Mechanical Keyboard คืออะไร พิมพ์แล้วไว้ขึ้นไหม ดีขึ้นจริงรึเปล่า? ต้องใช้ Mechanical Keyboard เล่นเกมจริงไหม เรามีคำตอบกับบทความม้วนเดียวจบ ที่จะทำให้คุณรู้จักเจ้าคีย์บอร์ดกลไกนี้ดีกว่าใคร

โดยปกติทั่วไปแล้ว ชื่อนำหน้าคำว่าคีย์บอร์ดนั้นหมายถึงกลไกสำหรับสั่งงานของตัวแป้นพิมพ์นั่นเอง ฉะนั้น Mechanical Keyboard ถ้าแปลตรงตัวก็คือคีย์บอร์ดกลไก ที่มีการใช้สวิตซ์กลไก เป็นตัวสั่งการนั่นเอง โดยความแตกต่างของการใช้งานสวิตซ์กลไกนั้น ก็คือส่วนสวิตซ์กลไกนั้นมีความซับซ้อนกว่าคีย์บอร์ดแบบอื่น ๆ ทำให้สามารถใส่ลูกเล่นต่าง ๆ เข้าไปข้างในได้ ทำให้เกิดเป็นคีย์บอร์ดที่มีอิสระในการเลือกการใช้งานได้หลากหลาย และตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไป ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งMechanical Keyboard ในหลาย ๆ รุ่นยังรองรับการ Custom เองไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะเป็น แผ่นรองพิมพ์ ตัว Keyboard Switch ไปจนถึง Keycaps เอง

Mechanical Keyboard อาจจะฟังดูว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งมาแต่จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าเราอยู่กับ Mechanical Keyboard มาก่อนแป้นพิมพ์แบบอื่น ๆ เสียอีก แต่เนื่องจากคีย์บอร์ดพวกนี้มีโครงสร้างซับซ้อนยุ่งยากทำให้ต้นทุนสูง ทั้งยังมีน้ำหนักมาก ทำให้ในยุคต่อมา แป้นพิมพ์ปุ่มยาง (Membrane) จึงถูกผลิตออกมาแทนที่ Mechanical Keyboard นั่นเอง แต่การทำงานของแป้นพิมพ์ปุ่มยางนั้น เรียกได้ว่ามีสัมผัสและความทนทานที่ด้อยกว่า Mechanical Keyboard อย่างเห็นได้ชัด แถมนอกจากนั้น Mechanical Keyboard ยังมีโครงสร้างที่เหมาะกับการพิมพ์มากกว่า เพราะสวิตซ์มีทรงสูงจึงสามารถออกแบบให้ทำมุมเข้านิ้วได้มากกว่าด้วย ฉะนั้นสุดท้ายแล้วสำหรับคนทำงานที่ต้องการคีย์บอร์ดที่รับนิ้วได้ดี เหมาะกับการใช้งานยาวนานต่อเนื่องก็ต้องกลับมาใช้ Mechanical Keyboard อยู่ดี

ขึ้นชื่อว่าเป็นแป้นพิมพ์กลไก แต่จริง ๆ แล้วเจ้า Mechanical Keyboard นั้นไม่ได้มีชิ้นส่วนชวนสับสนเท่าไหร่นัก เพียง 5 ส่วนเท่านั้น ไล่จากล่างขึ้นบนก็ได้แก่

