Logitech G502 X พัฒนาจากรุ่นยอดนิยมอย่าง G502 ให้มีประสิทธิภาพเหนือระดับมากยิ่งขึ้น เลือกใช้สวิตซ์ตัวใหม่อย่างสวิตช์ไฮบริดออปติคอล-แมกคานิคอล LIGHTFORCE ที่เปลี่ยนเป็นการส่งคำสั่งด้วยแสงแทน นั่นทำให้มันส่งสำสั่งได้รวดเร็ว แม่นยำ และยังเพิ่มอายุการใช้งานให้กับสวิตซ์เมาส์อีกด้วย แต่ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมผัสการกดที่เปลี่ยนไป สวิตซ์แบบไฮบริดยังคงให้การตอบสนองและสัมผัสที่ดีเหมือนเดิม

ทางแบรนด์เลือกใช้เซนเซอร์คุณภาพสูงอย่าง HERO 25K ที่ติดตามได้อย่างละเอียดและแม่นยำถึงระดับซับไมครอน มีความเร็วสูงสุดที่ 400 IPS และปรับความละเอียดได้ตั้งแต่ 100 - 25,600 DPI เลยทีเดียว ถือเป็นเซนเซอร์อีกตัวที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมอย่างแท้จริง

สเปกเด่น

• ให้ปุ่มมามากถึง 13 ปุ่มด้วยกัน
• สวิตช์ไฮบริดออปติคอล-แมกคานิคอล
• เซนเซอร์เกมมิ่งคุณภาพ HERO 25K
• ปรับความละเอียดได้มากถึง 25,600 DPI
• น้ำหนัก 89 กรัม

สนใจ เมาส์ Logitech G502 X คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ไร้สาย Pulsar Xlite V2 Wireless คลิกที่นี่

เมาส์ Pulsar Xlite V2 Wireless Gaming Mouse คือเมาส์เกมมิ่งแบบ Ergonomic สำหรับมือขวาโดยเฉพาะ สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดวันไม่เมื่อยมือ พร้อมตอบสนองความต้องการในการเล่นเกมได้อย่างดีเยี่ยมด้วยเซนเซอร์ LATEST FLAGSHIP PAW3370 ของ PixArt ที่พร้อมมอบความเร็วและแม่นยำ สามารถปรับตั้งค่า DPI ได้สูงถึง 20000 บวกกับจุดเด่นอย่างน้ำหนักเมาส์ที่เบาเพียง 59 กรัม การบังคับเมาส์จึงสามารถทำได้อย่างไหลลื่นไม่หนักข้อมือ

ไม่เพียงแค่เซนเซอร์เท่านั้นที่ดีงาม แต่ตัวของสวิตซ์เองก็ยอดเยี่ยมด้วยสวิตซ์ Kailh GM 8.0 ที่แข็งแรงรองรับการกดได้มากถึง 80 ล้านครั้ง มาพร้อมกับ Scroll Mouse แบบต่ำ ทำให้สามารถเลื่อนได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้งานการเชื่อมต่อได้ถึงสองแบบ ทั้งแบบมีสายและแบบ Wireless 2.4Ghz ที่มีความเสถียรไม่ดีเลย์ ทำให้ไม่พลาดทุกเหตุการณ์ในสนามแข่ง ซึ่งเมาส์ Pulsar Xlite V2 Wireless Gaming Mouse สามารถเลือกได้ถึง 3 สีอย่าง สีดำ สีขาวและสีน้ำเงิน ครับ

สเปกเด่น

• น้ำหนักเบาเพียง 59 กรัม
• สวิตซ์ Kailh GM 8.0
• รองรับการกดได้มากถึง 80 ล้านครั้ง
• ปรับ DPI ได้สูงถึง 20000DPI

