14 มิ.ย. 2565
สำหรับคนทั่วไปที่กำลังเข้าสู่วงการพอดแคสต์หรือวงการสตรีมเมอร์ รวมถึงคนที่อยู่ในวงการดนตรีและเครื่องเสียง น่าจะต้องคุ้นเคยกับกล่องสี่เหลี่ยมๆ ที่เรียกว่า มิกเซอร์ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะมิกเซอร์ดิจิทัล ที่ใช้งานได้ง่าย ไม่ค่อยยุ่งยาก แต่สำหรับหน้าใหม่หลายๆ คน การจะเลือกมิกเซอร์ที่ถูกใจนั้นก็เป็นอะไรที่ยากเหลือเกิน เพราะฉะนั้นวันนี้ ทาง Mercular.com จะขอแนะนำ 8 มิกเซอร์ดิจิทัล มิกเซอร์เสียงดี จะอัดเพลง อัดพอดแคสต์ได้หมด จบได้ทุกงาน ส่วนจะมีมิกเซอร์รุ่นไหนบ้าง มาดูกันเลยดีกว่า
8 มิกเซอร์ดิจิทัล มิกเซอร์เสียงดี ในบทความนี้
- Yamaha ZG01
- Behringer FLOW 8
- Mackie M•Caster Live
- Soundcraft Notepad-5
- KMI K-MIX
- Zoom Livetrak L-12
- Yamaha AG03
- BEHRINGER X AIR X18
Yamaha ZG01
สำหรับ Yamaha ZG01 ตัวนี้เป็นมิกเซอร์เสียงดีอีกตัวที่ออกมาให้เข้ากับเหล่าเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ทั้งหลายสุดๆ ด้วยการรับและส่งเสียงจากโปรแกรมแชทหรือเกมของเรา ที่สามารถปรับได้ทั้งเสียงในเกม เสียงจากไมโครโฟน และเสียงรวม และยังมีปุ่มเอฟเฟคมาให้ใช้งานถึง 6 ปุ่มด้วยกัน พร้อมกับฟีเจอร์ ZG SURROUND และ Focus Mode ที่จะช่วยปรับแต่งเสียงของเราให้มีมิติที่ดียิ่งขึ้น และส่งต่อไปยัง Output ที่ต้องการ โดยในตัวมิกเซอร์นี้จะมาพร้อมกับพอร์ต Input/Output เป็นแบบ 3.5 มม. 3 ช่อง โดยแบ่งเป็นช่วงสำหรับหูฟัง, ไมโครโฟน และหัวแจ๊ค TRRS สำหรับใช้งานกับมือถือและ HDMI อีก 3 ช่อง ที่แบ่งเป็น In 2 ช่อง และ Out 1 ช่อง รวมถึงพอร์ต USB-C สำหรับใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ Windows และ Mac นอกจากจะเป็นตัวเชื่อมให้กับระบบเสียงของเราแแล้ว ยังปรับแต่งเสียงเพื่อการเล่นเกมได้อีกด้วย
Behringer FLOW 8
ถัดมาที่มิกเซอร์ตัวนี้กันบ้าง กับ Behringer FLOW 8 มิกเซอร์ขนาดเล็กที่มาพร้อมกับ Input ถึง 8 ช่องด้วยกัน แบ่งเป็นพอร์ต XLR 4 ช่องและ 1/4" TRS จำนวน 4 ช่องด้วยกัน โดยที่เจ้ามิกเซอร์เสียงดีตัวนี้ก็มีความสามารถที่เจ๋งไม่แพ้กัน ด้วยฟีเจอร์ EZ-GAIN ที่จะช่วยปรับ Gain เสียงในแต่ละ Channel ให้มีความพอดีกันได้ง่ายๆ ภายในปุ่มเดียว แอปพลิเคชันสำหรับการควบคุมมิกเซอร์ผ่านมือถือ พร้อมกับเอฟเฟกต์ที่มีให้เลือกใช้ถึง 16 แบบ และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth และการเชื่อมต่อผ่าน USB บอกเลยว่า Behringer FLOW 8 ตัวนี้เป็นมิกเซอร์อีกหนึ่งตัวที่น่าสนใจสุดๆ
