30 มี.ค. 2565
แม้จะเพิ่งเปิดตัวให้อัปเดตล่าสุดกันไปไม่นานกับ iOS 15.4 ที่มาพร้อมฟีเจอร์ว้าว ๆ อย่างการปลดล็อกหน้าจอด้วย Face ID ขณะสวมหน้ากากอนามัย, การใส่ข้อมูลการฉีดวัคซีนใน Wallet, อีโมจิ, ฯลฯ แต่ถึงจะมีฟีเจอร์พิเศษมากมาย แต่หลาย ๆ คนกลับมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ต่าง ๆ มากมายเพราะใช้ iOS 15.4 แบตไหลเป็นน้ำเลยทีเดียว มีผู้ใช้งานบางคนที่ใช้งาน iPhone 13 Pro Max เมื่ออัปเดตเรียบร้อยแล้วสามารถใช้งานได้ไม่ถึงครึ่งวันแบตเตอรี่ก็ลดไปเกือบครึ่งแล้ว นี่ยังไม่รวมถึง iPhone รุ่นก่อน ๆ ที่ผู้ใช้งานนั่งน้ำตาซึมเป็นแถบเพราะแบตไหลไม่ไหว เรียกได้ว่า iOS เวอร์ชันล่าสุดนั้นมีทั้งข้อดีและข้อควรระวังที่หลาย ๆ คนควรพิจารณาให้ดีก่อนอัปเดต ซึ่งข้อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ถูกส่งต่อไปยังศูนย์ Apple จนทางแบรนด์ต้องออกมาให้คำตอบด้วยตัวเอง
iOS 15.4 แบตไหล เครื่องร้อน จริงไหม?
อย่างที่ได้เกริ่นไปด้านบนว่ามีผู้ใช้งาน iPhone ที่อัปเดต iOS 15.4 แบตไหลมากมาย เรียกได้ว่าทั่วโลกเลยก็ว่าได้ จึงทำให้มีการส่งปัญหานี้ไปยังทาง Apple Support ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้ออกมาให้คำตอบว่า แท้จริงแล้วการที่อัปเดต iOS 15.4 แบตไหลนั้นเป็นเรื่องปกติ คุณอาจจำเป็นต้องให้เวลาแอปพลิเคชันและฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ปรับตัวกันหน่อยภายในระยะเวลา 48 ชั่วโมง ซึ่งเรื่องแบตไหลนั้นถือเป็นเรื่องชั่วคราวไม่ถาวร จึงไม่ต้องเป็นกังวลนานนัก แต่หากรอแล้วรอเล่าแล้วยังแบตไหลไม่หาย สามารถ DM ไปส่วนตัวเพื่อขอความช่วยเหลืออื่น ๆ ได้
ซึ่งนอกจาก iOS 15.4 แบตไหลแล้ว หลาย ๆ คนยังพบปัญหาเครื่องร้อนขณะใช้งาน โดยปกติแล้วจะพบใน iPhone รุ่นเก่ากว่า iPhone 11 ทำให้หลาย ๆ คนเป็นกังวลและกำลังหาวิธีการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ด้วยตัวเอง ซึ่งต้องบอกว่าไม่ต้องไปหาที่ไหนไกล Mercular.com รวมคำแนะนำสำหรับการแก้ไขปัญหาเครื่องร้อนด้วยตัวเองไว้ให้แล้วที่นี่
Howto แก้ปัญหา iOS 15.4 แบตไหล เครื่องร้อน ด้วยตัวเอง
1.ใช้งาน Mobile Accessories ของแท้ ได้รับการรับรอง
เริ่มต้นจากการใช้งานสายชาร์จหรือหัวชาร์จของแท้ ที่ได้รับมาตรฐานการใช้งานอย่างครบถ้วน เลือกใช้แบรนด์ที่ได้มาตรฐานอย่างของ Apple เอง หรือ Belkin, Anker, Remax, Energea, Eloop, Hoco, Momax เป็นต้น ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ต่างได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรองความปลอดภัย 100% อีกทั้งยังมีบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม
2.ปิด Background App Refresh
เชื่อว่าหลายคนอาจยังไม่รู้ว่า Background App Refresh นั้นเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว เพราะแม้ว่าคุณปิดแอปพลิเคชันไปแล้ว แต่ตัวแอปก็ยังทำงานอยู่ตลอดเวลา เช่น Line, Instagram, Facebook, เป็นต้น ซึ่งการใช้งานแบตเตอรี่ตลอดเวลาจึงทำให้เครื่องร้อนได้ เพราะฉะนั้นหากต้องการแก้ปัญหาเครื่องร้อน การปิด Background App Refresh จึงช่วยลดปัญหาเครื่องร้อนได้ไม่มากก็น้อย วิธีปิดง่าย ๆ เพียงกดเข้าไปที่ Settings > General > Background App Refresh แล้วเลือกปิดแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการได้เลย
3.ปรับลดความสว่างหน้าจอ
นอกจากการอัป iOS 15.4 แบตไหลจะทำให้เครื่องร้อนแบบไม่รู้ตัวแล้ว ค่าความสว่างในการใช้หน้าจอก็ถือเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เครื่องร้อนได้เช่นกัน ยิ่งเปิดแสงเยอะ ยิ่งใช้แบตเตอรี่มาก เครื่องยิ่งร้อน ดังนั้นจึงควรปรับลดค่าความสว่างให้อยู่ระหว่าง 0-60% จึงจะดีที่สุด
4.ปิดการใช้งานระบบนำทาง GPS
สำหรับฟีเจอร์ GPS ที่มีมาให้ในตัวเครื่องนั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เครื่องร้อนอย่างปฏิเสธไม่ได้ หลักการเช่นเดียวกันกับการใช้งาน Smartwatch ที่หากเปิด GPS ไว้ตลอดเวลาก็จะทำให้แบตหมดไวและเครื่องร้อนแบบ 2 in 1 ซึ่งวิธีการจัดการก็ง่าย ๆ เพียงปิดระบบ GPS สำหรับแอปพลิเคชันที่ไม่ต้องการใช้งาน เลือกเปิดเฉพาะแอปพลิเคชันที่สำคัญต่อความปลอดภัย เช่น Health หรือ Google Map เป็นต้น วิธีการปิดระบบ GPS ตั้งค่า ดังนี้ Settings > Privacy > Location Services
5.เปิดการทำงานโหมด Save Battery
หากคุณอัปเดต iOS 15.4 แบตไหลจนหงุดหงิดแต่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย เราขอแนะนำให้คุณเปิดใช้งานโหมด Save Battery ให้ตัวแบตเตอรี่เป็นสีเหลือง ซึ่งเจ้าฟีเจอร์นี้จะไปปิดการทำงานแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น ทำให้ช่วยเซฟแบตเตอรี่ได้ไม่มากก็น้อย ถือว่าเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเซฟแบตเตอรี่ยามจำเป็น วิธีการเปิดการตั้งค่า ดังนี้ Settings > Battery > Low Power Mode
6.เปลี่ยนเคสสมาร์ทโฟน
หากทำตามคำแนะนำด้านบนแล้ว iOS 15.4 แบตไหลยังไม่หยุด แถมเครื่องร้อนจี๋จนต้องวางน้องไว้เฉย ๆ เราขอแนะนำให้คุณเปลี่ยน เคส เพราะความร้อนนั้นอาจเกิดขึ้นเคสสมาร์ทโฟน ดังนั้นจึงควรเลือกเคสที่สามารถระบายความร้อนได้ มีความบางแต่ใช้วัสดุที่ทนทาน ทนแรงกระแทก และรอยขีดข่วน ซึ่งการปรับเปลี่ยนเพียงเท่านี้ก็อาจช่วยลดปัญหา iPhone เครื่องร้อนได้อย่างง่ายดาย
สำหรับใครที่ยังเป็นกังวลเรื่องอัปเดต iOS 15.4 แบตไหล เครื่องร้อนไม่หยุด อาจจะต้องรอเวลาให้แอปพลิเคชันและฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ปรับตัวเข้ากับ iPhone ของคุณก่อน เชื่อว่าหากใช้งานไปเรื่อย ๆ อาจมีความเสถียรมากขึ้น แต่สำหรับใครที่พบปัญหาว่าแบตเตอรี่ลดไวผิดปกติ อย่าลืมเข้าไปเช็กที่ Battery Health กันหน่อย หากพบว่าแบตเตอรี่อยู่ที่ 70-100% ถือว่าแบตเตอรี่ยังปกติใช้งานได้ดีตามมาตรฐาน แต่หากต่ำกว่า 60% เมื่อไหร่ล่ะก็ ขอแนะนำให้ตรงเข้า iCare เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้ไว! หวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณแก้ปัญหา iOS 15.4 แบตไหล และแก้ปัญหาเครื่องร้อนได้ด้วยตัวเองไม่มากก็น้อย