1. ตัวเคสคีย์บอร์ด - ตัวกรอบของ Mechanical Keyboard ทั้งหมดสำหรับบรรจุองค์ประกอบอื่น ๆ ส่วนมากจะเป็นพลาสติกแข็งแต่ในบางรุ่น บางเจ้าก็สามารถเป็น โลหะจำพวกอลูมิเนียมได้เช่นกัน
2. แผงวงจร PCB - แผงวงจร PCB แผงวงจรของ Mechanical Keyboard เป็นตัวรับสัญญาณและส่งสัญญาณของคีย์บอร์ดเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์
3. เพลทสำหรับใส่สวิตซ์ - เพลทสำหรับใส่สวิตซ์คีย์บอร์ด ชิ้นส่วนนี้ส่งผลถึงเสียงที่ได้ สัมผัสตอนกด และความสวยงามของตัวสวิตซ์ เป็นอีก 1 ส่วนที่นักประกอบ Mechanical keyboard เล่นกัน
4. สวิตซ์คีย์บอร์ด - สวิตซ์สำหรับส่งสัญญาณไปยังแผงวงจร มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบโดยแต่ละรูปแบบนั้นะมีเสียง และความเร็วที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงรองรับ Keycaps ที่แตกต่างกันด้วย โดยส่วนมากสวิตซ์ของ Mechanical Keyboard จะเป็นแบบ Cross Stem หรือเรียกกันว่า MX switch เช่น สวิตซ์คีย์บอร์ดของ Cherry หรือ Kailh
5. คีย์แคป - ส่วนครอบสวิตซ์หรือปุ่มที่เราใช้กดพิมพ์ ส่วนนี้เป็นส่วนที่คุณจะได้ปลดปล่อยจินตนาการของคุณอย่างเต็มที่ในการเลือกสีสัน หรือออกแบบ Keycaps แปลก ๆ มาใช้งาน หรือเป็นปัจจัยในการเลือกซื้อ Mechanical Keyboard ของหลาย ๆ เจ้า เพราะ Texture ของ ปุ่มกดที่แตกต่างกันอย่างเช่น สัมผัสหนึบมือของ Keychron หรือผิวหยาบ ด้าน ๆ ของ Leopold ก็ถือว่าเป็น Switch Keyboard Mechanical ที่หาซื้อได้ยาก ได้จากการซื้อสินค้าของแบรนด์เท่านั้น

สำหรับ Mechanical Keyboard Switch นั้น โดยปกติจะถูกจำแนกออกเป็น 2 แกนหลัก ๆ ได้แต่ เสียง (เสียงดัง-Clicky/ เสียงเบา-Silent) และจังหวะกด (1 จังหวะ-Linear / 2 จังหวะ-Tactile) แต่จริง ๆ แล้วยังมีแกนที่ 3 หรือแรงต้าน (แข็ง-Stiff/ อ่อน-Soft/ ปานกลาง-Medium) ที่เป็นตัวระบุว่าตัวสวิตซ์ นั้นมีความสู้มือขนาดไหน ยิ่งมีแรงต้านมาแปลว่าตัวสปริงแข็งมากยิ่งกดลงไปก็ต้องใช้แรงมากขึ้น แต่ความเร็วในการรีเซทตัวเองก็จะมาขึ้นไปด้วย และนอกจากนี้ยังมีแกนที่ 4 คือความเร็ว หรือระยะในการเดินทาง (Travel Distance) ซึ่งไม่เป็นที่พูดถึงกันมากนัก เฉพาะบางคนที่ซีเรียสเรื่องความเร็วมาก ๆ จึงจะนำส่วนนี้มาเป็นตัวตัดสิน เพราะให้ความแจกต่างแค่ในระดับเสี้ยวินาที โดยวิธีเลือก Mechanical Keyboard Switch นั้นให้คุณเลือกจากความชื่นชอบของคุณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ จังหวะกด หรือเสียงก่อน อย่างการใช้ตัวกรองของ Mercular ในหน้า Gaming Keyboard คุณสามารถกรองสัมผัส Tactile หรือ Linear และเสียง Clicky และ Silent ผสมกันได้ เพื่อหาคีย์บอร์ดที่มีสัมผัสเหมาะกับคุณให้มากที่สุด ส่วนความแข็งและแรงต้านนั้น เนื่องจาก Mechanical Keyboard ในตลาดปัจจุบันนั้นเป็นแบบสำเร็จรูปจะประกอบไปด้วยสวิตซ์ความแข็งปานกลางที่เป็น Blue (Clicky-Tactile)/ Red (Silent-Linear) และ Brown (Silent-Tactile) เกือบทั้งหมด ทำให้ต้องซื้อสวิตซ์มาเปลี่ยนบนคีย์บอร์ดแบบ Hot Swappable แทน

สำหรับความแตกต่างแรกสุดของ Mechanical Keyboard ราคาถูก กับราคาแพง ก็ต้องพูดถึงเรื่องวัสดุเป็นอย่างแรก ส่วนมากคีย์บอร์ดพิมพ์งานราคาประหยัด ก็จะมาพร้อมเคสคีย์บอร์ดที่ใช้วัสดุพลาสติกแข็ง แต่ Mechanical Keyboard ส่วนมากจะมีโครงสร้างเป็นโลหะ ทำให้มีอายุการใช้งานนานกว่าแน่นอน รวมไปถึงคุณภาพพของตัวสวิตซ์อย่างเช่น Kailh นั้นจะรองรับการกดที่น้อยกว่า Razer รวมไปถึงสัมผัสของ Keycaps ที่คุณจะเห็นได้ชัดหากเคยสัมผัส Keycaps ของ Mechanical Keyboard Leopold หรือ Keychron ว่ามีสัมผัสที่น่าพิมพ์ และหนึบมือจริง ๆ

