19 ต.ค. 2566
เหล่าเกมเมอร์ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่อยู่แต่ไม่รู้จะเลือกยังไงให้ได้สเปกแรงสมใจ มองมาทางนี้ได้เลยครับ ด้วยความที่ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ในสมัยนี้นั้นมีคำศัพท์ยาก ๆ เต็มไปหมด ไหนจะความเร็ว, รอบหมุน, GHz ไหนจะ BUS อีกบอกเลยว่าเยอะแยะเต็มไปหมด ลืมคำศัพท์ยาก ๆ พวกนั้นไปเพราะวันนี้พวกเรา Mercular จะสรุปทุกอย่างที่คุณต้องรู้ก่อนซื้อคอมเครื่องใหม่ด้วย วิธีเลือกคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์สเปกแรง ที่จะช่วยให้การเลือกคอมพิวเตอร์เล่นเกมเครื่องใหม่ของคุณนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายแสนง่าย อ่านจบแล้วต้องร้อง อ๋อ พร้อมเลือกเครื่องที่ถูกใจได้ทันที จะมีอะไรสำคัญ ๆ บ้าง ไปดูกันเลย
การ์ดจอ (GPU) ภาพสวยไม่สวย วัดกันที่นี่
เมื่อพูดถึงสเปคคอมเล่นเกมแล้วสิ่งที่ต้องนึกถึงสิ่งแรกเลยคือ การ์ดจอหรือเจ้า GPU นั่นเอง จะเรียกว่าหัวใจสำคัญของคอมพิวเตอร์เล่นเกมเลยก็ไม่ผิดนัก เพราะเจ้าการ์ดจอตัวนี้จะเป็นส่วนที่แสดงผลงานภาพและการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในเกมที่เราเล่นอยู่นั่นเอง ซึ่งสเปกภายในการ์ดจอที่เราต้องสนใจมีสองอย่างหลัก ๆ เลยคือ
- VRAM: ขนาดแรมภายในของการ์ดจอ ยิ่งเยอะยิ่งทำให้การประมวลผลนั้นลื่นไหลโดยขั้นต่ำสำหรับคอมพิวเตอร์เล่นเกมควรอยู่ที่ 8GB ก็สามารถเล่นเกมส่วนใหญ่ได้สบาย ๆ แล้วล่ะครับ แต่ถ้าอยากได้สเปกแรง ๆ ในสมัยนี้ควรเป็น 16GB ขึ้นไปครับ
- Clock Speed: เรียกได้ว่าเป็นความเร็วในการรับส่งของมูลของ GPU หมายความว่ายิ่งเยอะยิ่งทำให้เฟรมเรทของเกมที่เราเล่นอยู่นั้นเพิ่มขึ้นมากขึ้นด้วยโดยสำหรับสมัยนี้นั้นควรเป็น 2.0 GHz ขึ้นไปกันหมดแล้ว
โดยวิธีง่ายที่สุดในการเลือกการ์ดจอที่ใช้เล่นเกมนั้นจะเป็นการดูรุ่นของการ์ดจอตรง ๆ เลย ซึ่งยิ่งรุ่นใหม่กว่า = ยิ่งดีกว่า โดยการ์ดจอที่จะใช้เล่นเกมนั้นจะมีอยู่ด้วยกัน 2 เจ้าใหญ่ ๆ เลยก็คือ Nvidia และ AMD
Nvidia
สำหรับการ์ดจอค่ายเขียวอย่าง Nvidia นั้นจะมีซีรีส์หลัก ๆ เลยคือ GeForce RTX มีวิธีการดูรุ่นที่ง่ายมาก ๆ คือสังเกตจากเลขตามหลัง โดยแบ่งออกเป็นซีรีส์ (เลขหลักพัน) ตั้งแต่ 1000, 2000, 3000 ไปจนถึง 4000 ซีรีส์ล่าสุดและมีตัวเลขข้างหลังที่บอกถึงระดับความแรงของการ์ดจอซีรีส์นั้น ๆ ตั้งแต่ 60 70 80 จนแรงสุดที่ 90 ซึ่งเลขที่สูงขึ้นหมายถึงราคาที่สูงขึ้นเช่นกัน
- ตัวอย่างเช่น Nvidia GeForce RTX 4090 Ti ที่สื่อว่าเป็นการ์ดซีรีส์ล่าสุด 4000 Series ที่มีระดับความแรงสูงสุด 90 ต่อท้ายด้วย Ti (เหมือน XT ของ AMD) ที่แปลว่าเป็นรุ่นที่อัปเกรดขึ้นกว่า 4090 ธรรมดา
AMD
สำหรับการ์ดจอค่ายแดงอย่าง AMD นั้นจะมีซีรีส์หลักในสมัยนี้เป็น Radeon RX ที่สามารถดูรุ่นและความแรงได้จากตัวเลขตามหลัง โดยแบ่งซีรีส์ที่ยอดนิยม (เลขหลักพัน) ได้แก่ 6000 และ 7000 ที่เป็นซีรีส์ล่าสุด และดูระดับความแรงได้ที่ตัวเลขที่ตามมา (เลขหลักร้อย) ตั้งแต่ 600, 700, 800 และสูงสุดที่ 900
- ตัวอย่างเช่น AMD Radeon RX 7900 XT ที่สื่อว่าเป็นการ์ดจอ 7000 Series ซีรีส์ล่าสุด มีระดับความแรง 900 ที่สูงสุดแล้ว ต่อท้ายด้วย XT (เหมือน Ti ของ Nvidia) จะหมายถึงเป็นรุ่นอัปเกรดของ RX 7900 ตัวธรรมดา
*ตัวเลขระดับความแรงของทั้งสองเจ้านั้นจะมีสเปกความแรงของการ์ดจอที่พอ ๆ กัน (เช่น 60 ของ Nvidia และ 600 ของ AMD) โดย AMD นั้นจะมีความแรงน้อยกว่าเล็กน้อยแลกกับราคาที่ถูกลง
หน่วยประมวลผลกลาง (CPU) คอมจะแรงแค่ไหน วัดที่นี่
ตัววัดขีดจำกัดของคอมพิวเตอร์เลย คอมพิวเตอร์ของคุณจะเร็วได้มากแค่ไหนก็ต้องวัดกันที่เจ้า CPU เนี่ยแหละครับ สิ่งที่เราต้องดูในการเลือก CPU เลยคือความเร็วการทำงาน (Clock Speed) ที่จะถูกวัดเป็นหน่วย GHz แน่นอนครับตามคอนเซ็ปต์ยิ่งเจ้าค่า GHz นี้สูงเท่าไหร่ยิ่งประมวลผลได้เร็วขึ้น ซึ่งมักจะมาด้วยกันสองค่าเป็น xx / xx GHz ซึ่งหมายถึงความเร็วทำงานทั่วไปและความเร็วสูงสุดนั่นเอง
โดยเพื่อที่จะไม่ปวดสมองไปมากกว่านี้เจ้า CPU นั้นสามารถดูที่รุ่นเพื่อเทียบเคียงความแรงของสเปกได้เหมือนกันกับ GPU ซึ่งค่ายที่ผลิต CPU จะมีด้วยกัน 2 เจ้าได้แก่ Intel ค่ายฟ้าและ AMD ค่ายแดง ซึ่งรุ่นของทั้งคู่สามารถเปรียบเทียบกันได้ง่าย ๆ ดังนี้เลย
Intel Core i3 / AMD Ryzen 3 | รุ่นต่ำที่สุด มีราคาไม่แรงมาก เหมาะกับการใช้งานธรรมดาทั่วไปมากกว่า ไม่เหมาะกับการเล่นเกมเลย |
Intel Core i5 / AMD Ryzen 5 | เรียกได้ว่าขั้นพื้นฐานสำหรับการเล่นเกม เพียงพอสำหรับเล่นเกมทั่ว ๆ ไปค่อนไปสูง ร่วมถึงสามารถใช้ทำงานงานตัดต่อทั่วไปได้ด้วย |
Intel Core i7 / AMD Ryzen 7 | รุ่น CPU ระดับกลางไปจนถึงสูง ถ้ามองหาคอมเล่นเกมแรง ๆ ก็เล็งเลข 7 ไว้ได้เลยครับ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใหม่ ๆ เล่นได้ทุกเกมแน่นอน |
Intel Core i9 / AMD Ryzen 9 | อันนี้เรียกได้ว่ารุ่นสูงสุดเลยซึ่งมันจะเกินการเล่นเกมไปซักหน่อย มีราคาที่สูง สเปกแรงซึ่งเหมาะกับการนำไปใช้กับงานกราฟิก งานตัดต่อหรือเรนเดอร์ภาพสามมิติขั้นสูงมากกว่า |
หน่วยความจำหลัก (RAM) การใช้งานจะลื่นไหลหรือกระตุก วัดที่นี่
สำหรับ RAM นั้นเปรียบเสมือนเจ้าหน้าที่ที่คอยจัดระเบียบข้อมูลต่าง ๆ ก่อนส่งให้ CPU ประมวลผล ยิ่งมีเจ้าหน้าที่เยอะข้อมูลที่ส่งไปได้ก็เยอะขึ้น คอมพิวเตอร์ของเราก็ทำงานได้ลื่นไหลมากขึ้น แต่ถ้าเจ้าหน้าที่น้อยข้อมูลต่าง ๆ ก็เริ่มติดขัด ต้องต่อคิวทำให้การใช้งานช้าลง เกิดอาการคอมค้าง จึงเป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างในการเล่นเกมเพราะยิ่ง RAM มากขึ้นจะทำให้คุณสามารถเปิดโปรแกรมหลาย ๆ หน้าต่างพร้อมกันได้หรือใช้งานโปรแกรมเดียวหนัก ๆ เลยก็ยังไหว เครื่องไม่อืด ซึ่งสำหรับเหล่าเกมเมอร์แล้วควรมี RAM ที่ 16GB ขึ้นไปพร้อมกับ BUS (ความเร็วในการรับส่งข้อมูล) ที่ 3200 ก็ถือว่าราคาไม่แรงมาแถมเพียงพอต่อเกมในปัจจุบันแล้วล่ะครับ
พื้นที่จัดเก็บ (HDD/SSD) เปิดเครื่องไว โหลดเกมเร็ว
พื้นที่จัดเก็บข้อมูลหรือ Harddisk เนี่ยเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ เพราะเป็นตัวจัดเก็บข้อมูลและเรียกใช้งานข้อมูลเหล่านั้น ยิ่งมีความเร็วแค่ไหนคอมพิวเตอร์ของเราก็จะเปิดเครื่องได้เร็วมากขึ้น เกมที่เล่นโหลดฉากต่าง ๆ ให้พร้อมเล่นได้เร็วกว่าเคย ซึ่งสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญเลยคือ SSD ของคู่ใจของเกมเมอร์ในสมัยนี้เพราะมีความเร็วในการเขียน-อ่านข้อมูลเร็วกว่า HDD มาก ๆ โดยเฉพาะ SSD NVMe M.2 ที่เร็วกว่าตัวอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งขั้นต่ำที่ควรมีเลยคือ SSD NVMe M.2 ความจุอย่างน้อย 1TB เพื่อให้ตอบรับกับเกมสมัยนี้ที่กินพื้นที่มากขึ้นมาก ๆ บางเกมกินพื้นที่เป็น 100GB เลยทีเดียว โดยคุณสามารถมีทั้ง SSD และ HDD พร้อมกันได้
และนี่คือทั้งหมดของ วิธีเลือกคอมพิวเตอร์เล่นเกมส์สเปกแรง ที่นำมาฝากกันวันนี้ เพียงแค่ดูองค์ประกอบหลัก ๆ ทั้งหมดนี้เราก็สามารถดูและเลือกคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมได้แล้ว ซึ่งในการเลือกซื้อคอมพิวเตอร์สำหรับเล่นเกมนั้นไม่ใช่แค่ซื้อสเปกแรง ๆ ตัวท็อปเพียงอย่างเดียวแต่ต้องคำนึงถึงรูปแบบการใช้งานหรือเกมที่เราตั้งเป้าจะเอามาเล่นด้วย เพื่อที่จะได้ประหยัดเงินที่จะเสียไปโดยไม่ได้ใช้งานนะครับ สุดท้ายนี้นอกจากชิ้นส่วนอุปกรณ์แล้วการเล่นเกมนั้นจำเป็นต้องมีจอมอนิเตอร์คุณภาพดีควบคู่กันไปด้วย สามารถเข้ามาเลือกดูได้ในเว็บไซต์ Mercular.com ได้เลย พวกเรามีสินค้าคุณภาพเยี่ยมที่คัดสรรมาจากแบรนด์ชั้นนำ ที่ทุกชิ้นมาพร้อมประกันและบริการหลังการขายที่หายห่วงเลยล่ะครับ ครั้งหน้าจะมี Buying Guide สินค้าหรือ Gadget ตัวไหนอีกก็อย่าลืมติดตามกันไว้ สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