Mackie M•Caster Live
ส่วนใครที่เป็นสายสตรีมมิ่งและพอดแคสน่าจะถูกใจมิกเซอร์ดิจิทัลตัวนี้ไม่น้อยเลย โดยเจ้า Mackie M•Caster Live ตัวนี้จะมาพร้อมกับช่อง Input แบบ 3 Channel แบ่งเป็นพอร์ต XLR 1 ช่องสำหรับเสียบเข้ากับไมโครโฟนของเรา พร้อมกับปุ่ม Phantom Power สำหรับจ่ายไฟ 48V ให้กับไมโครโฟน, พอร์ด ⅛” TRS 2 ช่องสำหรับเครื่องดนตรีและสำหรับเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเรา พร้อมกับพอร์ด Output ⅛” TRS 2 ช่องสำหรับออกลำโพงและหูฟัง รวมถึงพอร์ต USB-C สำหรับใช้งานกับคอมพิวเตอร์ของเรา พร้อมกับมีปุ่ม Knob สำหรับการปรับ EQ และ ContourFX ต่างๆ ได้อีก ถึงว่าเป็นมิกเซอร์เสียงดีน่าใช้งานจริงๆ เลย
Soundcraft Notepad-5
และสำหรับ Soundcraft Notepad-5 ตัวนี้ก็เป็นหนึ่งในมิกเซอร์เสียงที่เหมาะสำหรับใครที่กำลังทำ Home Studio อยู่ไม่น้อยเลย โดยมิกเซอร์ดิจิทัลตัวนี้มาพร้อมกับ Input ให้ใช้งานถึง 3 Channel มีพอร์ต XLR สำหรับเสียบไมโครโฟน หัวแจ๊ค 1/4” สำหรับเครื่องดนตรี และสาย RCA โดยในมิกเซอร์จะมาพร้อมกับปุ่มปรับ EQ สองปุ่มสำหรับ High-pass และ Low-pass Filter ให้เราปรับจูนเสียงที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย แถมด้วยบอดี้เหล็กที่ทนทานแข็งแรง แถมยังสามารถใช้งานแบบ Plug & Play บนระบบ Mac ยิ่งทำให้มิกเซอร์ดิจิทัลตัวนี้ตอบโจทย์ในความสะดวกสบายไม่น้อยเลย
KMI K-MIX
และสำหรับมิกเซอร์เสียงดีตัวนี้ มาพร้อมกับดีไซน์ที่ดูโมเดิร์นแบบสุดๆ สำหรับ KMI K-MIX เพราะเจ้ามิกเซอร์ตัวนี้ มาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบสัมผัสที่ให้ความเท่ไม่เหมือนใคร แถมความสามารถของมิกเซฮร์ตัวนี้ก็ไม่ธรรมดา เพราะ KMI K-MIX มาพร้อมกับ Input XLR ถึง 2 ช่อง และ 1/4” Connector ถึง 6 ช่องด้วยกัน พร้อมกับช่อง Digital I/O ที่มีทั้ง Micro USB สำหรับเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และ DIN MIDI สำหรับเครื่องดนตรี พร้อมกับตัวเลือก Output แบบ 1/4” Connector อีก 8 ช่องด้วยกัน นอกจากนี้ KMI K-MIX ยังสามารถใช้งานเป็น Controller สำหรับโปรแกรม DAW และระบบไฟ LED ที่สวยงาม เหมาะสำหรับการเป็นมิกเซอร์สำหรับงานปาร์ตี้แบบสุดๆ
Zoom Livetrak L-12