Loga Garuda Pro เป็นเมาส์ที่ออกแบบสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับใครที่กำลังมองหาเมาส์เกมมิ่งไร้สาย ใช้งานได้ยาวนานมากถึง 44 ชั่วโมง หรือหากไม่อยากกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเมื่อไหร่ ก็ยังสามารถใช้งานในระบบสายได้ด้วย มีสวิตซ์ที่แข็งแรง ทนทาน กดได้มากถึง 80 ล้านครั้ง เซนเซอร์คุณภาพที่ร่วมมือกับ Pixart แบรนด์เซนเซอร์ชั้นนำ ทำให้สามารถปรับความเร็วได้สูงสุดที่ 16,000 DPI ไฟ RGB สวยงาม มาพร้อมโปรแกรมปรับแต่งได้หลากหลาย และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกรอบให้เปลี่ยนถึง 4 แบบด้วยกัน โดยรวมแล้วเหมาะกับการเล่นเกมทุกรูปแบบ มีน้ำหนักเบาเพียง 65 กรัม ไม่หน่วงมือ มีให้เลือกถึง 4 สี สเปกระดับโปรขนาดนี้ จะเป็นเกมเมอร์ทั่วไป หรือเกมเมอร์มืออาชีพ ก็เข้ามือสุดๆ เลยครับ

สเปกเด่น

• สามารถเปลี่ยน cover ได้ถึง 2 ระดับ 
• เซนเซอร์ 3370 ติดตามทุกการเคลื่อนไหว
• Switch kailh GM 8.0 กดสูงสุดถึง 80 ล้านครั้ง
• น้ำหนักที่เบาเพียง 65 g
• DPI สูงสุด 19,000

สนใจ เมาส์ Loga Garuda Pro คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ไร้สาย  Razer Viper V2 Pro Wireless คลิกที่นี่

Razer Viper V2 Pro เลือกใช้เซ็นเซอร์ Focus Pro 30K Optical Sensor สุดแม่นยำดั่งจับวาง การันตีด้วยค่า IPS ที่สูงถึง 750 ความเร็วเมาส์สูงสุดที่ 30,000 DPI ตัวเซ็นเซอร์สามารถเปิดการใช้งาน Asymmetric Cut-off เพื่อตั้งค่าระยะความสูงของเซ็นเซอร์ได้

Razer Viper V2 Pro เพิ่งเปิดตัวมาได้ไม่นาน แต่ก็ถูกเหล่าเกมเมอร์มืออาชีพระดับโปรได้ลองใช้งานกันแล้ว ซึ่งแต่ละคนก็ลงความเห็นกันไปทิศทางเดียวกันว่าสุดยอดมากๆ ทั้งความเบา ความเข้ามือ เซ็นเซอร์คุณภาพที่ติดตามทุกการเคลื่อนไหว ทำให้มั่นใจได้ว่าเมาส์เกมมิ่งตัวนี้ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะอย่างแท้จริง แถมยังรู้ใจเกมเมอร์อีกด้วย

ใครที่กำลังมองหาเมาส์ไร้สายน้ำหนักเบา ไม่ต้องการไฟ RGB บนตัวเมาส์ เชื่อมต่อเสถียร เซ็นเซอร์คุณภาพตามติดทุกการเคลื่อนไหว คลิกได้สะใจถึง 90 ล้านคลิก มีน้ำหนักเบาเพียง 59 กรัม ผ่านการรับรองจากเกมเมอร์มืออาชีพ พลาดเมาส์ Razer Viper V2 Pro ตัวนี้ไม่ได้เลยครับ

สเปกเด่น

• ปุ่มรวมทั้งหมด 5 ปุ่ม
• สามารถเชื่อมต่อได้ทั้งไร้สายและมีสาย
• เซ็นเซอร์คุณภาพสูง Focus Pro 30K Optical Sensor
• ปรับค่าความเร็วเมาส์สูงสุดที่ 30,000 DPI
• สวิตซ์ Optical Mouse Switches Gen-3 กดได้ถึง 90 ล้านคลิก
• น้ำหนักเบาสุดๆ เพียง 59 กรัมในส่วนของเมาส์สีขาว
• ส่วนสีดำน้ำหนักอยู่ที่ 58 กรัม ไม่แตกต่างกันมากเลยครับ
• ใช้งานสูงสุด 80 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
• แผ่นเมาส์วัสดุ PTFE ลื่น เคลื่อนไหวได้ดั่งใจ

SteelSeries Rival 5 Gaming Mouse มาพร้อมกับการออกแบบทรงสมมาตร ออกแบบเพื่อการจับแบบ Claw และ Finger เป็นหลักเหมาะกับคนที่ชื่นชอบการจับเมาส์ไม่เต็มมือ วัสดุแข็งแรงทนทาน น้ำหนักพอดีมือเพียง 85 กรัม มาพร้อมกับปุ่มสั้งการทั้งหมด 9 ปุ่ม ให้ไฟ LED RGB ที่สามารถแต่งไฟได้มากถึง 10 โซนเพิ่มความหลายหลายให้กับการปรับแต่งลูกเล่นไฟ พื้นเมาส์ใช้เป็น Virgin PTFE พื้นเมาส์ลดแรงเสียดทาน ทำให้อัตราเร่งของเมาส์สูง

เลือกใช้สวิตซ์เมาส์ Golden Micro IP54 สวิทซ์ที่มาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP54 ทำให้ตัวเมาส์ทนทานเมื่อถูกน้ำหกใส่ หรือเสียก่อนเวลาอันควรเพราะมีฝุ่นสะสม รองรับการกดถึง 80 ล้านครั้งเซ็นเซอร์ TrueMove Air Sensor เซ็นเซอร์ล้ำยุคอันดับต้น ๆ ของโลก ทำให้สามารถปรับค่าความละเอียดของเมาส์ได้มากถึง 18,000 DPI เลยทีเดียว

สเปกเด่น

• ใช้งานสวิทซ์ Golden Micro รองรับการกด 80 ล้านครั้ง
• ใช้เซ็นเซอร์ TrueMove Air กันน้ำกันฝุ่น IP54
• ปุ่มกด 9 ปุ่ม ตั้งมาโครได้อย่างอิสระ
• ปรับความละเอียดได้สูงสุดถึง 18,000 DPI
• น้ำหนักเบาเพียง 85 กรัม
• ไฟ LED RGB ในตัว ปรับแต่งได้ 10 ตำแหน่ง

สนใจ เมาส์ไร้สาย SteelSeries Rival 5 คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ Corsair Katar Pro Gaming Mouse คลิกที่นี่

สำหรับเมาส์เกมมิ่งราคาประหยัดจากแบรนด์เรือใบรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นเมาส์ที่เหมาะกับเกมเมอร์งบน้อยหรือสาย FPS อยู่ไม่น้อยเลย เพราะว่าเมาส์ตัวนี้มีน้ำหนักเบาเพียงแค่ 69 กรัมเท่านั้น ส่วนดีไซน์ก็มาในขนาดกะทัดรัดรับกับการจับสไตล์ Claw Grip ได้อย่างพอดี พร้อมกับเซนเซอร์ PixArt ความละเอียด 12,400 DPI ที่ให้คุณเลื่อนเมาส์ได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับปุ่มกดที่มีถึง 8 ปุ่ม ที่ถูกใจเกมเมอร์สายยิงสุดๆ บอกเลยว่า Corsair Katar Pro เป็นเมาส์เกมมิ่งน้ำหนักเบาที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งราคาประหยัด
• การใช้งานระดับ Pro Gamer
• รองรับการตั้งค่าไฟและ Macro
• มีปุ่มกดให้ถึง 6 ปุ่ม
• DPI สูงสุด 12,400
• รองรับการกดกว่า 30 ล้านครั้ง

หลายๆ คนที่ถนัดมือซ้ายนั้นน่าจะเจอปัญหากับดีไซน์ของเมาส์ที่ทำมารับกับมือซ้าย แต่สำหรับ Corsair M55 RGB Pro ตัวนี้ก็เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว ด้วยดีไซน์แบบสมมาตร และปุ่มด้านข้างที่มีให้ทั้งสองข้าง จับถนัดทั้งมือซ้ายและมือขวา พ่วงมาด้วยเซนเซอร์ความละเอียด 12,400 DPI และน้ำหนัก 86 กรัมที่กำลังดี พร้อมกับไฟ RGB ช่วยเสริมพลังระหว่างการเล่น ใครที่เป็นเกมเมอร์มือซ้ายละก็ต้องลองเมาส์ Corsair M55 RGB Pro Gaming Mouse ตัวนี้เลย

สเปกเด่น

• เมาส์เล่นเกมทรงสมมาตร
• มีปุ่มการใช้งาน 8 ปุ่ม
• ใช้งานได้แบบ Plug and Play
• DPI สูงสุด 12400
• สวิทซ์ OMRON รองรับการคลิกกว่า 50 ล้านครั้ง

สนใจ เมาส์ Corsair M55 RGB Pro Gaming Mouse คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ Zowie S2 Gaming Mouse คลิกที่นี่

Zowie นั้นก็เป็นหนึ่งในแบรนด์เมาส์ที่ได้รับความนิยมในวงการ FPS อยู่ไม่น้อยเลย และสำหรับ Zowie S2 ตัวนี้ก็เป็นเมาส์อีกตัวที่มีขนาดเล็กกำลังพอดี รับกับทุกสไตล์การจับเมาส์ ส่วนเซนเซอร์ของเมาส์อย่าง Optical 3360 ที่รวดเร็วและแม่นยำ ปุ่มลูกกลิ้งแบบ 16 Notch ที่สามารถหมุนเลื่อนได้อย่างแม่นยำ และด้วยน้ำหนักตัวเพียงแค่ 82 กรัมเท่านั้นเอง แถมยังสามารถใช้งานได้แบบ Plug & Play เล่นเกมได้ทันทีไม่ต้องรอลงโปรแกรม ทำให้เมาส์ Zowie S2 Gaming Mouse ตัวนี้เป็นที่ถูกใจของเหล่า FPS Pro Player ทั่วโลก

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งขนาดเล็ก ดีไซน์สมมาตร
• ปุ่มกดจำนวน 5 ปุ่ม
• DPI สูงสุด 3200
• เซนเซอร์ Optical 3360
• ปุ่มลูกกลิ้งแบบ 16 Notch
• เชื่อมต่อง่ายแบบ Plug & Play
• ความยาวสาย 2 เมตร
• น้ำหนัก 82 กรัม

เมาส์ SteelSeries Aerox 3 Gaming Mouse เมาส์ที่จะเข้ามาจะเป็นทางเลือกที่เข้ากับ LifeStyle ของคุณได้ดียิ่งขึ้น ตัวนี้มาพร้อมกับน้ำหนักเพียง 57 กรัม และทรงการออกแบบ Symmetry Right เหมาะกับผู้ใช้งานที่จับเมาส์ไม่เต็มมือที่ชื่นชอบเกมแนว MOBA และ FPS เป็นอย่างยิ่งโดยตัวเมาส์มาพร้อมกับสเปค Hi-end ไม่ว่าจะเป็นเซนเซอร์ความแม่นยำสูง แบบ 1 to 1 tracking หรือสวิตซ์เมาส์กันน้ำ และรองรับการใช้งานถึง 80 ล้านคลิก สูงกว่า Omron ทั่ว ๆ ไป บนราคาที่ไม่ถือว่าสูงมากสำหรับเมาส์ Hi-end ที่ให้มาทั้งไฟ LED RGB และปุ่มมาโคร เรียกได้ว่าเป็นไอเทมลับที่น่าสนใจสำหรับชาวเกมเมอร์

สเปกเด่น

• ใช้งานสวิทซ์ Golden Micro รองรับการกด 80 ล้านครั้ง
• เซ็นเซอร์ TrueMove Air Core
• กันน้ำกันฝุ่น IP54
• CPI สูงสุดถึง 8,500 CPI
• ไฟ LED RGB ในตัว ปรับแต่งได้ 3 ตำแหน่ง
• เหมาะกับการจับแบบ Palm และ Claw
• พื้นเมาส์ Virgin PTFE

สนใจ เมาส์ SteelSeries Aerox 3 Gaming Mouse คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ Razer Viper Mini Ultralight Gaming Mouse คลิกที่นี่

Razer Viper Mini Ultralight จาก Razer พัฒนาต่อยอดการออกแบบมาจาก Razer Viper Gaming Mouse การใช้งานของมันตอบโจทย์ทั้งใช้เล่นเกม และใช้งานทั่วไป เพียงแต่มีขนาดเล็กลงมาเท่านั้น เหมาะกับคนที่ถนัดการจับเมาส์ด้วยปลายนิ้วและต้องการความเร็วในการเคลื่อนเมาส์นั่นเอง โดยเมาส์ Viper รุ่นธรรมดาจะมีความกว้างของเมาส์ที่ 57 มิลลิเมตร มีความกว้างที่ 53 มิลลิเมตรโดยประมาณ DPI สูงสุด 8,500 เนื่อจากใช้เซ็นเซอร์คนละตัวกับเมาส์ตัวหลัก ปุ่มกดถูกลดลงมาเหลือเพียง 6 จาก 8 ปุ่ม แต่ยังสามารถตั้งค่าได้อิสระพร้อม On-board Memory เหมาะสำหรับใครที่ชื่นชอบเมาส์เล็ก เพราะถือว่าค่อนข้างหายากที่จะเจอเมาส์เกมมิ่งในไซส์กะทัดรัดแบบนี้