นอกจากนี้ หากเทียบกับคีย์บอร์ดทั่ว ๆ ไปแล้ว Mechanical Keyboard นั้นสามารถดูรักษาและมีระยะการใช้งาน รวมไปถึงจำนวนครั้งที่มากกว่าแป้นพิมพ์ทั่ว ๆ ไปหลายเท่า รวมไปถึงขจัดจุดอ่อนที่แป้นพิมพ์ Membrane อย่างพวก Rubber dome มีกัน เช่นเรื่องยางเสื่อมสภาพทำให้สัมผัสทางการพิมพ์เปลี่ยนไป แป้นไม่เด้งสะท้อนมือ หรือเมื่อเกิดความเสียหายแล้วจะต้องเปลี่ยนใหม่ทั้งแผง ทำให้เมื่อมองในระยะยาว Mechanical Keyboard นั้นมีความคุ้มทุนมากเมื่อมันสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 – 20 ปี เลยทีเดียว

เมื่อคุณเข้าใจ Mechanical Keyboard ในระดับหนึ่งแล้วและอยากจะเป็นเจ้าคีย์บอร์ดตัวนี้ วิธีการเลือกซื้อก็ไม่ยากนัก เริ่มต้นจากการตั้งเป้าการใช้งานของตัวเอง เช่นอยากได้คีย์บอร์ดเน้นพิมพ์/ ใช้งานกับ iPad ได้/ เชื่อมต่อไร้สาย/ ขนาดเล็ก-กลาง-ใหญ่ แล้วเลือกจากตรงนั้นเป็นหลักจะดีที่สุดครับ โดยคีย์บอร์ดสำหรับเล่นเกมนั้น ก็ควรใช้งานเป็น Red Switch ขนาดเล็กพกพา และจัดพพื้นที่ง่าย คีย์บอร์ดทำงานก็ควรเป็น Full Size ทำให้ใช้งานได้ครบครัน อาจจะรองรับการเชื่อมต่อ Multi Device หรือมี USB Passthrough ใครที่ต้องการ Mechanical Keyboard ที่พิมพ์ดีสัมผัสหนึบก็เลือกแบรนด์ที่มี Keycaps ที่ตอบโจทย์ หรือเลือกใช้งาน Green Switch ของ Cherry ได้

นอกเหนือจาก Mechanical คีย์บอร์ดสำเร็จรูปภายในเว็บไซต์ของเราแล้ว ยังมีอีกสายหนึ่งที่คนเล่น Mechanical Keyboard  ชื่นชอบคือการได้เลือกชิ้นส่วนมาประกอบเอง การเลือกซื้อคีย์บอร์ด Layout เช่น Glorious GMMK Compact Barebones เพื่อไปหาสวิตซ์ MX Switch และ Mechanical Keyboard Keycaps มาใส่เองเพื่อปรับแต่งตามใจชอบก็เป็นทางเลือกที่ประหยัดเหมาะกับสาย Customize ที่อยากได้คีย์บอร์ดที่เป็นของตัวเองจริง ๆ

Mechanical Keyboard นั้นสามารถดูแลความสะอาดได้อย่างง่ายดาย เพราะผู้ใช้งานสามารถถอด Keycaps ออกมาได้ตลอดเวลา เพื่อนำมาล้างน้ำปัดฝุ่น และเช็ดทำความสะอาดทั้งตัวแป้นพิมพ์ และ Keycaps ได้ โดยวิธีการที่ง่ายที่สุดคือใช้คอตต้อนบัด ชุบแอลกอฮอลเช็ดทำความสะอาดตามซอกซอนต่าง ๆ ของ Mechanical Keyboard ของคุณ และส่วนที่เป็น Keycaps แนะนำให้แช่นำสบู่และขัดด้วยแปรงสีฟันเพื่อทำความสะอาด และทิ้งให้คีย์บอร์ดแห้งสนิทก่อนจะนำกลับไปเชื่อมต่ออีกครั้ง หรือถ้ายังไม่เปื้อนมากอาจจะใช้สเปรย์ลม หรือที่เป่าเลนส์กล้องเป่าทำความสะอาดตามซอกซอนต่าง ๆ ได้เช่นกัน

และ ทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลพื้นฐานของ Mechanical Keyboard ทั้งหมด เป็นอย่างไรบ้างครั้บถ้าชื่นชอบ ก็อย่าลืมติดตามและกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะครับ