Name: ไมโครโฟน HyperX QuadCast
Brand: HyperX
SKU: 1512062000001
Price: 4390.00 THB
Availability: InStock

ไมโครโฟน HyperX QuadCast

วัสดุ / ดีไซน์

9.2

การใช้งาน

9.2

เสียง

8.9

ความคุ้มค่า

9.2

9.1

ข้อดี

เลือกรูปแบบการรับเสียงได้ถึง 4 รูปแบบ
มี Shock Mount มาให้ในตัว

จุดสังเกต

ไม่ต้องใช้แรงกดในการเปิดปิดไมโครโฟน

รีวิว ไมโครโฟน HyperX QuadCast

ชาวเกมเมอร์คนไหนที่กำลังอยากได้ไมโครโฟนสำหรับสตรีมมิ่งที่ตัวเดียวจบ ครบทุกความชัดเจนนั้น Mercular ก็ขอเชิญทุกนั้นมาเจอกับ ไมโครโฟน HyperX QuadCast ที่จะทำให้ทุกการสตรีมนั้นเต็มไปด้วยความชัดเจน เสียงใสเคลียร์ มาพร้อมกับการเลือกรับเสียงได้มากถึง 4 รูปแบบ จึงสามารถเลือกรูปแบบเสียงที่ต้องการได้เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย ไม่เพียงแค่นั้นยังสามารถใช้งานได้ง่ายดายแบบ Plug and Play

Key Highlight

มี Vibration Shock Mount ในตัว
มี Wind Proof ในตัว
ปรับ Polar Pattern ได้มากถึง 4 รูปแบบ
ต่อกับขาไมค์ในไซส์สากลได้ทั้ง 3/8 และ 5/8 นิ้ว
ความถี่ 20Hz–20kHz
คอนเดนเซอร์ 14 มม. สามตัว
ใช้งานได้ทั้งสตรีมมิ่งและอัดเสียง

อุปกรณ์ภายในกล่อง

1x ไมโครโฟน HyperX Quadcast Gaming Microphone
1x สายเชื่อมต่อ Mini USB – USB
1x Shock Mount (รองรับทั้ง 3/8” และ 5/8”)
1x คู่มือการใช้งาน

ข้อมูลเชิงเทคนิค

อัตราสิ้นเปลืองพลังงาน : 5V 125mA
การสุ่มตัวอย่าง/บิตเรต : 48kHz/16 บิต
ส่วนประกอบ : ไมโครโฟนอีเล็คเตรทคอนเดนเซอร์
ประเภทคอนเดนเซอร์ : คอนเดนเซอร์ 14 มม. สามตัว
รูปแบบขั้วสัญญาณ :
สเตอริโอ รอบทิศทาง รับเสียงด้านหน้า สองทิศทาง
ความถี่ : 20Hz–20kHz
ความไว : -36dB (1V/Pa ที่ 1kHz)
ความยาวสาย : 3 มม.
น้ำหนักไมโครโฟน : 254 ก.
น้ำหนักตัวยึดและฐานตั้งกันกระแทก : 364 ก.
รวมพร้อมสาย USB : 710 ก.
ความต้านทาน : 32 Ω
ความถี่ : 20Hz - 20kHz
กำลังขาออกสูงสุด : 7mW
THD : ≤ 0.05% (1kHz/0dBFS)
SNR : ≥ 90dB (1kHZ, RL=∞)

ไมค์สายแคสติ้ง ที่ครอบคลุมการใช้งานที่สุด

รับเสียงได้ถึง 4 รูปแบบ

ไมโครโฟน HyperX QuadCast สามารถรับเสียงได้ถึง 4 รูปแบบ เพื่อการใช้งานได้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Omni-Directional ที่เป็นการรับเสียงรอบทิศทาง Cardioid รูปแบบการรับเสียงในทิศทางเดียว Figure-8 รูปแบบการรับเสียงหน้าหลังเหมือนรับเสียงแบบ Cardioid 2 ทิศทาง และ Stereo การรับเสียงครอสกันซ้ายขวา จึงทำให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายตามที่ต้องการ

