มินิรีวิว Klipsch The Forte IV

24 มิ.ย. 2564

มินิรีวิว Klipsch The Forte IV

สมาชิกใหม่ล่าสุดของซีรีส์ Heritage Classic จาก Klipsch

หากพูดถึงแบรนด์ Klipsch ในตอนนี้ บรรดาแฟนๆ ย่อมน่าจะต้องนึกถึงสินค้าซีรีส์ Heritage กันอย่างแน่นอน ซึ่งซีรีส์ Heritage ก็เป็นการนำ ลำโพงรุ่นยอดฮิตของทางแบรนด์มาอัพเกรดให้มีความทันสมัยพร้อมปรับปรุงรูปลักษณ์ภายนอกให้มีความหรูหรา คลาสสิค โดยที่ด้านเสียงยังคงพรีเมียม ทรงพลัง โดดเด่นตามแนวเสียงของแบรนด์ Klipsch อยู่เช่นเคย ซึ่งในปัจจุบันสินค้าในซีรีส์ Klipsch Heritage นั้นประกอบไปด้วยหลากหลายรุ่นด้วยกัน โดยรุ่นเด่นๆ ประกอบไปด้วย Heritage Groove Bluetooth Speaker, The One II, The Three II, The Sixes และ Heritage Theater Bar เป็นต้น ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากด้วยจุดเด่นทั้งหน้าตาที่หรูหราคลาสสิค ฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัย และแนวเสียงที่ทำได้ดีในทุกย่าน ฟังสนุกทุกแนว ซึ่งด้วยความนิยมที่สูงนี่เองทางแบรนด์ Klipsch จึงได้เปิดตัวสมาชิกใหม่ล่าสุดจาก Heritage Series ในรุ่น Klipsch The Forte IV ที่แน่นอนว่ามาพร้อมรูปร่างหน้าตาที่เห็นครั้งแรกก็หลงรักได้ไม่ยาก รวมถึงเรื่องเสียงที่ไม่ทำให้ผิดหวังอีกด้วย โดยจะมีรายละเอียดอะไร และน่าสนใจแค่ไหนนั้นเรามาดูกันเลยครับ

Klipsch The Forte IV ราคา

สเปคภายในระดับพรีเมียมที่ให้มาแบบจัดเต็ม

ตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกของรุ่น Forte ในปี 1985 ก็ต้องบอกเลยว่ารุ่นนี้เป็นสินค้ารุ่นที่โดดเด่นมากๆ ของทางแบรนด์ โดยเป็นลำโพงตั้งพื้นระดับพรีเมียมไฮเอนด์ที่โดดเด่นในเรื่องเสียง และล่าสุดกับ Heritage The Forte IV ที่ได้รับการปรับปรุงในส่วนของหน้าตา และเสปคภายในที่ออกแบบการจัดวางใหม่รวมถึงเลือกใช้ไดรเวอร์ใหม่เพื่อการขับเสียงระดับพรีเมียมไม่ว่าจะเป็น HF Driver ที่เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดของวงการในตอนนี้ โดยเป็นไดรเวอร์เสียงย่านสูงที่มี Diaphragm ทำจาก Titanium ซึ่งให้เสียงที่กว้างและแม่นยำสูง, ไดรเวอร์ย่านกลางที่เลือกใช้ K-702 ตัวใหม่ล่าสุด สามารถขับรายละเอียดได้อย่างสมจริงและครอบคลุมย่านกลางแทบทุกระดับเสียงอีกด้วย และที่ขาดไม่ได้กับไดรเวอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์อย่าง Tractrix Horn ที่ให้เสียงทรงพลัง โดดเด่น เป็นเอกลักษณ์แบบที่ไม่มีแบรนด์ใดทำได้อีกด้วย

Klipsch The Forte IV เสียงดี

วัสดุที่เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดี

ด้านวัสดุก็เลือกสรรค์มาแต่ระดับพรีเมียมไม่แพ้ด้านสเปค โดยงานประกอบนั้นเป็นการทำมือทั้งหมด โดยช่างฝีมือในเมือง Hope, Arkansas แบบที่คุณ Paul W. Klipsch ตั้งใจเอาไว้ โดยการออกแบบในรุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากจากหน้าหนังสือด้วยความที่เป็นลำโพงแบบ Bookshelf โดยจะเคลือบไม้ด้วยสีที่ให้ความรู้สึกเหมือนดูหน้าหนังสือที่กำลังเปิดอยู่ และแน่นอนว่าแม้จะเป็นงานทำมือแต่ตัวลำโพงทั้งคู่จะถูกผลิตจากท่อนไม้ท่อนเดียวกัน ทำให้ลำโพงแต่ละชุดแม้จะมีลวดลายที่ต่างกันแต่ทั้ง 2 ตัวจะเป็นลวดลายที่คล้ายกัน และวางคู่กันได้อย่างลงตัว


โดยในตอนนี้สินค้ายังไม่เข้าไทย และเปิดตัวราคาเป็นทางการอยู่ที่ราวๆ 195,900 บาท ซึ่งถ้าหากเข้ามาจัดจำหน่ายที่ไทยเมื่อไหร่ทาง Mercular.com จะรีบนำมาจำหน่ายและรีวิวให้รับชมกันอย่างแน่นอนครับ

best-seller-ads
article-banner-1
article-banner-2