่วโมง ตรงนี้เราสามารถดูสถานะแบตผ่านแอพได้ด้วย ซึ่งถือว่านานมากๆนอกจากนี้ยังรองรับ Fast Charge สามารถเข้าสู่โหมดชาร์จเร็วก็ใช้เวลาแค่ 10 นาที ก็สามารถใช้งานได้ถึง 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ถือเป็นหูฟังตัดเสียงรบกวนที่ถูกและคุ้มค่าที่สุด ซึ่งฟังก์ชั่นการใช้งานเองก็ครบถ้วน แถมพกพาไปไหนมาไหนก็ได้ ด้วยน้ำหนักที่เบา ทั้งยังมีถุงใส่พกพามาให้ด้วยอีกต่างหาก ที่สำคัญมาในราคาที่ค่อนข้างจับต้องได้เพียง 6,290 บาท เท่านั้น
อุปกรณ์ในกล่อง
• หูฟังไร้สาย Plantronics Backbeat Go 810
• สาย AUX/3.5 mm ยาว 1.2 เมตร
• สายชาร์จ Micro USB
• กระเป๋าเก็บหูฟังสำหรับพกพา
• คู่มือการใช้งาน
การเชื่อมต่อ
• Bluetooth 5.0
• AUX
Key-Highlight
• หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สาย ใส่สบาย พกพาได้
• เชื่อมต่อผ่าน Bluetooth 5.0
• แบตเตอรี่ใช้งานได้สูงสุด 22 ชั่วโมง
• ฟังก์ชั่น Dual EQ ปรับเสียงได้ 2 รูปแบบ
• รองรับการใช้งาน Voice Assistance (Siri/Google)
รีวิวเสียง
สำหรับเรื่องเสียง จัดว่าอยู่ในระดับที่ดีเลยทีเดียว เริ่มที่เสียงกลางหรือเสียงร้อง มีความชัดถ้อย ชัดคำ เนื้อเสียงไม่บาง มีน้ำหนัก เสียงสูงรายทอดตัวได้ยาว ปลายเสียงไม่แตกพล่าหรือขุ่นมัว ไล่ไดนามิกระหว่างช่วงเสียงได้ดี รายละเอียดชัดเจน ส่วนเบสมีแรงปะทะดี ฟังสนุก ไม่บวมจนปวดหู ส่วนเวทีกว้างสบาย มีพื้นที่ให้แต่ละย่านเสียงหรือชิ้นดนตรี ซึ่งบาลานซ์ดีมากๆ
![รีวิว Plantronics Backbeat Go 810](https://mercular.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/upload/contents/2018/10/review-plantronics-backbeat-go-810-headphone.jpg)
การใช้งานจริง
จากการทดสอบจริงก็ไม่ผิดหวัง ด้วยราคาเพียงเท่านี้ แต่สัญญาณค่อนข้างนิ่ง มีความเสถียร เชื่อมต่อได้ไกล ไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด หากแบตใกล้หมด แล้วไม่อยากชาร์จก็สามารถต่อสาย AUX ฟังเพลงได้เช่นกัน แต่จะไม่สามารถปรับตั้งค่า Noise Cancelling หรือ ปรับเสียงผ่านแอพพลิเคชั่น “Backbeat” ได้นั่นเอง ในส่วนของการสวมใส่น้ำหนักค่อนข้างเบา ใส่สบาย เหมาะสำหรับเดินทางไกล ไม่ว่าจะเป็น Road Trip หรือบินลัดฟ้า เพราะ Plantronics Backbeat 810 ตัวนี้สามารถปรับระดับการตัดเสียงรบกวนได้ 3 แบบ ได้แก่
- 1. OFF ปิดการใช้งาน Noise-Cancelling
- 2. LOW ตัดเสียงรบกวนออกนิดหน่อย เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป
- 3. HIGH จะตัดเสียงรบกวนออกไปพอสมควร เหมาะสำหรับใช้งานบนเครื่องบิน
ก็ทั้ง 3 แบบ เรียกว่าทำมาใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างกันเพื่อลดอาการปวดหู หรือ หูอื้อ ซึ่งเกิดจากความสงัดของเสียงนั่นเอง ซึ่งฟังก์ชั่นนี้ สามารถทำได้โดยกดปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงพร้อมกัน ค้างประมาณ 3 วิ หรือ ผ่านแอพพลิเคชั่นนั่นเอง
การใช้งานควบคู่แอพพลิเคชั่น
นอกจากฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวนแล้ว สิ่งที่เราสามารถปรับผ่านแอพฯได้ก็จะมีเรื่องของ Dual EQ ซึ่งสามารถปรับได้ 2 รูปแบบ คือ Balanced เสียงก็จะออกแนวกลางๆ ไม่ได้เด่นไปย่านใด ย่านนึง กับ Bright เสียงที่ออกมาจะมีความโปร่ง ใสขึ้น ไม่อึดอัดนั่นเอง สำหรับใครที่ขี้ลืม วางหูฟังทิ้งไว้แล้วหาไม่เจอ ตรงนี้เราสามารถกด Find MyHeadset ได้ด้วย พอกดปุ๊ป ตัวหูฟังก็จะมีสัญญาณดังออกมาทันที นอกจากนี้เรายังสามารถอัพเดทเฟิร์มแวว์ผ่านแอพฯได้เช่นกัน
สำหรับการควบคุมหูฟังนอกเหนือจะแอพฯ การเพิ่ม/ลดเสียง หรือการหยุด/เปลี่ยนเพลง เราสามารถกดปุ่มที่บริเวณหูฟังด้านซ้ายได้เลย หากต้องการปรับการใช้งาน Dual EQ จะมีปุ่มอยู่ทางด้านล่างของหูฟังด้านขวา ซึ่งการใช้งานโดยรวมก็สะดวกดี สามารถปรับทุกอย่างผ่านแอพฯได้หมดเลย
หูฟังครอบหู (Over-Ear)
ไร้สาย
บลูทูธ
5.0
มีไมค์
Closed Back
50 - 20,000 เฮิรตซ์