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งขนาดเล็กทรงสมมาตร
• DPI สูงสุด 8500
• ปุ่มลัด Macro 6 ปุ่ม
• พื้นกันลื่น PTFE 

Logitech G403 Hero Gaming Mouse ยังคงใช้สวิทซ์แบบ Mechanical ให้ความรู้สึกแข็งแรงทนทานเมื่อกดลงไป และสามารถรองรับแรงกดในในระดับ 20 ล้านครั้งขึ้นไป เรียกได้ว่าอายุการใช้งานของมันยาวนานกว่าเมาส์ทั่ว ๆ ไปหลายเท่าเลยทีเดียว การออกแบบนั้นก็เบาสบายจับถนัดมือ ภายในกล่องมีตุ้มถ่วงน้ำหนักขนาด 10 กรัม ถือว่าเป็นเม้าส์เบาแถมมาให้ด้วย สำหรับการใช้งานที่เปลี่ยนไป HERO Sensor ที่เพิ่มเข้ามาทำให้ทำให้มันมี DPI สูงสุดที่เพิ่มขึ้นเป็น 25,600 จึงทำงานได้รวดเร็วแม่นยำมากกว่าเดิม และยังสามารถใช้งานกับทีวีจอและมีปุ่มให้ตั้งค่ามาโครบนเมาส์มากถึง 6 ปุ่มเลยทีเดียว

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งใช้งานมือขวาจาก Logitech
• สามารถตั้งค่า Micro ได้ 6 ปุ่มตามต้องการ
• ปรับค่า DPI ได้มากถึง 100 - 25,600
• ตุ้มน้ำหนักภายใน 10 กรัมสามารถถอดออกได้
• กริบเมาส์แบบ Dual Injected จับสบายถนัดมือ
• ไฟแสดงผล RGB 16.8 ล้านสี ปรับแต่งได้

สนใจ เมาส์ Logitech G403 Hero Gaming Mouse คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ HyperX Pulsefire Haste Gaming Mouse คลิกที่นี่

HyperX Pulsefire Haste จากแบรนด์ HyperX มาพร้อมกับการออกแบบทรงรังผึ้ง คล้ายคลึงกับเมาส์จากแบรนด์ Glorious แต่แตกต่างกันที่ขนาดที่ตัว Haste จะมีขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสะบัดเมาส์ได้อย่างรวดเร็วเหมาะมาก ๆ สำหรับผู้เล่นเกม FPS โดยเฉพาะตัวเมาส์ที่มี DPI สูงถึง 16,000 ด้วยเซนเซอร์ Optical Pixart 3335 ยิ่งทำให้เข้ากับเกมแนวนี้ยิ่งขึ้นไปอีก ส่วนใครที่กังวลว่าตัวเมาส์ที่โปร่งแบบนี้จะมีฝุ่นเข้าไปสะสมในตัวเมาส์หรือไม่ ทาง HyperX ก็ดักทางเอาไว้แล้วด้วยสวิตซ์เมาส์ตัวใหม่ TTC Golden micro dustproof switches สวิตซ์ที่เคลือบสาร Anti dust coating สำหรับกันฝุ่นเกาะเอาไว้ พร้อมด้วยความทนทานเหนือกว่าสวิตซ์เมาส์รุ่นก่อนหน้า ที่ตัวมันสามารถทำงานได้มากกว่า 60 ล้านคลิก ! เรียกได้ว่าแม้จะมีราคาแบบเบา ๆ แต่สเปคโดยรวมที่ให้มานั้นจัดเต็มมากๆ

สเปกเด่น

• เมาส์น้ำหนักเบาจาก HyperX
• หนักเพียง 59 กรัมเท่านั้น
• สวิตซ์กันฝุ่นพิเศษ เสริมความทนทาน
• DPI สูงสุดถึง 16,000
• ราคาประหยัด สเปคแรง
• มาพร้อมกับเทปกริบกันลื่น
• พื้นเมาส์ Virgin PTFE ลดแรงต้าน

HyperX Plusefire FPS Pro อีกหนึ่งเมาส์เล่นเกมสำหรับผู้เล่น FPS ด้วยน้ำหนักที่เบาและการออกแบบมาอย่างสมมาตรที่ใช้ได้ทั้งผู้ถนัดมือซ้ายและขวา ทำให้สามารถขยับเขยื้อนได้สะดวกสบาย รวดเร็ว และไม่เมื่อย พร้อมลุยคว้าชัยชนะในทุกศึก สามารถเล่นต่อเนื่องหน้าจอมคอมพิวเตอร์ได้เป็นระยะเวลานาน ตัวเมาส์มาพร้อมกับลายคลื่นบริเวณข้าง ๆ ทำให้จับได้แน่นไม่ลื่นไม่หลุดมือ และทำให้การสะบัดและการควบคุมมีความแม่นยำมากขึ้น ตัวเมาส์รองรับการกดถึง 20 ล้านครั้ง ทำให้ใครก็ตามที่มองหาเมาส์เกมมิ่งดี ๆ หรือเมาส์เบา โดยเฉพาะครับ

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งทรงถนัดมือใช้งานสะดวก
• เซนเซอร์ความไวสูง Pixart3389
• สามารถตั้งค่า Micro ได้ 6 ปุ่มตามต้องการ
• ปรับค่า DPI ได้มากที่สุดถึง 16,000
• ไฟแสดงผลเท่โฉบเฉี่ยว

สนใจ เมาส์ HyperX PulseFire FPS Pro Gaming Mouse คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ Glorious model O- Minus Wireless Gaming Mouse คลิกที่นี่

เมาส์ Glorious Model O- Minus Wireless Gaming Mouse ใช้การเชื่อมต่อแบบไร้สายอย่างเสถียรด้วย Wireless 2.4 GHz โดยสามารถใช้งานได้ยาวถึง 71 ชั่วโมงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง พร้อมใช้งานในขณะชาร์จได้อีกด้วย มีไฟ RGB ที่ปรับตั้งได้มากกว่า 16.8 ล้านสี พร้อมทั้งเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระด้วย ฐานเมาส์ G-Skates Premium Mouse Feet ดังนั้นใครที่หลงรักในเมาส์กรอบรูน้ำหนักเบาและอัดแน่นด้วยคุณภาพ ตัวนี้คือคำตอบในการตามหาเมาส์เบาของคุณครับ

สเปกเด่น

• กรอบเมาส์แบบรวงผึ้งน้ำหนักเบา
• ปรับ DPI สูงสุดที่ 19,000 DPI
• น้ำหนักเบาเพียง 65 กรัม พกพาง่าย
• เชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless และ สาย USB
• ไฟ RGB สีสวยงามพร้อมปุ่มกดทั้งหมด 6 ปุ่ม
• ใช้งานได้ยาวนาน 71 ชั่วโมง และเล่นระหว่างชาร์จได้

เมาส์ Glorious Model D- Minus Wireless Gaming Mouse เมาส์เกมมิ่งไร้สายขนาดเล็ก เน้นความคล่องตัวในการใช้งาน เป็นเมาส์กรอบรวงผึ้ง หรือเมาส์รู ระบายอากาศได้ดี เบาถูกใจคนที่ไม่ชอบเมาส์หนัก น้ำหนักมีเพียงแค่ 67 กรัม สามารถปรับค่า DPI ที่สูงสุดได้ถึง 19,000 DPI และ 400 IPS ทำให้ตัวเซนเซอร์มีความรวดเร็ว แม่นยำอย่างเหลือเชื่อด้วยเซนเซอร์ BAMF เซ็นเซอร์เฉพาะตัวจาก Glorious ที่มีไว้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ ขอยกให้เป็นเม้าส์เบาที่น่าใช้อีกรุ่น

สเปกเด่น

• กรอบเมาส์แบบรวงผึ้งน้ำหนักเบา
• ปรับ DPI สูงสุดที่ 19,000 DPI
• น้ำหนักเบาเพียง 67 กรัม พกพาง่าย
• เชื่อมต่อได้ทั้ง Wireless และ สาย USB
• ไฟ RGB สีสวยงามพร้อมปุ่มกดทั้งหมด 6 ปุ่ม
• ใช้งานได้ยาวนาน 71 ชั่วโมง เล่นระหว่างชาร์จได้

สนใจ เมาส์ Glorious Model D- Minus Wireless Gaming Mouse คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ SteelSeries Rival 3 Gaming Mouse คลิกที่นี่

เมาส์เล่นเกม SteelSeries Rival 3 Gaming Mouse ตัวนี้นั้นแม้จะมีราคาเบา ๆ เพียง 1,490 บาท แต่ก็ถือว่ามีสเปคที่ค่อนข้างแรง เริ่มด้วยน้ำหนักที่เบาเพียง 77 กรัม เพิ่มเติมสีสันให้สวยงามด้วยไฟ LED RGB ปิดท้ายด้วยเซนเซอร์ TrueMove Core ที่รองรับการแทรคตามการเคลื่อนไหวแบบ 1:1 สร้างการเคลื่อนที่ที่สมจริงที่สุดให้กับผู้ใช้งานบน DPI สูงสุด 8,500 เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครที่ไม่อยากใช้งาน Razer Viper Mini การออกแบบของมันถือว่าคลาสสิคและไม่หวือหวา เหมาะสำหรับใครที่ชอบเมาส์เบารูปทรงธรรมดา ๆ ฟีเจอร์การใช้งานไม่เยอะมาก

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งทรงสมมาตรจาก SteelSeries
• น้ำหนักเบาราคาถูกสเปคแรง
• มี 6 ปุ่มการใช้งานตั้งค่าได้อิสระ
• จดจำการตั้งค่าได้มากถึง 5 Profile
• มีไฟ LED RGB ในตัว
• รองรับ Software SteelSeries

สนใจ เมาส์ Razer Viper 8KHz Gaming Mouse คลิกที่นี่

Razer Viper เป็น Gaming Mouse ที่มีการพัฒนาต่อยอดมาจากเมาส์รุ่น Lancehead ที่ถือว่าเป็นเมาส์ดีไซน์ยอดนิยมอันดับ 1 ของ Razer มีสวิตซ์ที่ความเร็วในการสั่งการสูง และ DPI สูงถึง 16,000 และมากสุด 20,000 ในรุ่น Ultimate ที่รวดเร็วมาก ๆ แถมเมาส์ Razer ปี 2020 นี้กำลังมาแรงเหนือแบรนด์อื่นด้วยฟีเจอร์อย่าง Motion Sync ที่ทำให้การขยับและใช้งานเมาส์เบามีความลื่นไหลสมจริงและแม่นยำสุด ๆ ในรุ่นปกติราคาถือว่าไม่แพง และรองรับเฉพาะการเชื่อมต่อแบบมีสาย ส่วนรุ่น Ultimate นั้นจะยกระดับการใช้งานให้เหมาะกับคอมพิวเตอร์ Hi-end จอกว้าง ๆ ด้วย DPI ที่สูงขึ้น เชื่อมต่อไร้สายได้ ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมไฟ LED RGB บริเวณโลโก้ที่ปรับแต่งได้

สเปกเด่น

• เมาส์ดีไซน์ยอดนิยมจาก Razer
• ใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
• ทำงานไร้สายในรุ่น Ultimate
• มี 8 ปุ่มการใช้งานปรับแต่งได้อิสระ
• การขยับเมาส์สมจริงด้วย Motion Sync
• ไฟ LED RGB ปรับแต่งได้บริเวณ Logo
• มี On-Board Memory จดจำการตั้งค่าในตัว
• รองรับการใช้งานบน Software Razer Synaspe

สนใจ เมาส์ Glorious Model O Gaming mouse คลิกที่นี่

Glorious Model O อดีตเมาส์เกมมิ่งที่เบาที่สุด แม้จะยกมงกุฎให้กับเจ้า Viper Mini ไปแล้วแต่ก็ยังถือว่ามีขนาดเบาที่สุดในเมาส์ไซส์ M อยู่ดี โดยการออกแบบของมันนั้นจะใช้โครงสร้างที่โปร่ง ช่วยระบายความร้อนได้ดีทำให้เหงื่อบริเวณฝ่ามือลดลง ช่วยลดอีก 1 ปัญหาให้กับผู้เล่นเกมแนว FPS ที่เหงื่อบริเวณฝ่ามืออาจจะเข้ามารบกวนการใช้งานเวลาตื่นเต้น หรือคับขัน ส่วนสเปคภายในก็ให้มาแบบไม่กั๊กอย่าง Pixart เซนเซอร์ DPI 12,000 สายถักกันสายขาด แม้ว่าแบรนด์จะไม่ดังแต่การออกแบบโดยรวมถือว่าทำออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเมาส์เบาสุด ๆ หรืออยากได้เมาส์ที่ระบายอากาศบนฝ่ามือได้อย่างยอดเยี่ยม

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งดีไซน์สมมาตร
• ออกแบบหลังเมาส์ด้วยโครงรังผึ้ง
• ระบายอากาศบนฝ่ามือได้ดี
• มาพร้อมปุ่มการใช้งาน 6 ปุ่ม
• มีไฟ LED RGB ตกแต่งสวยงาม
• รองรับการใช้งานกับ Software

เมาส์เล่นเกม Logitech G Pro Wireless เมาส์เกมมิ่งไร้สายที่มาพร้อมกับน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาเพียง 80 กรัมเท่านั้น แม้ว่าจะเป็นเมาส์ไร้สายแต่ความแม่นยำของมันที่ทำงานบนฟีเจอร์ Light Speed ของ Logitech นั้นมอบการเชื่อมต่อที่มีเสถียรภาพ เทียบเท่าการเชื่อมต่อแบบมีสายบนความละเอียด 16,000 DPI ด้วยเมาส์เซนเซอร์ที่ดีที่สุดของ Logitech อย่าง HERO มาพร้อมปุ่มสั่งการปรับแต่งได้ถึง 8 ปุ่ม จัดว่าเป็นเมาส์ไร้สายน้ำหนักเบาที่สเปคแรงเป็นลำดับต้น ๆ เลยก็ว่าได้ เหมาะสำหรับใครที่อยากได้เมาส์เบาด้วย และทำงานแบบไร้สายได้ และมีการทำงานแบบไร้สายที่ไว้วางใจได้ ไม่ดีเลย์นั่นเอง

สเปกเด่น

• เมาส์เกมมิ่งไร้สายน้ำหนักเบาพิเศษ
• การออกแบบสมมาตรใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและขวา
• เชื่อมต่อเสถียร ด้วยเทคโนโลยี Light Speed
• มาพร้อม 8 ปุ่มควบคุม ตั้งค่าได้อย่างอิสระ
• ประดับไปด้วยไฟ LED RGB ตั้งค่าได้ มี On-Board Memory
• รองรับการทำงานกับ Software Logitech
• ใช้เซนเซอร์ออริจินัล ที่แม่นยำและรวดเร็วที่สุดของ Logitech

สนใจ เมาส์ไร้สาย Logitech G Pro Wireless Gaming Mouse คลิกที่นี่

สนใจ เมาส์ Razer Viper Mini Ultralight Gaming Mouse คลิกที่นี่

Razer Viper Mini เป็นเมาส์ไซส์ S จาก Razer ที่ใช้โมเดลเดียวกับ Viper ตัวก่อนหน้า ลดปุ่มการใช้งานจาก 8 ปุ่มเหลือ 6 ปุ่มโดยการตัดปุ่มคีย์ลัดสำหรับใช้งานด้วยมือซ้าย ออกไป เช่นเดียวกับสเปคของตัวเมาส์ที่ลดลงมาเล็กน้อย DPI จึงอยู่ที่ 8,500 ซึ่งเหมาะกับการใช้งานบน PC และ Notebook ทั่ว ๆ ไป แต่การใช้งานในส่วนอื่น ๆ ถิอว่ายังเหมือนกับเมาส์รุ่นหลักตามปกติ และเหนือกว่าเมาส์ราคาใกล้ ๆ กันอยู่มาก อีกทั้งยังเพิ่มพื้นที่แสดงผลไฟ LED RGB ให้มากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหาก สำหรับใครที่ชื่นชอบเมาส์สายตัวเล็กน้ำหนักเบา เจ้า Razer Viper Mini ก็ถือว่าเป็นเมาส์เบาที่สุดในตอนนี้

สเปกเด่น

• เมาส์รูปทรงสมมาตรสำหรับใช้งานมือขวา
• ขนาดเล็กน้ำหนักเบาควบคุมง่าย
• พื้นเมาส์ใช้วัสดุกันลื่นเคลื่อนที่ได้อย่างแม่นยำ
• มีไฟ LED RGB ปรับแต่งได้
• ปุ่มการใช้งาน 6 ปุ่มตั้งค่าได้อิสระ
• ใช้สวิตซ์ Optical ตอบสนองการสั่งการได้อย่างรวดเร็ว