อุปกรณ์เสริมที่เป็นหนึ่งในปัจจัย ที่จะช่วยให้เราเติมเต็มแบตเตอรี่ให้แก่อุปกรณ์เสริมอย่าง สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ นั่นก็คือ หัวชาร์จ ที่วันนี้เราจะขอมาพูดถึง หัวชาร์จเร็ว หลากคนอาจจะยังไม่รู้ว่าหัวชาร์จเร็วมีกี่แบบ และแตกต่างกับหัวชาร์จปกติอย่างไร แล้วเราจะเลือกซื้อใช้งานอย่างไรให้เหมาะกับอุปกรณ์ วันนี้ Mercular.com จึงขอแนะนำ หัวชาร์จเร็ว พร้อมเทคโนโลยีที่ชาร์จไว ที่จะมาตอบโจทย์ใครหลาย ๆ คนถึงข้อสงสัยในวันนี้

หัวชาร์จเร็วส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับระบบชาร์จเร็วต่างๆ ที่แบรนด์ผู้ผลิตต่างหันมาพัฒนาหัวชาร์จเร็ว เพื่อให้รองรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ ที่ออกมาในทุกปี บางแบรนด์ก้ยังเลือกใช้ระบบชาร์จเร็วแบบมาตราฐานทั่วไปอยู่ บางแบรนด์ผู้ผลิตก็คิดเทคโนโลยีมาใหม่เพื่อที่สามารถใช้งานกับแบรนด์สมาร์ทโฟนของผู้ผลิตเองเท่านั้น ระบบการชาร์จเร็วจะเป็นการจ่ายไฟเข้าสู่แบตเตอรี่ด้วยการเพิ่มแรงดันไฟฟ้า (V) หรือ โวลต์ หรือเพิ่มกระแสไฟฟ้า (A) หรือ แอมป์ เข้าไปเพื่อทำให้แบตเตอรี่เครื่องของเราเต็ม ยิ่งถ้าเราเลือกใช้งานเป็นหัวชาร์จเร็วก็จะช่วยลดเวลาในการชาร์จลงไปได้เยอะเลยทีเดียว แต่การที่จะชาร์จใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เราควรเลือกใช้งานควบคู่กับสายชาร์จเร็วที่รองรับด้วย เพื่อที่ว่าจะช่วยส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เร็วที่สุดในการชาร์จแบตเตอรี่นั่นเอง

ก่อนการใช้งาน ควรเลือกหัวชาร์จเร็ว ที่สมาร์ทโฟนของเรารองรับ เพื่อไม่ทำให้เราเสียเงินไปฟรี ๆ

หลายคนอาจจะงงว่าเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว ก็คือ การชาร์จเร็ว จะแบบไหนก็ชาร์จใช้งานได้เหมือนกันหมด แต่ความเป็นจริงแล้ว การใช้งานแตกต่างกันมาก เราควรเลือกหัวชาร์จเร็วให้เหมาะสมกับอุปกรณ์เสริมที่เราใช้งานอยู่ หากเราใช้งานไม่ถูกต้อง จะส่งผลทั้ง การชาร์จที่ไม่ได้ประสิทธิภาพ ไม่ได้รวดเร็ว พร้อมยังส่งผลเสียต่ออุปกรณ์สมาร์ทโฟนของคุณอีกด้วยนะครับ 7 เทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่ได้รับความนิยม พร้อมคุณสมบัติที่แตกต่างกันทั้ง การชาร์จ การจ่ายไฟ รวมไปถึงเทคโนโลยี

วันนี้จึงอยากมาแนะนำ เทคโนโลยีชาร์จเร็ว ในหัวชาร์จเร็ว ที่คนนิยมเลือกใช้ ตอนนี้มีอะไรบ้าง?

 1.PD หรือ Power Delivery ระบบการชาร์จเร็ว ที่แบรนด์ผู้ผลิตอย่าง Apple เลือกใช้เทคโนโลยีนี้ โดยสามารถจ่ายไฟให้แก่อุปกรณ์ตั้งแต่ 15W ไปจนถึง 100W ไม่ว่าจะเป็น iPhone, iPad/iPad Pro รวมไปถึง MacBook หลาย ๆ รุ่นที่รองรับ โดยที่จะใช้งานร่วมกับสายชาร์จที่มีมาตรฐาน MFi จากทาง Apple ทั้ง สาย Lightning to USB ทั้งแบบหัว USB-A และ USB-C นอกจากจะชาร์จใช้งานตัวเครื่องแล้ว ยังสามารถ Sync ข้อมูลได้อีกด้วย

2.QC หรือ Quick Charge ระบบการชาร์จเร็วจาก Qualcomm เป็นการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนมีที่ชิป Qualcomm Snapdragon และหัวชาร์จที่รองรับเทคโนโลยี QC เท่านั้น ปกติแล้วเทคโนโลยี Quick Charge QC 2.0/3.0 จะชาร์จสูงสุดได้ 18W แต่ในปัจจุบันระบบ Quick Charge ได้ถูกพัฒนาไปถึงรุ่น 4 แล้วการทำงานของระบบ Quick Charge 4.0 จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 28W ถือว่าเป็นการจ่ายไฟที่สูงมากทำให้การชาร์จไฟไได้อย่างรวดเร็ว แบรนด์ที่เลือกใช้ ได้แก่ Samsung, HTC, LG, Sony, Google และแบรนด์อื่นๆ เป็นต้น

3.Fast Charging หรือ Super Fast Charging คุณสมบัติชาร์จเร็ว ที่ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่รองรับ AFC (Adaptive Fast Charging), USB PD (Power Delivery) 2.0 หรือ QC (Quick Charge) 2.0 แบรนด์ที่รองรับเทคโนโลยีนี้อย่าง Samsung จะชาร์จแบบเร็วแบบปรับอัตโนมัติ Adaptive Fast Charging ที่จ่ายไฟได้สูงสุด 9V/2A 18W แต่ก็ต้องใช้งานกับอุปกรณ์ชาร์จที่รองรับมาตรฐานนี้เท่านั้น แต่ในตอนนี้ได้มีการอัพเกรดตัวเครื่องที่มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มาขึ้นทำให้การชาร์จพัฒนาไปรวดเร็ว รองรับการชาร์จด้วยกำลังไฟสูงสุด 25W แต่จำเป็นต้องใช้อแดปเตอร์ชาร์จแบบพิเศษที่จ่ายไฟ 10V/4.5A (45W) นอกจากนี้ยังมี Super Fast Charge ระบบการชาร์จเร็วที่พัฒนาโดย Huawei ที่จะใช้กับอุปกรณ์ของ Huawei จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 40W ต้องใช้งานร่วมกับหัวชาร์จ สายชาร์จของ Huawei และสมาร์ทโฟนที่รองรับเทคโนโลยีนี้เฉพาะเท่านั้น 

4.Huawei SuperCharge เทคโนโลยี SuperCharge Protocol (SCP) จาก Huawei ที่จะจ่ายไฟสูงสุดถึง 20W เป็นกำลังกระแสไฟฟ้าครึ่งหนึ่งที่ SCP Gen.2 ใช้อยู่ ถ้าเป็นรุ่น Huawei P30 จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 20W ส่วน SuperCharge Protocol จะอยู่ในรุ่น P30 Pro จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 40W เรียกได้ว่าเป็นการชาร์จที่รวดเร็ว สำหรับผู้ใช้งาน Huawei

5.Oppo Flash Charge หรือ VOOC Flash Charge เป็นเทคโนโลยีชาร์จเร็วที่ถูกพัฒนาจากแบรนด์ Oppo อย่างเทคโนโลยี SuperVOOC 2.0 ที่จ่ายไฟสูงสุด 65W, VOOC Flash Charge การชาร์จไร้สายจะจ่ายไฟสูงสุด30W และ VOOC 4.0 ชาร์จเร็วแบบมีสายจะจ่ายไฟที่ 30W จึงส่งผลทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่ให้แก่สมาร์ทโฟนสั้นลง

6.OnePlus Warp Charge เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยแบรนด์ OnePlus ที่รองรับการชาร์จไฟได้ถึง 30W และในรุ่นใหม่ๆ รองรับสูงสุดที่ 65W ทำให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ขนาด 4,500mAh โดยใช้เวลาแค่เพียง แค่ 35 นาทีเท่านั้น

 7.Xiaomi HyperCharge เทคโนโลยี HyperCharge จากแบรนด์ Xiaomi ที่ถูกพัฒนามาเพื่อ ใช้งานกับสมาร์ทโฟนตระกูล Mi ซึ่งเทคโนโลยี HyperCharge ที่ทางแบรนด์เคลมว่า ชาร์จแบตเตอรี่จาก 0% ไปถึง 100% จะใช้เวลาเพียงน้อยนิดแค่ 8 นาทีเท่านั้น

เป็นอย่างไรกันบ้างกันบ้างครับ กับบทความ หัวชาร์จเร็ว พร้อมเทคโนโลยีที่ชาร์จไว ที่เรานำมาแนะนำกัน นอกจากนี้ยังมีวิธีการเลือกหัวชาร์จเร็ว พร้อมทั้งแนะนำวิธีการเลือกหัวชาร์จเร็วยังไงให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่เราใช้อยู่ ช่วยตอบโจทย์ให้ใครหลายๆ กันบ้างไหมเอ่ย นอกจากแบรนด์ที่เราคัดมาให้เลือกจากด้านบนแล้ว ยังมีแบรนด์อุปกรณ์เสริมยอดนิยมอื่น ๆ อีกมากมายอย่าง Anker, Aukey, Uniq, ZMI, OCTAVE, Remax, Feeltek  และ Huawei เป็นต้น สุดท้ายแล้วเรา Mercular.com อยากให้ผู้ใช้งานเลือกหัวชาร์จเร็ว ที่เหมาะสมกับการใช้งาน และตรงตามกับอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานอยู่เพื่อจะส่งผลให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือได้ว่าเป็นการลุงทุนครั้งเดียวใช้งานไปได้อีกนานแน่นอนครับ