ก็ผ่านพ้นกันไปแล้วกับงาน Apple Event “Peek performance” เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่พึ่งผ่านพ้นไป กับการเปิดตัวไอโฟนรุ่นเริ่มต้น iPhone SE (2022) หรือ iPhone SE 3 ที่มาพร้อมชิพใหม่ รองรับ 5G ถึงแม้ว่าหน้าตาดีไซน์ของ iPhone SE 3 ก็ยังคงไม่ไ่ด้เปลี่ยนแปลงไปมากนักจากรุ่นก่อน iPhone SE 2 แต่ถือว่าเป็นการส่งไม้ต่อได้อย่างสวยงาม จุดเด่นอยู่ที่ ภายในมีการเลือกใส่ชิป A15 Bionic ที่เหมือนกับที่ใช้บน iPhone 13 Series ชิปตระกูล Bionic จาก Apple ด้วยประสิทธิภาพในการทำงานที่ถือว่าสูงกว่าชิปทั่วไป โดยชิป A15 ตัวใหม่ล่าสุดนี้ได้มีการทดสอบประสิทธิภาพ พบว่ามันแรงกว่ารุ่นก่อน A14 ถึง 13.7% มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะมีคำถามสงสัยอยู่ในใจว่า iPhone SE 2 (2020) มันต่างกับรุ่นใหม่อย่าง iPhone SE 3 (2022) อย่างไรบ้าง? วันนี้ Mercular.com เลยขอเทียบสเปค iPhone SE 3 VS iPhone SE 2 อัพเกรดใหม่อะไรมาบ้าง? มาช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรไปต่อไหม? เอ๊ะหรือยังไงดี? หรือควรซื้อตัวไหนดี? ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยดีกว่าครับ

ดีไซน์

• ดีไซน์ - ดีไซน์ iPhone SE 3 และ iPhone SE 2 ทั้งสองรุ่นโดยรวมแล้วถือว่ามาในรูปทรงที่เหมือนกันอย่างกับแกะ ขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ด้านหน้ามาพร้อมกับปุ่ม Home แสกนลายลายนิ้วมือ Touch ID วัสดุตัวเครื่องทำจาก อะลูมิเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในวงการอุตสาหกรรมอวกาศ ส่วนด้านหน้าจอก็ยังเป็นกระจกทั้งด้านหน้า และด้านหลัง ในส่วนของสีตัวเครื่องก็ยังเหมือนรุ่นก่อนที่ออกมา 3 สี ได้แก่ สีดำ (Midnight), สีขาว (Starlight) และสีแดง (PRODUCT)RED
• คุณสมบัติ - ด้านคุณสมบัติยังคงเหมือนเดิม ที่มีมาตรฐาน IP67 ที่สามารถป้องกันฝุ่น ละอองน้ำ และน้ำความลึกไม่เกิน 1 เมตร สูงสุด 30 นาที
• นํ้าหนัก - ขนาดนํ้าหนักตัวเครื่องจะแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยโดย iPhone SE 3 จะมีนํ้าหนัก 144 กรัม ส่วนนํ้าหนัก iPhone SE 2 148 กรัม จะเห็นได้ว่า iPhone SE 3 จะเบากว่า

หน้าจอแสดงผล

• ในส่วนของหน้าจอแสดงผล - ยังเลือกใช้ Retina HD เหมือนเดิม Phone SE 3 และ iPhone SE 2  หน้าจอ Retina HD 4.7″ ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซลที่ 326 ppi จอแสดงผลแบบ True Tone และขอบเขตสีจอภาพกว้าง P3 ที่เท่ากันเป๊ะเลย ในส่วนหน้าจอแสดงผลเลยสรุปว่า ไม่ต่างกันครับ

สเปคกล้อง

• การถ่ายภาพ - ส่วนของเลนส์กล้องหน้า และกล้องหลังคงเหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมคือ เรื่องของฟีเจอร์ที่ถูกพัฒนาให้ดูโปรระดับมืออาชีพยิ่งขึ้น สำหรับรุ่น iPhone SE 2 จะเป็น 12MP รูรับแสง f/1.8 แต่ถ้ารุ่นใหม่อย่าง iPhone SE 3 ก็ยังคงเป็น 12MP รูรับแสง f/1.8 แต่จะมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆ เข้ามาอย่าง ซูม Digital 5 เท่า, ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล, Deep Fusion, HDR Smart 4 และ Photographic Styles ที่จะช่วยปรับแสงความสว่างทั้งคอนทราต์ โทนสีให้ภาพสวยคมชัดขึ้นโดยอัตโนมัติ ส่วนกล้องหน้าจะเหมือนกัน 12MP รูรับแสง f/1.8 และ Face Time HD เลยครับ

สเปคแบตเตอรี่ / รองรับชาร์จเร็ว

• แบตอึดขึ้น - ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ iPhone SE 3 ความจุ 2,018mAh มาพร้อมแบตที่อึดยิ่งขึ้น iPhone SE 3 ได้เปลี่ยนมาใช้ชิป A15 Bionic นอกจากจะเพิ่มประสิทธิภาพให้รวดเร็วขึ้นแล้ว ยังช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น โดย Apple ได้เปิดเผยข้อมูลจากการทดสอบพบว่า iPhone SE 3 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 15 ชั่วโมง ซึ่งนานกว่ารุ่นก่อนอย่าง iPhone SE 2 และ iPhone 8 ถึง 2 ชั่วโมง พบว่าหากเล่นเกมส์ ดูหนังออนไลน์ หรือ Streaming ใช้งานได้นานกว่าเดิม 2 ชั่วโมง และหากเป็นการเล่นเพลง iPhone SE 3 สามารถใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว ถือว่าเป็นการใช้งานระดับเทียบเท่ากับรุ่น iPhone 12 mini 
• รองรับการชาร์จเร็ว - ส่วนการชาร์จใช้งานของทั้งสองรุ่น ถือว่าใกล้เคียงกัน iPhone SE 3 ออกแบบมาให้รองรับการชาร์จเร็ว ที่ชาร์จ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที เมื่อใช้งานร่วมกับอะแดปเตอร์ 20W ขึ้นไป นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi อีกด้วยครับ ซึ่งรุ่นก่อนอย่าง iPhone SE

สเปคอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

• ชิปที่อัพเกรดขึ้น - ตัวชูโรงของ iPhone SE 3 การเลือกใส่ชิปประมวลผล A15 Bionic ตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 13 Series ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบที่ iPhone SE 2 สู้ไม่ไ่ด้ชิป A15 Bionic มาพร้อกับ CPU 6 Core จะช่วยทำให้ตัวเครื่องมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ทั้งเรื่องของการประหยัดพลังงาน ช่วยให้ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงการรองรับฟีเจอร์ใหม่เข้ามาทั้งการถ่ายภาพ และ Live Text เป็นต้น

ราคา

iPhone SE 3 (2022)

• รุ่น 64GB ราคา 15,900 บาท
• รุ่น 128GB ราคา 17,900 บาท
• รุ่น 256GB ราคา 21,900 บาท

iPhone SE 2 (2020)

• รุ่น 64GB ราคา 14,900 บาท
• รุ่น 128GB ราคา 16,900 บาท
• รุ่น 256GB ราคา 20,900 บาท

เป็นยังไงกันบ้างครับ กับบทความเทียบสเปค iPhone SE 3 VS iPhone SE 2 อัพเกรดใหม่อะไรมาบ้าง? ที่ทาง Mercular.com นำมาฝากกันในครั้งนี้หลายคนคงได้คำตอบในใจกันแล้วว่าจะอัพเกรดเลยดีไหม? ต้องขอบอกไว้ก่อนเลยว่า iPhone SE 3 และ iPhone SE 2 นั้นดีไซน์สวยคลาสสิคที่ถอดแบบออกมาเหมือนกันเป๊ะๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เคสไอโฟนร่วมกันได้ iPhone SE 3 ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยตัวเครื่องที่มาพร้อมชิป A15 Bionic ช่วยให้ใช้งานได้รวดเร็วพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่ในส่วนของคนที่ยังใช้ iPhone SE 2 อยู่แล้วนั้นอาจจะมองว่ารุ่น 3 (2022) นี้ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากเท่าที่ควร ก็อาจจะยังไม่เทใจให้อาจจะข้ามรุ่นไปใช้งาน iphone 13 ซีรีส์เลยก็อาจจะตอบโจทย์มากกว่าครับ

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วหากใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์เสริมมือถือคุณภาพดี สำหรับ iPhone SE 3 หรือไอโฟนรุ่นอื่น ทั้งเคสไอโฟนกันกระแทก, หัวชาร์จ, สายชาร์จ, พาวเวอร์แบงค์ และอีกมากมาย สามารถเลือกซื้อได้แล้วที่ทางเว็บไซต์ Mercular.com ตอนนี้เรามีโปรโมชั่นราคาพิเศษมาให้เพียบ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นบทความอะไร อยากให้รอติดตามกันแล้วพบกันใหม่ สวัสดีครับ