ป้องกันการสั่นได้ดีเยี่ยม

เพื่อให้เสียงที่ไมโครโฟน HyperX QuadCast นั้นได้รับอย่างใสสะอาด ตัวไมโครโฟนจึงมาพร้อมกับตัวกันกระแทกสำหรับป้องกันการสั่นสะเทือนในตัว ที่มีข้อดีคือการระงับเสียงที่ดังก้องและกระแทกโดยไม่ได้ตั้งใจด้วยเชือกแขวนยางยืดรอบตัวไมโครโฟน ซึ่งจะเป็นการปกป้องการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี เสียงที่ออกมานั้นจึงคมชัดและใสแจ๋ว

ติดตั้งได้หลากหลาย

เพื่อการใช้งานได้อย่างถนัด ไมโครโฟน HyperX QuadCast นั้นจึงมี Shock Mount มาให้ภายในตัว ที่มีความเหมาะสมกับการนำไปติดตั้งเข้ากับขาไมโครโฟนขนาด 3/8 นิ้วและ 5/8 นิ้ว จึงทำให้ไมโครโฟนตัวนี้สามารถติดตั้งบนขาตั้งไมค์หรือแขนบูมได้อย่างหลากหลาย เพื่อการวางไว้ได้ในทุกที่ของโต๊ะเพื่อความสะดวกในการใช้งาน

เปิดปิดการใช้งานได้อย่างง่ายดาย

ไมโครโฟน HyperX QuadCast มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ด้านบนที่ทำการแตะเพียงนิดเดียวก็สามารถเปิดปิดไมโครโฟนได้เลยทันที พร้อมกับไฟ LED ที่ช่วยแจ้งสถานะการเปิดปิดของไมโครโฟน เพื่อบอกให้รู้อยู่เสมอว่ากำลังใช้งานอยู่หรือไม่

รายละเอียดการใช้งาน ไมโครโฟน HyperX QuadCast

วัสดุ + ดีไซน์

สำหรับตัวไมโครโฟน HyperX QuadCast นั้นมีรูปลักษณ์ทรงกระบอกที่มีขาตั้งติดมาให้เลยพร้อมใช้งานทันทีที่แกะออกมาจากกล่อง ไม่เพียงแค่ขาตั้งเท่านั้นแต่ Shock Mount กันสั่นกับฟองน้ำกันลมก็ถูกติดตั้งมาให้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ไม่ต้องติดตั้งเองให้ยุ่งยาก ทางด้านวัสดุที่ใช้มาทำนั้นก็มีความแข็งแรง ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างคงทน พร้อมกับตัว Shock Mount ที่ติดมากับไมค์อยู่แล้ว สามารถนำไปติดตั้งเข้ากับขาไมโครโฟนขนาด 3/8 นิ้วและ 5/8 นิ้วได้ทันที ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สะดวกมาก ๆ ครับ

พอร์ตการเชื่อมต่อ

ในเรื่องของพอร์ตการเชื่อมต่อนั้น ไมโครโฟน HyperX QuadCast ก็มาพร้อมกับพอร์ต USB Type-C เอาไว้ใส่สาย USB สำหรับการใช้งาน และยังีพอร์ต AUX 3.5 สำหรับใส่หูฟัง เพื่อฟังเสียงของเราตอนที่พูดใส่ไมโครโฟนว่าโอเคหรือไม่อีกด้วย ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งพอร์ตที่มีประโยชน์มาก ๆ ทีเดียวเลยล่ะครับ

การควบคุม

ไมโครโฟน HyperX QuadCast สามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เอานิ้วไปสัมผัสเบา ๆ เท่านั้น โดยระบบการเปิดปิดจะเป็นระบบแบบสัมผัส ไม่จำเป็นต้องจิ้มนิ้วแรง ๆ ลงไปบนตัวไมโครโฟนเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งด้านล่างยังมีตัวปรับ Gain ที่สามารถปรับได้ถึง 5 ระดับ เพื่อเพิ่มหรือลดเสียงได้ตามต้องการอีกด้วยครับ ซึ่งการควบคุมนั้นก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่หมุนไปตำแหน่งความดังที่ต้องการก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว

ฟีเจอร์เด่น

ไมโครโฟน HyperX QuadCast นั้นก็มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นมาก ๆ อยู่นั่นก็คือ การรับเสียงที่สามารถรับเสียงได้สูงสุดถึง 4 รูปแบบด้วยกัน โดยทั้ง 4 รูปแบบนั้นก็จะมีรูปแบบ Omni-Directional ที่เป็นการรับเสียงรอบทิศทาง รูปแบบ Cardioid รูปแบบการรับเสียงในทิศทางเดียว รูปแบบ Figure-8 รูปแบบการรับเสียงหน้าหลังเหมือนรับเสียงแบบ Cardioid 2 ทิศทาง และรูปแบบ Stereo การรับเสียงครอสกันซ้ายขวา จึงทำให้สามารถเลือกใช้งานตามกิจกรรมได้อย่างหลากหลาย จะเอาไปใช้ในการสตรีมก็เข้าท่า จะอัดเสียงลงยูทูปก็เข้าที เรียกได้ว่าเป็นฟีเจอร์ที่ครอบจักรวาลมาก ๆ เลยล่ะครับ อีกทั้งตัวไมค์ยังมีไฟ LED แจ้งการทำงานอีกด้วย ซึ่งหากไมค์กำลังเปิดการใช้งานอยู่ ไฟ LED ก็จะติด แต่หากปิดแล้ว ตัวไฟ LED ก็จะถูกปิดตามไปด้วยครับ

อุปกรณ์ที่รองรับ

สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับของ ไมโครโฟน HyperX QuadCast นั้นก็ครอบคลุมมาก ๆ เพราะสามารถนำไมโครโฟนตัวนี้ไปใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการทั้ง Windows และ macOS รวมถึงเครื่องเล่นเกมอย่าง Playstation, Xbox นั่นเอง

สรุป ไมโครโฟน HyperX QuadCast เหมาะกับใคร ?

HyperX Quadcast Microphone เป็นไมโครโฟนจัดรายการจากค่ายเกมมิ่งยอดฮิตอย่าง HyperX ที่มีกระแสว่าเป็นไมค์ USB ที่ออกแบบมาได้ยอดเยี่ยมที่สุดของปี 2019 เพราะมีทั้ง Vibration Shock Mount และ Wind Proof ในตัว แถมยังปรับ Polar Pattern ได้มากถึง 4 รูปแบบ เรียกได้ว่าเป็นไมค์ที่จบในตัวแทบจะไม่ต้องไปหาอะไรเพิ่มเลย โดยไมโครโฟน HyperX Quadcast จะเน้นการใช้งานที่ยืดหยุ่น จะเป็นไมค์แคสเกมก็ได้ จัดรายการก็ได้ เป็นไมค์สำหรับสัมภาษณ์ก็ได้ เรียกได้ว่ามีความหลากหลายในการใช้งานมาก ๆ ครับ มาพร้อมกับ Shock Mount สำหรับต่อกับขาไมค์ในไซส์สากลได้ทั้ง 3/8 และ 5/8 นิ้ว รองรับการใช้งานควบคู่อุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ด้วยนั่นเอง จึงทำให้ไมโครโฟนตัวนี้เหมาะสมสำหรับเหล่าเกมเมอร์หรือยูทูปเบอร์ที่ต้องการไมโครโฟนไปใช้แคสเกม หรืออัดเสียงในรายการของตัวเองครับ

รีวิวเสียงหลังการใช้ไมค์

รูปแบบการรับเสียง

มาเริ่มกันที่การรับเสียงแบบ Cardioid ที่เป็นรูปแบบการรับเสียงในทิศทางเดียว ที่เสียงนั้นจะคมชัดเพราะว่ารับจากปากเลยโดยตรงไม่มีเสียงจากด้านอื่นมารบกวน ส่วนหากใช้การรับเสียงแบบ Stereo ที่เป็นรูปแบบรับเสียงจะเป็นการรับเสียงครอสกันซ้ายขวานั้นก็จะรับเสียงได้กว้างมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเสียงตรงหน้าที่ออกมาจากปากหรือเสียงจากทางด้านซ้ายและขวาก็สามารถรับได้หมด อันดับต่อมากับรูปแบบเสียง Omni-Directional ที่เป็นการรับเสียงรอบทิศทางนั้นก็จะส่งผลให้เสียงทุกอย่างเข้ามาในตัวไมค์มากยิ่งขึ้น หากมีการใช้งานกันหลายคนเสียงก็จะเข้ามาชัดเจนกันทุกคนที่นั่งรอบตัวไมค์เลยล่ะครับ และรูปแบบเสียงสุดท้ายอย่าง Figure-8 ที่เป็นรูปแบบการรับเสียงหน้าหลังเหมือนรับเสียงแบบ Cardioid 2 ทิศทาง จะสามารถรับเสียงจากด้านหน้าและด้านหลังได้ชัดเจน และไปลดทอนเสียงที่เกิดจากด้านข้างลงไปครับ

