หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

27 พ.ค. 2564

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

ปัจจุบันนี้อุปกรณ์เสริมมือหัวชาร์จมือถือยี่ห้อต่างๆ ได้ถูกพัฒนามาให้รองรับเทคโนโลยีชาร์จไวสมัยใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ชั้นนำ เช่น หัวชาร์จไอโฟน ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้ในปริมาณสูง เพื่อให้การชาร์จแบตเตอรี่เป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เพื่อความสะดวกในการใช้งานที่มากยิ่งขึ้น แต่เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าหัวชาร์จไอโฟนที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ? ควรเลือกซื้อจากอะไร วันนี้ Merular.com จะมาแนะนำวิธีในการเลือกซื้ออะแดปเตอร์ iPhone เพื่อให้เพื่อนๆ สามารถเลือกซื้อสินค้าที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ของเรา ดังนั้นการเลือกหัวชาร์จไอโฟนจากแบรนด์ดัง เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการซื้ออะแดปเตอร์ iPhone มาใช้งาน เช่น หัวชาร์จไอโฟน Anker, Aukey, Belkin, Eloop เป็นต้น ซึ่งยี่ห้อที่กล่าวมานั้นหมดล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมมือถือชั้นนำ ผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานในการผลิต ติดตั้งเทคโนโลยีเสริมต่างๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการชาร์จได้เป็นอย่างดีครับ

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

หัวชาร์จไอโฟนที่ดีต้องเลือกยังไง ?

โดยปกติแล้ว หัวชาร์จไอโฟนที่แถมมาให้ภายในกล่องของไอโฟนรุ่นเก่าๆ ตั้งแต่อดีต จนถึงหัวชาร์จไอโฟน 11 นั้น จะเป็นหัวชาร์จไอโฟน ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 5W (5V/1A) หรือ 5 วัตต์ เท่านั้นหากผู้ใช้งานต้องการอะแดปเตอร์ iPhone ที่สามารถจ่ายไฟได้มากกว่านั้น ก็ต้องซื้อแยกต่างหากเอาเอง หรืออาจนำอะแดปเตอร์ iPad, MacBook ที่จ่ายไฟได้ 12W-60W มาใช้งานแทนครับ แต่หลังจากที่ iPhone 12 เปิดตัวเมื่อปลายปี 2020 ที่ผ่านมา ทาง Apple ก็ไม่ได้แถมอะแดปเตอร์ iPhone มาให้ภายในกล่องแล้ว ด้วยเหตุผลในด้านของการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำให้ผู้ใช้งานนั้นจำเป็นที่จะต้องซื้อหัวชาร์จไอโฟนแยกเอาเอง ดังนั้นผู้บริโภคนั้นมีสิทธิ์ที่จะเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟนสำหรับ iPhone 12 และ iPhone 13 จากแบรนด์อื่นๆ ที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่สินค้าจาก Apple เท่านั้น สำหรับการเลือกอะแดปเตอร์ iPhone นั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือ การเลือกซื้อสินค้าที่ได้มาตรฐานการผลิต ไม่ใช่การโฟกัสไปที่หัวชาร์จไอโฟนราคาถูกเป็นหลัก โดยหัวชาร์จไอโฟนราคาถูกนั้นอาจจะเป็นของปลอม หรือถ้าจะซื้อหัวชาร์จไอโฟน 20w แท้ดูยังไงดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบในเรื่องของความปลอดภัย อย่างที่เราเคยได้ยินข่าวว่าอะแดปเตอร์ iPhone ปลอมเกิดการระเบิด ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตของผู้ใช้งาน ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ในการเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟนนั้น สามารถติดตามได้ในหัวข้อถัดไปครับ


"อะแดปเตอร์ชาร์จเร็ว iPhone ต้องเลือกที่มีมาตรฐาน PD รองรับ โดย iPhone รองรับชาร์จเร็วตั้งแต่ 18W ไปจนถึง 27W ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่น"

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

เลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน จากจำนวนวัตต์


สิ่งแรกที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ใช้งานจำเป็นที่จะต้องทราบว่าไอโฟนของเรานั้น สามารถรองรับการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยกระแสไฟฟ้าสูงสุดกี่วัตต์ เพราะว่าไอโฟนแต่ละรุ่นนั้น รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด ในการชาร์จแบตเตอรี่ไม่เท่ากัน เหตุผลที่เราต้องเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน จากจำนวนวัตต์ที่เหมาะสม นั่นก็เป็นเพราะว่า หากเราทำการซื้อหัวชาร์จไอโฟนรุ่นเก่า ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดเพียงแค่ 10W มาใช้งาน แต่ iPhone 13 Pro Max ของเรานั้นมีสเปคที่สามารถรองรับการชาร์จเร็วเทคโนโลยี Power Delivery ด้วยกำลังไฟฟ้าสูงสุด 27W นั่นทำให้กำลังไฟฟ้าหายไปถึง 17 วัตต์เลยทีเดียว การชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มจึงใช้เวลาในการชาร์จนานเมื่อเทียบกับการใช้หัวชาร์จไอโฟน ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงกว่าหรือเท่ากับ 27W นั่นเอง ทีนี้เพื่อนๆ อาจจะสงสัยกันแล้วใช่มั้ยครับ ว่า ไอโฟน iPhone 11 ชาร์จ 20W ได้ไหม หรือรุ่นต่างๆ ที่ใช้นั้นรองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุดเท่าไหร่กัน เพื่อที่จะได้ใช้งานร่วมกับหัวชาร์จไอโฟนของเรา ซึ่งเราได้รวบรวมข้อมูลมาให้ทราบแล้วครับ


  • iPhone 13 Pro Max, 13 Pro, 13, 13 mini รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 23W - 27W
  • iPhone 11 Pro Max, 11 Pro, 11, SE (Gen 2) รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 15W
  • iPhone XS Max, XS, XR, X, 8 Plus, 8 รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 15W
  • iPhone 7 Plus, 7, 6S Plus, 6s, 6, SE (Gen 1) รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 10W
  • iPhone 5 หรือรุ่นที่เก่ากว่า รองรับกระแสไฟฟ้าสูงสุด 5W


ส่วนการนำหัวชาร์จไอโฟน ที่สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดมากกว่า 27W มาใช้งานให้แก่ ไอโฟน 13 เช่น หัวชาร์จไอโฟน 60W หรือมากกว่านั้น ก็สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้เช่นเดียวกัน จากการทดสอบแล้ว กระแสไฟสูงสุดที่ iPhone 13 Pro Max สามารถรองรับได้ อยู่ที่ 27W ส่วน iPhone 13 Pro, iPhone 13 และ iPhone 13 mini จะรองรับที่ประมาณ 23W ซึ่งเมื่อเพื่อนๆ ทราบว่าไอโฟน รุ่นที่เราใช้งานอยู่นั้นรองรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าสูงสุดที่กี่วัตต์ ก็จะเป็นหนึ่งในข้อมูลที่จะช่วยให้การเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน หรืออะแดปเตอร์ iPhone ให้ง่ายดายยิ่งขึ้นไปอีก โดยการตรวจสอบเบื้องต้นว่าหัวชาร์จ iPhone รุ่นนั้นรองรับเทคโนโลยี Power Delivery หรือไม่ สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดกี่วัตต์ เพียงแค่นี้ การเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟนของเรา ก็ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากๆ ครับ

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

เลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟน จากการเชื่อมต่อบนอุปกรณ์


อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่เพื่อนๆ ควรนำมาพิจารณาในการเลือกซื้อหัวชาร์จไอโฟนที่เหมาะสมกับการใช้งาน นั่นก็คือเลือกซื้อหัวชาร์จ จากการเชื่อมต่อบนอุปกรณ์นั้นๆ เช่น หัวชาร์จ หรือสายชาร์จไอโฟน 11 เป็นแบบไหน หัวชาร์จไอโฟนที่ติดตั้งพอร์ต USB-C มาให้ ก็มักจะรองรับเทคโนโลยี Power Delivery ทำให้สามารถจ่ายกระแสไฟให้อุปกรณ์ iOS ในปริมาณที่สูงกว่าหัวชาร์จ USB-A นั่นเอง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าพอร์ต USB ปกติจะจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์ได้ต่ำนะครับ โดยเจ้าพอร์ตประเภทนี้ มักรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยี Quick Charge ที่ใช้การเชื่อมต่อผ่านสายเคเบิล USB-A to USB-C และ USB-A to Micro USB ในการจ่ายกระแสไฟแบบรวดเร็วให้กับอุปกรณ์ที่รองรับ นั่นจึงทำให้เหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมมือถือชื่อดัง ผลิตหัวชาร์จไอโฟน ที่ติดตั้งพอร์ตเชื่อมต่อมาให้ทั้งหัวชาร์จไว Type C และ Type A เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้กับไอโฟน รวมไปถึงสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ได้อย่างอิสระนั่นเอง เช่น หัวชาร์จ AUKEY PA-B6S Omnia 90W 3-Port Charger ที่มาพร้อมกับพอร์ต USB-C จำนวน 2 ช่อง และ USB-A จำนวน 1 ช่อง รองรับเทคโนโลยี Power Delivery และ Quick Charge สามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุดรวม 84W เลยทีเดียว เรียกได้ว่าสามารถใช้งานเป็นหัวชาร์จเร็วไอโฟนได้เป็นอย่างดี จ่ายกระแสไฟได้เต็มสเปค เรียกได้ว่าคุ้มค่า น่าใช้งานเป็นอย่างมากครับ

"อย่าลืมว่า iPhone มีพอร์ตเป็น Lightning ถ้าจะชาร์จเร็วแบบ PD กับหัวชาร์จ USB C สายชาร์จก็ต้องเป็นสาย USB C to Lightning ด้วยนะครับ"

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

เทคโนโลยี Power Delivery (PD) คืออะไร ?


สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังสงสัยว่าหัวชาร์จไอโฟน 18W ช่วยให้ชาร์จเร็วแบบ PD ได้ไหม หรือเจ้าเทคโนโลยี Power Delivery นี้คืออะไร แล้วมันมีประโยชน์ยังไงต่อการชาร์จแบตเตอรี่ของเรา โดยเทคโนโลยีนี้ PD คือมาตรฐานในการจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านทางหัวชาร์จ USB-C ซึ่งสามารถจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ที่รองรับได้สูงสุดถึง 100W ทำให้การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านหัวชาร์จไอโฟน PD เป็นไปด้วยความรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่ง iPhone ที่รองรับเทคโนโลยี PD จะต้องเป็น iPhone 8 ขึ้นไป และจะทำงานก็ต่อเมื่อใช้สายเชื่อมต่อ USB-C ไปสู่ Lightning ที่รองรับเทคโนโลยี Power Delivery เท่านั้น การชาร์จแบตเตอรี่ผ่านทางการเชื่อมต่อด้วยพอร์ต USB แบบปกติ จะเป็นการชาร์จแบบปกติ ที่ให้กำลังไฟฟ้าต่ำกว่านั่นเองครับ

แนะนำหัวชาร์จไอโฟน 13 สุดคุ้มค่า

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

หัวชาร์จ ZMI HA715 GAN 33w Charger Mini


ZMI HA715 GAN 33w Charger Mini หนึ่งในหัวชาร์จ Fast Charge ที่รองรับกำลังไฟในการชาร์จแบตเตอรีสูงสุดถึง 33W มีดีไซน์ที่เล็กกะทัดรัด ทำให้คุณสามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมเทคโลยีที่ครอบคลุมทั้งการชาร์จเร็ว PD 33W สำหรับอุปกรณ์ iPhone 13, iPhone 12 และรุ่นอื่นๆ และการชาร์จเร็ว QC 4.0 สำหรับอุปกรณ์ Android ต้องเรียกได้ว่าขนาดเล็กกว่าอุปกรณ์ชาร์จทั่วไปแถมยังสามารถชาร์จ iPhone ได้เร็วกว่าถึง 60% มีระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและความปลอดภัยอื่น ๆ มาด้วย รองรับกรชาร์จด้วยพอร์ต USB-C ซึ่งถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมาก

หัวชาร์จ Belkin BOOST CHARGE Dual USB-C GaN Charger 68W


อะแดปเตอร์ iPhone รุ่นนี้จากแบรนด์ Belkin มาในรูปแบบของหัวชาร์จไอโฟน Type C จำนวน 2 ช่อง สามารถชาร์จพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์ หัวชาร์จไอโฟน รุ่นนี้จ่ายกระแสไฟฟ้ารวมสูงสุด 68W รองรับเทคโนโลยี Power Delivery ภายในอะแดปเตอร์ติดตั้งเทคโนโลยี ที่ช่วยในการจ่ายพลังงานได้อย่างอัจฉริยะ ผลิตด้วยทรานซิสเตอร์แกลเลียมไนไตรด์ที่มีประสิทธิภาพสูง ให้ความร้อนต่ำขณะชาร์จ แต่ชาร์จไฟได้เร็วขึ้นกว่าเก่า มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก ใช้งานง่าย สามารถใช้งานเป็น หัวชาร์จไอโฟน 12 ได้อย่างดีเยี่ยม เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในอะแดปเตอร์ iPhone ที่ควรมีไว้ครอบครอง ในราคาสุดคุ้มค่าเพียงไม่ถึง 2,000 บาท เท่านั้นครับ