ส่วนใครที่อยากได้มิกเซอร์เสียงดีตัวใหญ่ๆ สำหรับการทำงานระดับ Professional อยู่ละก็ ต้อง Zoom Livetrak L-12 ตัวนี้เลย ด้วยจำนวนแทร็คเสียงที่รับได้มากถึง 12 Channel พร้อมกับเอฟเฟกต์ในตัวถึง 16 แบบ แถมยังเป็น Recorder ในตัว บันทึกไฟล์เสียงลงใน SD Card ได้ตามต้องการ พร้อมกับหน้าจอ LCD แสดงผลและปุ่มสำหรับการตั้งค่าต่างๆ และยังมีช่อง Monitor Output อีก 5 ช่องเพื่อการฟังเสียงขณะอัด ตอบโจทย์การอัดเพลงแบบวง หรือการจัดรายการพอดแคสต์ต่างๆ อยู่ไม่น้อยเลย แถมยังมีปรีแอมป์ไมโครโฟน -128 dBu EIN เพื่อคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมแบบสุดๆ
Yamaha AG03
ส่วนมิกเซอร์รุ่นจิ๋วตัวนี้ก็มีสเปกแจ๋วแบบไม่ซ้ำใคร ด้วย Input ในการใช้งาน 3 Channel มีพอร์ต XLR และ Hi-Z สำหรับเสียบเครื่องดนตรีต่างๆ โดยเจ้า Yamaha AG03 มาพร้อมกับฟีเจอร์ LOOPBACK ที่สามารถดึงเสียงจากคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออยู่ไปยัง Output ได้ ซึ่งสำหรับคนที่ทำไลฟ์สตรีมก็น่าจะชอบอยู่ไม่น้อยเลย แถมยังมีปรีแอมป์ D-PRE ที่ช่วยขับเสียง Input ของเราให้ดียิ่งขึ้น ร่วมกับปุ่ม 1-TOUCH COMP/EQ, EFFECT ปรับจูนเสียงได้ง่ายๆ ในปุ่มเดียว แถมมิกเซอร์ยังสามารถนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้ชิลๆ ด้วยการเชื่อมต่อพลังงานจาก Power Bank ก็สามารถใช้งานมิกเซอร์เสียงดีตัวนี้ได้แล้ว
BEHRINGER X AIR X18
และสำหรับมิกเซอร์ตัวสุดท้ายนี้ก็ขอเน้นอลังๆ หน่อยกับ BEHRINGER X AIR X18 มิกเซอร์ดิจิทัลที่มาพร้อมกับ 18 Channel ให้เราเลือกใช้แบบจุใจ ควบคู่ไปกับปรีแอมป์ MIDAS ที่ช่วยขับเสียงได้อย่างดีเยี่ยม และ WiFi ในตัวสำหรับเชื่อมต่อกับ Tablet ที่เราต้องการได้ทั้ง Android และ iOS รวมถึงเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ระบบ Windows, Mac และ Linux ทำให้เราสามารถควบคุมการมิกต์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีช่อง MIDI In/Out สำหรับอุปกรณ์ MIDI ต่างๆ ของเรา และระบบเอฟเฟกต์ในตัวถึง 4 แบบให้ใช้งาน แถมสัญญาณ Output ของมิกเซอร์ยังเป็นแบบ 18 x 18 channel ให้เรานำไปตัดต่อในโปรแกรม DAW ได้สบายๆ เลยทีเดียว
และทั้งหมดนี้เองก็เป็นมิกเซอร์ดิจิทัลเสียงดีทั้ง 8 ตัว บอกเลยว่ามิกเซอร์เสียงดีเหล่านี้ ต่างก็มีความสามารถที่สุดยอด และตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างเต็มที่แน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองอุปกรณ์ Live streaming ดีๆ หรือเครื่องเสียงต่างๆ อยู่ สามารถลองเข้ามาแวะชมสินค้าเหล่านี้จากทาง Mercular.com ได้เลย ส่วนบทความหน้าจะมีอะไรน่าสนใจอีกบ้าง รออ่านกันได้เลย