เสียงที่ได้ยิน

สำหรับแนวเสียงในการรับเสียงของเจ้า HyperX Quadcast ก็นะเน้นไปที่การเก็บเสียงที่ค่อนข้างมีรายละเอียดดีสามารถรับเสียงได้ในช่วง 20 – 20 kHz และตัดเสียงรบกวนอย่างพวกเสียงพัดลมได้อย่างยอดเยี่ยมครับ เสียงสูงที่ได้จะค่อนข้างใสและเป็นประกาย และโปร่ง สามารถไลฟ์เล่นดนตรีสดได้อย่างสบาย ๆ ครับ ส่วนเสียงกลางกับต่ำจะค่อนข้างอิ่มและอุ่น ช่วยทำให้เสียงพูดของเรามีความชัดเจนฟังง่าย ไม่อู้อี้ เหมาะกับการใช้ในการจัดรายการแคสติ้งต่าง ๆ นั่นเอง ทิศทางรับเสียงต่าง ๆ เมื่อเปิดใช้งานการก็สามารถทำงานได้อย่างเห็นผลครับ การปรับเกนต่าง ๆ ก็ช่วยลดเสียงกระแทกของคีย์บอร์ดเกมมิ่งที่เป็นบลูสวิทซ์ไปได้พอตัว ทำให้การยืดหยุ่นในการใช้งานของมันค่อนข้างสูง ช่วยให้สื่อสารกับผู้ฟังได้ดี

Beyerdynamic Fox vs HyperX Quadcast

โดยพื้นฐานนั้นความถี่ตอบสนองของไมค์ทั้ง 2 ตัวนั้นเท่ากัน รวมไปถึง Sensitivity เองก็ไม่ต่างกันมากครับ มีช่อง AUX สำหรับมอนิเตอร์เสียงทั้งคู่ แต่ Quadcast จะปรับบาลานซ์เสียงหูฟัง กับ PC บนตัวไมค์ไม่ได้นั่นเอง ส่วนไดอะแฟรมรับเสียงของ Beyerdynamic นั้นจะเป็นไดอะแฟรมขนาดใหญ่อันเดียว ทำให้รับเสียงได้มวลที่ทุ้มและแน่นกว่า แต่รับเสียงได้ในรูปแบบ Cardioid เท่านั้น ส่วนของ HyperX Quadcast นั้นจะใช้ Condenser ขนาด 14 มม. 3 ตัว ทำให้เนื้อเสียงที่ได้ออกมานั้นโปร่งกว่าไมค์ Fox เล็กน้อย และสามารถปรับรูปแบบการรับเสียงและช่วง Gain ได้หลากหลายกว่านั่นเอง โดยรวมเสียงของไมโครโฟนทั้ง 2 ตัวออกไปในโทนอุ่นครับ แต่ Fox จะอุ่นกว่าหน่อย ส่วนคุณภาพการบันทึกเสียงเจ้าหมาจิ้งจอก Fox Microphone น่าจะโดดเด่นกว่าครับเพราะมันเป็นไมค์ตัวเดียวในช่วงราคานี้ที่รองรับคุณภาพการบันทึกเสียงในระดับ Hi-res 24-bit 96 kHz เรียกได้ว่าเกิดวันไหนแคสเกมเบื่อ ๆ มาอัดเพลงเล่น ก็ยังได้ครับ เรียกได้ว่าสุดท้ายแล้วไมค์ตัวไหนดีกว่า ก็อยู่ที่รสนิยมและการใช้งานนั่นเอง เพราะสำหรับการจัดรายการทั่ว ๆ ไปนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ความละเอียดเสียงระดับ Hi-res เลยนั่นเอง

ตารางเทียบสเปค

ความละเอียดสูงสุด	16-bit 48 kHz	24-bit 96 kHz
ตอบสนองความถี่	20 – 20 kHz	20 – 20 kHz
รูปแบบการรับเสียง	Omni, Cardioid, Figure-8, Stereo	Cardioid
การเชื่อมต่อ	USB	USB
การปรับ Gain	ปรับได้อิสระโดยการหมุนเพิ่มลดค่า Gain	ปรับได้ 2 ระดับ (สูง-ต่ำ)
อื่น ๆ	Built-in Pop filter, Shock Mount	Wind Shield

สินค้ารุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจ