หูฟังเกมมิ่งเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเกมเมอร์ ซึ่งสิ่งที่แตกต่างจากหูฟังที่เน้นฟังเพลงโดยปกติคือจะมีติดตั้งไมโครโฟนมาด้วยเสมอ โดยที่การเล่นเกมนั้นจำเป็นจะต้องการ Input ของเสียงโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นเกมแบบ Multiplayer หรือต้องอาศัยการช่วยเหลือของผู้เล่นหลายๆ คนที่จะต้องช่วยกันผ่าน และยิ่งเกมนั้นมีความท้าทายหรือ Game Mechanics ที่ต้องอาศัยการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนั้นจะช่วยในการเล่นเกม

ในส่วนของเรื่องเสียงจากหูฟังเกมมิ่งนั้นจะสามารถแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะใหญ่คือสายเล่นเน้นความบันเทิงให้เสียงที่ฟังแล้วสนุกมี Effect ฉากต่างและเบสที่ถึงใจ และอีกแบบคือสายสำหรับแข่งขัน (Competitive) ที่จะเน้นความแม่นยำของเสียงและไมค์คมชัดในการสื่อสารที่ทำให้วางแผนการเล่นใน Team ได้เป็นอย่างดี

ในส่วนของบทความนี้นั้นเราจะมาแนะนำหูฟังรุ่นที่ดีที่สุดมาแนะนำ ซึ่งตอบโจทย์ในกลุ่มลูกค้าในแต่ละกลุ่ม ของการเล่นเกมในรูปแบบนี้โดยทาง Mercular.com จึงขอรวบรวมและจัดอันดับ รวมหูฟังเกมมิ่งที่ดีที่สุดในปี 2021 - The Best Gaming Headset ซึ่งได้เลือกสรรจากทีมงานที่เชี่ยวชาญและเข้าใจเกมเมอร์เป็นอย่างดีว่าตัวไหนคือที่สุดของอุปกรณ์ประเภทนี้

"หูฟังเกมมิ่งที่ใส่สบายที่สุด"

หูฟังเกมมิ่งราคาไม่สูงที่สามารถใช้งานได้ครบไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกมหรือฟังเพลงก็สามารถทำงานได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะราคาไม่ได้สูงมากแต่ก็มีระบบเจ๋งๆ หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นระบบไมค์ระบบตัดเสียงรบกวนที่มีประสิทธิภาพและยังสามารถถอดออกมาเก็บได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน หรือระบบเสียง Surround Dolby 7.1 เมื่อใช้งานร่วมกับ Sound Card ที่มาในกล่อง และทีเด็ดที่สุดของหูฟังตัวนี้คือการสวมใส่ ที่ออกแบบ Earcup ขนาดใหญ่สวมใส่สบายและยังมีน้ำหนักที่เบาอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยน Earpad ระหว่างหนังและผ้ากำมะหยี่ ได้ตามความชอบของผู้ใช้งาน

ในเรื่องของการใช้เล่นเกมแบบ Competitive นั้นทำได้ค่อนข้างดีในหูฟังระดับราคานี้ เนื่องจากทิศทางของเสียงทำได้ดีเลยและกว้างพอตัวทำให้การจับทิศทางของเสียงนั้นง่าย โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับ USB Soundcard Dolby 7.1 แล้วจะช่วยในเรื่องของตำแหน่งและทิศทางมาอีกระดับเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเสียงทิศทางของกระสุนหรือเสียงเท้านั้นก็ชัดเจนและแยกได้ง่ายขึ้นไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเกมแนว FPS หรือ Open World นั้นจะต้องถูกใจหูฟังตัวนี้แน่นอน นอกจากจะให้เสียงที่ดีมากๆ ในราคาไม่สูงแล้วยังสวมใส่สบายเล่นเกมนานๆ ได้ไม่เมื่อยคอและเจ็บหูและยังเลือก Earpad ได้อีกต่างหากแบบนี้ไม่มีไม่ได้แล้ว!