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?
หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

หัวชาร์จ Aukey PA-F3S PD Fast Charger Adapter


หัวชาร์จไอโฟน ขนาดเล็กจากแบรนด์ Aukey ที่ให้มาทั้งหัวชาร์จเร็ว Type A และ หัวชาร์จไอโฟน Type C บนอุปกรณ์ มาพร้อมขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก น้ำหนักเบาเพียง 77 กรัมเท่านั้น ด้วยพอร์ตเชื่อมต่อ 2 ช่องบนหัวชาร์จไอโฟน ซึ่งประกอบไปด้วย USB-A จำนวน 1 ช่อง จ่ายกระแสไฟสูงสุด 12W และ พอร์ต USB-C ที่สามารถจ่ายกระแสไฟสูงสุด 20W รองรับเทคโนโลยี Power Delivery สามารถจ่ายกระแสไฟให้ iPhone แบบเต็มสเปค ติดตั้งเทคโนโลยี AiPower ที่ช่วยทำให้การชาร์จรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังติดตั้งวงจรที่ช่วยป้องกันกระแสไฟฟ้าเกินขณะชาร์จ ป้องกันไฟรั่ว และอุณหภูมิสูงขณะชาร์จ เรียกได้ว่าเป็นหัวชาร์จไอโฟน 12 ที่คุ้มค่า ในราคาไม่ถึง 800 บาทเท่านั้น

หัวชาร์จ Anker PowerPort III Mini


หัวชาร์จ Anker PowerPort III Mini เป็นอะแดปเตอร์สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางพอร์ต USB-C จำนวน 1 ช่อง ที่ติดตั้งอยู่บนอุปกรณ์ โดยจุดเด่นของหัวชาร์จรุ่นนี้คือมีขนาดที่เล็กเป็นอย่างมาก ทำให้สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสะดวก มาพร้อมกับเทคโนโลยี PowerIQ 3.0 ที่ทำให้การชาร์จอุปกรณ์เป็นไปด้วยความรวดเร็ว จ่ายกระแสไฟสูงสุด 30W รองรับการชาร์จเร็ว PD หรือ Power Delivery, ติดตั้งเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยขณะชาร์จ ป้องกันไฟกระชาก, ป้องกันไฟช็อต, ป้องกันความร้อนสูงเกินขณะชาร์จ มีดีไซน์การออกแบบที่สวยงาม ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน ขาปลั๊กสามารถพับเก็บได้ รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, แล็ปท็อป เป็นต้น ด้วยความสามารถที่ครบถ้วน

หัวชาร์จไอโฟน ที่เหมาะกับ iPhone แต่ละรุ่น ดูยังไง ?

สุดท้ายนี้การหาหัวชาร์จไอโฟนที่เหมาะสมกับชาร์จใช้งาน iPhone ของแต่ละรุ่นมาใช้งานนั้น นอกจากสเปคของอะแดปเตอร์ iPhone นั้นๆ จะต้องสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้า ที่ตรงตามสเปคของไอโฟนของเราแล้ว สายชาร์จที่นำมาเชื่อมต่อก็จำเป็นที่จะต้องรองรับเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว Power Delivery ได้ด้วยเช่นกันนะครับ จึงจะสามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้สูงสุด ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆ คนไหนสนใจ ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อสายชาร์จไอโฟนคุณภาพดี ได้จากบทความ Top 5 สายชาร์จไอโฟน ยี่ห้อไหนดี? ปี 2021 รับรองว่ามีแต่สินค้าที่มีคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำไว้ใจได้ ที่ไม่ได้มีแต่หัวชาร์จเท่านั้นยังมีสายชาร์จ แท่นชาร์จไร้สาย พาวเวอร์แบงค์ เคสโทรศัพท์ รวมไปถึงอุปกรณ์เสริมมือถืออื่นๆ อีกมากมายที่สามารถใช้งานร่วมกับหัวชาร์จไอโฟน ได้เป็นอย่างมีประสิทธิภาพดี แล้วพบกับบทความที่น่าสนใจจากเราชาว Mercular.com ได้ใหม่ในโอกาสหน้านะครับ

article-banner-1
article-banner-2