"หูฟังเกมมิ่งระบบเสียง 7.1 จำลอง ที่ดีที่สุด"

หูฟังเกมมิ่งไร้สายที่ปรับปรุงมาจากหูฟังเกมมิ่งยอดนิยมอย่าง HyperX Cloud II เปลี่ยนรูปแบบการเชื่อมต่อจาก 3.5mm มาเป็นหูฟังแบบไร้สายเต็มตัวโดยที่ไม่ใช่เปลี่ยนแค่รูปแบบการเชื่อมต่อเท่านั้น โดย HyperX Cloud II Wireless ได้มีการ Upgrade ในหลายๆ เรื่องไม่ว่าจะเป็นระบบ Surround Dolby 7.1 ที่ผ่านการ Process เสียงในตัวโดยที่ไม่ต้องผ่าน Sound Card อีกต่อไป ทำให้ระบบสามารถทำงานได้โดยไม่จำกัดเฉพาะ PC เท่านั้นแต่ยังรวมไปถึงการใช้งาน Console อย่าง PlaySation หรือ Xbox อีกด้วย นอกจากนี้ยังเป็นตัวที่ Set-Up Software น้อยมากด้วยระบบ Plug & Play ที่เสียบ Dongle เข้ากับอุปกรณ์ที่ต้องการเชื่อมต่อก็ใช้งานได้ทันที

ในส่วนของเสียงนั้นก็ได้มีการ Upgrade ให้เหมาะกับเกมแนว Competitive มากขึ้นด้วยเสียงที่สะอาดกว่ารุ่นปกติจึงทำให้การจับตำแหน่งทิศทางต่างๆ นั้นทำได้ง่ายยิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ไมโครโฟนก็ได้มีการ Upgrade ให้มีความคมชัดมากขึ้นอีกด้วย ทำให้หูฟังตัวนี้คุ้มค่ามากๆ สำหรับผู้ที่ต้องการหูฟังที่สามารถเล่นเกมในระดับที่สูงขึ้นได้เป็นอย่างดีและยังมีการใช้งานที่ง่ายและจบโดยไม่ต้องการอุปกรณ์อื่นก็สามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตั้งแต่แกะกล่องเลยทีเดียว โดยเฉพาะผู้ที่กำลังหาหูฟังระบบ 7.1 ที่ใช้งานได้กับหลากหลายอุปกรณ์นั้นพลาดไม่ได้กับหูฟังเกมมิ่งรุ่นนี้

"หูฟังเกมมิ่งเสียงดี เล่นเกมดี ฟังเพลงเพราะที่สุด"

หูฟังรุ่นล่าสุดจาก Epos by Sennheiser ที่เพิ่งเปิดตัวหู Series ใหม่ในตระกูล H ที่ออกแบบออกมาให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้นและลดความหนาและหนักจากรุ่นก่อนลงและมี Frame ที่บางลงไปอีก นอกจากนี้ในแต่ละรุ่นยังสามารถเลือกได้ว่าจะใช้หูแบบ Closed back หรือ Open back ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีในเรื่องของ Option สีที่มีจำกัดในแต่ละ Model แบบรุ่นก่อนๆ คราวนี้มีมากให้เลือกอย่างจุใจรุ่นละ 3 สีเลยไม่ต้องกำหนดตามรุ่นอีกต่อไป ในเสียงของการสวมใส่นั้นก็ยังมี Earcup ขนาดใหญ่ไม่หนึบหูเช่นเดิมรวมถึงแรงกดที่กำลังพอดีไม่หลวงและแน่นจนเกินไป

ในส่วนของเสียงนั้นเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยด้วยหูฟังแบบ Open Back ที่ทำให้ Driver ทำงานได้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ Close Back ให้เสียงที่เป็นธรรมชาติมากกว่าและยังให้ Soundstage ที่กว้างสุดๆ จึงเหมาะกับการเล่นเกมทุกรูปแบบทั้งให้ความเป็น Competitive ด้วยมิติที่สมจริงและมี Sound Field ที่กว้างรับรู้การเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้ก่อนจึงทำให้ได้เปรียบมากๆ ในจุดนี้ นอกจากนี้ยังให้ความ Immersive ด้วยเนื่องจากหูเปิดให้บรรยากาศ (Ambient) ได้ดีกว่าหูฟังแบบปิด ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากแรงระเบิดหรือเสียง Effect ต่างจนไปถึงดนตรีในเกมได้ละเอียดมากๆ เลยทีเดียว และยังเป็นหนึ่งในหูฟังเล่นเกมตัวหนึ่งที่นำมาฟังเพลงได้ดีมากๆ อีกด้วย จึงทำให้เป็นหูฟังเกมมิ่ง 2022 ตัวหนึ่งที่น่าสนใจและคุ้มค่ามากๆ ในงบนี้สำหรับคนที่ต้องการหูฟังที่เน้นประสิทธิภาพสูงๆ แต่อาจจะต้องเสริมการใช้อุปกรณ์เสริมอย่าง DAC/Amp ช่วยเพื่อให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ทำให้เป็นหูฟังที่เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นคุณภาพเสียงเป็นสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด โดยเฉพาะเน้นทางด้านการฟังเพลงและเล่นเกม

"หูฟังเกมมิ่งดูหนังสนุกที่สุด"

หูฟังเกมมิ่งจากหนึ่งแบรนด์ดังของผู้ผลิต Gaming Gear อย่าง Corsair ซึ่งโดยหูฟังรุ่นนี้นั้นมีจุดเด่นในเรื่องของระบบ 7.1 Surround ที่เข้าถึงง่ายที่สุดในตลาด และยังเป็นหูฟังไร้สายตัวเดียวใน Range ราคานี้ที่รองรับระบบเสียง Surround แบบจำลอง ทำให้เป็นหูฟังที่เหมาะกับการเล่นเกมและดูหนังเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ยังสามารถต่อสายใช้งานได้อีกด้วย (แต่ไม่รองรับระบบ 7.1 ) การเชื่อมต่อไร้สายของหูฟัง Corsair HS70 Pro นั้นใช้การเชื่อมต่อแบบ Wireless 2.4 GHz ที่สามารถเชื่อมต่อกับตัวส่งสัญญาณได้ไกลถึง 12 เมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมี Bandwidth ที่กว้างและ Delay ที่น้อยมากๆ อีกด้วย โดยการใช้งานไร้สายนั้นจะสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 16 ชั่วโมงเรียกได้ว่าสามารถเล่นกันได้แบบทั้งวัน

ในส่วนของเสียงนั้นได้ Tune ให้โทนเสียงที่กำลังเล่นสนุกแต่ก็ไม่ได้ทึบมากจนทำให้กลบรายละเอียดอื่นหรือเสียมิติแต่อย่างใดจึงทำให้เล่นเกมได้ดี หรือแม้แต่การดูหนังก็ให้มิติที่โอบล้อมจำลองการทำงานของระบบ Surround แบบ 7.1 ได้เป็นอย่างดี โดยที่ระบบนั้นไม่ได้จำเป็นจะต้อง Set-Up ผ่าน Software แต่อย่างใด พูดถึง Software นั้นก็ได้มีลูกเล่นในการปรับแต่งต่างๆ ค่อนข้างที่จะเยอะไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งเสียงด้วยระบบ EQ ที่ทำได้ดีมากๆ ปรับได้หลากหลายและทำได้ง่ายอีกด้วย ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่เน้นการเล่นเกมและดูหนังในตัวเดียว

"หูฟังเกมมิ่งสำหรับเกม FPS ที่ดีที่สุด"

Logitech G pro X เป็นตัวหูฟังเกมมิ่งระดับ Flagship ที่ออกแบบมาตอบโจทย์ของผู้ใช้งานทุกระดับตั้งแต่มือใหม่ยันระดับโปร ซึ่งนอกจากจะออกแบบเรียบๆ แต่แข็งแรงและสวมใส่ได้สบายแล้วยังได้เลือกใช้ไมค์จาก Blue ซึ่งเป็นแบรนด์ผลิตไมค์ตอนเดนเซอร์ชื่อดังมาผลิตให้ทำให้หมดห่วงในเรื่องคุณภาพเสียงที่คมชัดบันทึกได้หมดแม้แต่เสียงที่เบา นอกจากนี้ยังมี Sound Card ที่รองรับระบบเสียงแบบ Dolby 7.1 แถมมาให้ในกล่องอีกด้วย

สำหรับเสียงของหูฟังเกมมิ่งรุ่นนี้นั้นจะเน้นในเรื่องของความชัดเจนของเสียงและความแม่นยำของทิศทางต่างๆ มากกว่าส่วนอื่นๆ ทำให้การเล่นเกมโดยเฉพาะแนว FPS นั้นโดดเด่นมากๆ ไม่กว่าจะเป็นเสียงฝีเท้าหรือทิศทางกระสุนที่ยิงมาจากทิศทางต่างๆ นั้นก็สามารถแยกได้อย่างแม่นยำ ถ้าเป็นสายเล่นเกมเน้นความมันเพียงอย่างเดียวก็อาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์สักเท่าไหร่ แต่ก็สามารถจะปรับในเรื่องของ EQ ผ่านทาง Software ที่จะช่วยชดเชยได้บ้าง นอกจากนี้เมื่อใช้ร่วมกับ Sound Card ระบบเสียง Dolby 7.1 แล้วก็ยิ่งช่วยให้มิตินั้นแม่นยำมากยิ่งขึ้นเข้าไปอีกระดับอีกด้วย จึงทำให้เหมาะสำหรับใครที่เน้นการเล่นเกมเพื่อการแข่งขันหรือต้องการประสิทธิภาพในการเล่นเกมต้องตัวนี้เลย

"หูฟังเกมมิ่งไร้สายที่ดีที่สุด"

Logitech G733 Lightspeed สามารถเรียกได้ว่าเป็นฝาแฝดของ G Pro X ที่ออกมาพร้อมๆ กันโดยจุดเด่นของรุ่นนี้นั้นจะเน้นเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อไร้สายระบบ Lightspeed ที่ไม่มี Delay และมีความเสถีรของการส่งสัญญาณที่สูงมาก เรียกได้ว่าการใช้งานไม่ต่างกับหูฟังแบบมีสายเลย อีกหนึ่งจุดเด่นของหูฟังตัวนี้คือมีการออกแบบที่ดูทันสมัยมีการใช้ไฟ RGB มาช่วยให้ตัวหูฟังดูโดดเด่นอีกด้วยและยังสามารถ Sync ไฟกับ Gaming Gear อื่นๆ จาก Logitech ได้อีกด้วย

ในเรื่องของเสียงนั้นจะมีโทนที่ใกล้เคียงกับ G Pro X แต่จะให้โทนที่อาจจะไม่สะอาดเท่าแต่ก็แลกกับแนวที่ให้เสียงที่ฟังง่ายกว่าโดยที่เนื้อเบสจะมีมากกว่าเล็กน้อย ซึ่งทำให้เหมาะกับการเล่นเกมที่เป็นทางด้าน Casual มากขึ้นแทนที่จะเน้นเป็นไปทางแนว Competitive เพียงอย่างเดียว ในอีกส่วนที่ได้ลูกลดจากรุ่น G Pro X คือไมค์จะไม่ได้เป็นคุณภาพขนาด Blue แต่ก็มีคุณภาพที่สูงไม่ว่าจะเป็นความชัดเจนในการพูดคุยหรือรวมถึงระบบตัดเสียง จึงทำให้เป็นหูฟัง Wireless ที่ให้ประสิทธิภาพระดับหูฟังแบบมีสาย สำหรับใครที่มองหาหูฟังเกมมิ่งแบบ Wireless นั้นพลาดไม่ได้กับหูฟังรุ่นนี้

"หูฟังเกมมิ่งไมค์ชัดที่สุด"

หูฟังเกมมิ่งจากแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Razer ที่ผลิตสินค้าที่มีแนวทางของ Product ที่ชัดเจนไม่ว่าจะ Gaming Gear ประเภทไหน ซึ่งหูฟังรุ่นนี้จะใส่ Technology ในเรื่องของไมค์ที่โดดเด่นมากๆ ด้วยระบบ HyperClear ที่นอกจากจะให้เสียงการพูดคุยระหว่างทีมนั้นมีความคมชัดแบบสุดๆ แล้วยังมาพร้อมระบบตัดเสียงรบกวนภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังสามารถตั้งค่าไมโครโฟนเพิ่มเติมได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ Razer Synapse 3 เช่น Mic Boost, Vocal Clarity, Mic Equalizer และ Ambient Noise Reduction

ในส่วนของเรื่องเสียงนั้นในระบบ THX Spatial Audio นั้นจะมีลูกเล่นในเรื่องของการ Tuning เสียงผ่าน Software ในทุกย่านได้ไม่ว่าจะเป็น สูง กลางหรือต่ำ ด้วย Driver แบบ Triforce Titanium ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ Razer โดยใช้แผ่น Diaphragm เคลือบด้วยไทเทเนียม ที่ตอบสนองได้ดีกว่า Diaphragm ทั่วๆ โดยเฉพาะในเรื่องของมวลเสียงเบสที่สะใจแน่นอน นอกจากนี้ทางส่วนของวัสดุซับน้ำหนักนั้นจะใช้เป็น เมมโมรี่โฟม Flowknit ที่นุ่มเป็นพิเศษ และระบายอากาศได้ดีอีกด้วย จึงทำให้เป็นหูฟังรุ่นที่คุ้มค่ามากๆ โดยเฉพาะสาย Chat ที่นอกจากจะใช้สบายแล้วยังมี Feature ที่รองรับกับการคุยโดยเฉพาะ

Audeze เป็นแบรนด์ที่ผลิตหูฟังระดับ High-End ที่ทุกตัวนั้น Made in USA ทุกตัว ซึ่งโดยจุดเด่นนั้นจะเป็นการใช้ Driver แบบ Planar Magnetic ที่ให้เสียงแบบ Life-Like เลยทีเดียวเนื่องจากจะมี Diaphragm ขนาดใหญ่กว่าหูฟัง Dynamic ทั่วๆ ไปถึง 2 เท่าทำให้สร้างแรงดันอากาศได้มากกว่า ส่งผลให้บรรยากาศต่างถูกถ่ายทอดมาเป็นรูปแบบเสียงได้เป็นอย่างดีและมีชีวิตชีวา แต่อย่างไรก็ตามการจะให้หูฟังรุ่นนี้แสดงประสิทธิภาพได้อย่างเต็มที่นั้นจำเป็นต้องมี DAC/Amp หรือ Amp ที่มีแรงขับสูงเนื่องจาก Driver ประเภท Planar Magnetic นั้นต้องการใช้แรงขับที่มาก (ถึงแม้ว่ารุ่นนี้จะขับไม่ยากนักก็ตาม) และน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก ถ้ารับสองข้อนี้ได้ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในหูฟังเกมมิ่งที่ดีที่สุดในตลาดตัวหนึ่งเลย โดยที่ Raw Performance โดยไม่ผ่าน Software ใดๆ นั้นถือว่าสุดจริงๆ ใครที่มองหาหูฟังระดับ High-End ที่ยื่นหนึ่งในเรื่องของเสียงนั้นก็ต้องตัวนี้เลย ถ้ารับกับข้อจำกัดได้จะเป็นหูฟังเล่นเกมตัวจบได้เลย 

Beyerdynamic นั้นเรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกๆ ของโลกเลยที่ผลิตหูฟังออกมาขาย ซึ่งเป็น Brand ที่ได้การยอมรับใน Studio เป็นอย่างมากโดยเฉพาะ หูฟัง Monitor รุ่นโด่งดังอย่า DT770 Pro ที่เป็นรุ่นพื้นฐานของ MMX300 ที่ให้เสียงที่แม่นยำมากๆ นอกจากนี้ยังใช้วัสดุที่แข็งแรงและงานประกอบที่ยอดเยี่ยมโดยจะ Made in Germany ซึ่งงานประกอบนั้นเรียบร้อยสุดๆ และการออกแบบถึงแม้จะไม่หวือหวาแต่ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Earcup หรือ Headband ขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาสำหรับการใส่เป็นเวลานานๆ 

ในเสียงเสียงนั้นด้วยพื้นฐานของหูฟัง Monitor ที่ให้เสียงแม่นยำ รวมถึงมิติของเสียงไม่ว่าจะเป็นเสียงเท้าหรือทิศทางของกระสุนก็ทำได้อย่างแม่น นอกจากนี้ยังได้มีการปรับปรุงการใช้งานเหมาะกับการเล่นเกมด้วยการใส่ไมค์คอนเดนเซอร์คุณภาพสูงทำให้การเล่นเกมนั้นสะดวกและครบเครื่องมากๆ ถึงแม้ตัวหูฟังจะออกแบบมาดียังไงก็ต้องการ DAC/Amp ที่แรงขับสูงระดับหนึ่งถึงจะรีดประสิทธิภาพของหูฟังรุ่นนี้มาให้ใช้งสนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังหาหูฟังเกมมิ่งประสิทธิภาพสูงนั้นจะต้องพิจารณาหูฟังรุ่นนี้มาใช้งานด้วยคุณภาพที่จัดเต็มในทุกๆ ด้านและยังเป็นหูฟังเพียงแบรนด์เดียวที่ยัง Made in Germany อีกด้วย

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้วละก็คงมี Gaming Headset ถูกใจสักตัวแล้วแน่ๆ ซึ่งแต่ละรุ่นที่เลือกเข้ามาในบทความนี้นั้นแต่ละตัวจะมีความโดดเด่นในตัวเองในแต่ละด้านดังนั้นไม่ว่าจะเป็นหูฟัง Gaming Headset ตัวไหนนั้นก็ไม่ผิดหวังแน่นอนไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียงรวมถึงไมค์ในการพูดคุยต่างๆ

นอกจากบทความ Best of Gaming Headset แล้วนั้นยังได้มีบทความ Best of ในหมวดอื่นๆ ที่น่าสนใจที่ทางทีมงานชอง Mercular นั้นได้เลือกสรรค์มาเป็นอย่างดีสำหรับที่กำลังของอุปกรณ์ในหมวดต่างๆ เหล่านั้นมาใช้งานแล้วละก็พลาดไม่ได้กับบทความ Best of ของทาง Mercular ในปี 2021 ได้เลยครับ