1. หูฟัง Logitech G333 In-Ear

สำหรับหูฟัง Logitech G333 In-Ear ตัวนี้ก็ถือว่าเป็นหูฟัง In-Ear สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ ด้วยการใช้ Dual Driver ในการขับเสียง ที่ให้โทนเสียงโปร่งฟังง่าย ให้กำลังเสียงกลางและสูงที่มีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถฟังเสียงที่คมชัด ระบุทิศทางได้อย่างแม่นยำ ทำให้การเล่นเกมของเรานั้นโดดเด่นยิ่งกว่าเดิม แถมยังมีตัวแปลง USB-C สำหรับการใช้งานร่วมกับมือถือที่ไม่มีพอร์ต 3.5มม. ทำให้หูฟังตัวนี้ตอบโจทย์ Mobile Gamer แบบสุดๆ อีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว

2. หูฟังเกมมิ่ง Razer Hammerhead Pro v.2

Razer Hammerhead Pro v.2 เป็นหูฟังเล่นเกมมือถือที่เรียกได้ว่าเป็นตำนาน เพราะแม้ว่าจะออกมานานแล้ว แต่ก็ยังเป็นสินค้าขึ้นหิ้งที่พูดถึงไม่ได้ ด้วยแนวเสียงสไตล์ Razer ที่พอดีที่สุด แนวเสียงอุ่นนุ่มฟังง่าย เบสแน่นจัดเต็ม ตามมาด้วยเสียงสูงปลายมน จะเอาไปเล่นเกมก็ได้ความมันจากเสียงเอฟเฟคที่รุนแรง หรือเอาไปฟังเพลงก็เข้ากับแนวตลาดอย่าง Pop-Rock นักแล โดยการสวมใส่ก็ถือว่าใส่บาย ไม่แน่นหูจนเกินไป สายที่ให้มาก็เป็นสายแบนที่มีความทนทานไม่พันกันง่าย แถมราคาเองก็ไม่สูงมากจัดว่าเป็น หูฟังเกมมิ่ง 2022 ราคาถูก ที่เก็บตังนิดหน่อยก็เป็นเจ้าของได้ จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม Razer Hammerhead Pro v.2 ถึงยังเป็นที่นิยม

3. หูฟัง Fantech HG23 Headphone

หูฟัง Fantech HG23 Headphone หูฟังครอบหูเล่นเกมราคาประหยัด ดีไซน์สวยจาก Fantech มีฟีเจอร์การใช้งานสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ วัสดุพลาสติก ABS ยืดหยุ่นเป็นอย่างดี มีน้ำหนักเบาเพียง 287 กรัม ช่วยให้สวมใส่ได้สบายศีรษะ ใช้งานได้ยาวนาน เสริมความสบายด้วยโฟมครอบหูหุ้มด้วยหนัง PU สัมผัสนุ่ม

หูฟัง Fantech HG23 Headphone มาพร้อมไฟ RGB ที่ด้านข้าง ช่วยเสริมบรรยากาศการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนช่วยให้การพูดคุยภายในเกมชัดเจน ไม่ติดขัด สามารถปรับแต่งการใช้งานหูฟัง ตั้งค่า EQ ทดสอบไมโครโฟนและจำลองเสียง 7.1 ได้ผ่านซอฟต์แวร์ ตัวหูฟังเชื่อมต่อผ่านสาย USB โดยสายเชื่อมต่อมีแผ่งควบคุมการเพิ่มลดเสียง เปิดปิดไมโครโฟนและไฟ RGB หูฟัง Fantech HG23 Headphone เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งราคาประหยัด แต่ประสิทธิภาพคุ้มราคา ดีไซน์สวย มีระบบเสียง 7.1 เล่นเกมได้สนุกมากยิ่งขึ้นครับ 

4. หูฟังเกมมิ่ง EGA Type H7

หูฟังเกมมิ่ง Over-Ear EGA Type H7 เป็นหูฟังเล่นเกมราคาถูกโดดเด่นในเรื่องของหูฟัง Budget ที่มีการใช้งานมาให้อย่างครบครัน พร้อมด้วยการออกแบบเป็นทรง Closed-back Headphone รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 ขับเสียงในช่วง 20 - 20,000 Hz สวยงามไฟ LED RGB เสียง 7.1 Surround ไมค์ก้านสำหรับรับเสียงสนทนา และ Software ที่สามารถปรับแต่ง EQ ของตัวเองได้ด้วย แต่ด้วยราคาที่ไม่สูงมาก Performance ด้านเสียงของตัวหูฟัง อาจจะไม่ได้คราฟต์เท่ากับหูฟังเล่นเกมตัวอื่น แต่ก็ให้ความนัวมันสะใจด้วยเสียงเบสลูกใหญ่ ๆ หนัก ๆ ที่ให้ความมันส์และความสะใจในการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี หรือจะเอาไปใช้ดูหนังฟังเพลงก็ไม่ทำให้ผิดหวังตามช่วงราคา เสียงดังฟังชัด เล่นเกมได้หลากหลาย แต่คุณภาพพพเนื้อเสียงอาจจะยังทำได้ไม่สูงมาก เหมาะสำหรับร้าน Internet Café ที่ต้องการของดีราคาถูกไปลง หรือคนที่มองหาหูฟังราคาถูกอยู่นั่นเอง

5. หูฟังเกมมิ่ง Razer Kraken X

Razer Kraken X เป็นหูฟังเล่นเกมราคาถูก ขึ้นชื่อเรื่องการสวมใส่ที่สบาย เพราะนอกจากจะใช้ฟองน้ำ Memory Foam แล้ว ตัวหูฟังยังถูกออกแบบมาให้เบามาก ๆ เพียง 250 กรัมเท่านั้น ทำให้เมื่อสวมใส่ไปแล้วแทบจะไม่เหลือแรงกดบนหัวแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังออกแบบมาให้เป็นมิตรไม่กดทับคนที่ใส่อีกด้วย ในเรื่องการใช้งานเองเจ้า Kraken X ก็ถือว่าครบครัน รองรับการใช้งานเสียง 7.1 พร้อมช่วงเสียง 12 – 28 kHz ที่ถือว่ากว้างกว่าหูฟังทั่ว ๆ ไป ทั้งยังมาพร้อมกับไมค์บูม Crystal Clear ให้การสื่อสารที่คมชัด และรองรับการควบคุมบนตัวเอง โดยแนวเสียงของ Kraken X นั้นจะมีความ Flat กว่ารุ่นอื่น ๆ ในแบรนด์ เนื้อเสียงเลยไม่อึกทึกมาก เน้นให้เบสมาแบบพอดี ฟังสนุกจังหวะได้ และเก็บรายละเอียดเสียงในย่านอื่น ๆ ได้ดีขึ้น 

6. หูฟังเกมมิ่ง HyperX Cloud Earbuds

หูฟัง HyperX Cloud Earbuds ถือว่าเป็นคู่แข่งตลอดกาลของ Razer Hammerhead Pro V.2 ด้วยความที่ทั้ง 2 ตัวนี้ถือว่ามีแนวเสียงที่ตรงข้ามกันโดยสิ้นเชิง แถมออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ทำให้มักจะถูกนำมาเปรียบเทียบกันโดยเสมอ ซึ่ง HyperX Cloud Earbuds ถือว่าเป็นทางเลือกเดียว สำหรับเกมเมอร์ที่อยากได้เอียร์บัดเล่นเกมแม้แต่ในรายชื่อหูฟังเล่นเกม 2021 เองถ้าไม่ข้ามไปเล่นหูฟัง True Wireless ก็แทบไม่มีทรง Earbuds ให้เลือกเปรียบเทียบ ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะเจ้า Cloud Earbuds นั้นมีเสียงที่เทียบเคียงได้ยาก ทั้งเวทีเสียงที่โปร่ง เสียงในช่วงต่าง ๆ มีรายละเอียดดีไม่ล้นเกยกันจนฟังยาก ทำให้แยกแยะเสียงได้ง่าย จับทิศกระสุนได้ดี เหมาะกับเกม FPS เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหูฟังเล่นเกม PUBG หรือ Free Fire 

7. หูฟัง Onikuma K10 7.1 Gaming Headphone

หูฟัง Onikuma K10 7.1 Gaming Headphone หูฟังเกมมิ่งที่ทาง Onikuma ตั้งใจออกแบบมาให้สามารถใช้งาน Cross-Platform ได้หลากหลาย ทั้งบน PC, Mobile Android/iOS, เครื่องเล่นเกม Console PS3/PS4/PS Vita/XBOX/Nintendo Switch ให้เสียง Stereo ด้วยขนาดลำโพง 50mm เสียงใสชัดเจน พร้อมกับไมโครโฟนมีระบบตัดเสียงรบกวน Noise Cancelling และสามารถพับเก็บได้ทำให้ไม่เกะกะพื้นที่ มาพร้อมแสงไฟ RGB ที่สีสวยงาม วัสดุโครงสร้างทำจากอลูมิเนียนแข็งแรง สวมใส่สบาย ปรับขนาดได้ตามศีรษะของผู้สวมใส่ มีปุ่มสวิตซ์ควบคุมทุกอยู่ที่สาย ใช้งานได้อย่างสะดวกเพียงแค่เสียบสาย USB เพราะฉะนั้น หูฟัง Onikuma K10 7.1 Gaming Headphone จึงตอมสนองความต้องการของคุณได้อย่างเต็มที่ครับ

8. หูฟังเกมมิ่ง Logitech G431

หูฟังเกมมิ่ง Logitech G431 7.1 Gaming Headphone ถือว่าเป็นหูฟังที่มีฟังก์ชั่น Surround ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในงบ 3,000 บาท เพราะนอกจากเสียง 7.1 Surround แล้วทางแบรนด์ยังให้ฟีเจอร์เสียงรอบทิศทางอย่าง DTS Headphone X 2.0 ที่เป็นฟีเจอร์ Surround Sound ที่มีความ Cinematic สูง และยังเป็นฟีเจอร์จากค่ายที่ Game Designer ส่วนมากใช้งานเพื่อว่าระบบเสียงรอบทิศทางในเกมของตัวเองอีกด้วย โดยคุณภาพเสียงก็การันตีโดยแบรนด์ระดับโลกอย่าง Logitech เนื้อเสียงมีความกว้าง โปร่ง จากฟองน้ำที่ค่อนข้างใหญ่ เบสให้มากำลังดี มีความบาลานซ์ระหว่างเสียง ต่ำ และย่านกลาง-สูง ทำให้ Performance ในเรื่องทิศทางและมิติเสียงของตัว Logitech G431 นั้นยอดเยี่ยมเป็นลำดับต้น ๆ ของหูฟังเล่นเกมไม่เกิน 3,000 เหมาะมาก ๆ สำหรับคนกำลังมองหาหูฟังดูหนัง หรือเล่นเกม FPS

9. หูฟังเกมมิ่ง JBL Quantum 200

JBL Quantum 200 คือหูฟังเกมมิ่งที่ข้ามสายมาจากค่ายหูฟังลำโพงอันดับ 1 ในไทยอย่าง JBL ทำให้แนวเสียงของมันรับประกับได้เลยว่าเข้าหูคนไทยแบบสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเบสสไตล์ JBL ที่ย่านกลาง-สูง ที่คมชัด ทำให้อรรถรสในการเล่นเกมมาเต็มทุกภาคส่วน พร้อมด้วยไมโครโฟนเกรด Broadcasting ที่จับเสียงได้ดีมาก ๆ ในระดับหูฟังแคสเกมเลยด้วยซ้ำ โดยตัวมันยังมีจุดเด่นเรื่องน้ำหนักเบา ทำให้สวมใส่ง่ายสบายหู แม้ว่าตัว Quantum 200 จะไม่ได้ออกแบบมาเป็นหูฟัง Surround ในตัว แต่ไดรเวอร์เสียง Quantum จาก JBL ทำให้มันทำงานร่วมกับฟีเจอร์อย่าง Sonic Surround ได้เป็นอย่างดี น่าเสียดายที่ตัว Quantum 200 วัสดุจะเป็นพลาสติกทั้งชิ้นทำให้ในเรื่องของวัสดุถือว่าเป็นรองหลายตัวในช่วงราคานี้

10. หูฟังเกมมิ่ง HyperX Cloud Stinger S 7.1

สำหรับหูฟัง HyperX Cloud Stinger S เป็นซีรีย์หูฟัง Low-end ที่ขายดีมาก ๆ จาก HyperX ที่เพิ่งได้อัพเกรดฟีเจอร์เสียง 7.1 ไปได้ไม่นาน ทำให้ความนิยมของมันพุ่งขึ้นสูง สำหรับคนที่มองหาหูฟังเล่นเกมราคาถูกที่รองรับฟีเจอร์เสียง 7.1 นั่นเอง โดยภายในแพคเกจคุณจะได้ตัวหูฟัง และ 7.1 USB Adapter ทำให้นอกจากจะเอาไว้ใช้กับตัวเองแล้ว ในอนาคตคุณอาจจะนำหูฟังที่ราคาสูงขึ้นมาเล่นฟีเจอร์ 7.1 ของ HyperX ได้ด้วยเช่นกัน โดยซีรีย์ Cloud Stringer ของ HyperX นั้นจะเน้นเสียงเบสที่ลึกแน่นกว่าหูฟัง HyperX Cloud ตัวอื่น ๆ ซึ่งใน Stinger S 7.1 ตัวนี้ก็จะมีเสียงเบสที่แน่น ลึก ที่ดีพอสำหรับชาว Bass head ไม่มากก็น้อย โดยใครที่อยากได้หูฟังเล่นเกมเบส หนัก ลึก และมีงบไม่เกิน 3,000 บาท ก็ต้อง HyperX Cloud Stinger S 7.1 ตัวนี้เท่านั้น

11. หูฟังเกมมิ่ง Nubwo X85 Gaming Headset

Nubwo X85 Gaming Headset หูฟังเกมมิ่งราคาประหยัดจาก Nubwo ซึ่งถ้าใครกำลังมองหาหูฟังเกมมิ่งครอบหูที่คุ้มค่าคุ้มราคาแล้วล่ะก็ จะต้องตกหลุมรักหูฟังรุ่นนี้อย่างแน่นอน โดยที่ Nubwo X85 ใช้ไดร์เวอร์ขนาด 50 มม.ที่ชูจุดเด่นอย่าง 7.1 Virtual Surround Sound หรือก็คือระบบจำลองเสียง 7.1 ที่จะมาเพิ่มมิติด้านเสียงให้การรับฟังของทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม, ดูหนัง หรือ ฟังเพลงก็ตาม สำหรับการเล่นเกมอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญ นั่นก็คือการสื่อสารระหว่างเพื่อนร่วมทีม โดยที่หูฟังได้ให้ไมค์ที่มีคุณภาพมา 1 ตัว สามารถปรับองศาได้อย่างอิสระ ซึ่งใช้การรับเสียงรอบทิศทางแบบ Omni - Directional ซึ่งจะให้เสียงพูดมีความคมชัด ผู้ฟังได้รับสารที่สื่อไปได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน

Nubwo X85 ใช้ธีมสีดำเป็นหลัก ได้รับออกแบบมาให้ใส่สบายด้วย Earmuffs ที่มีความนุ่มเป็นพิเศษ ตัววัสดุภายนอกเลือกใช้เป็นพลาสติก ABS คุณภาพดี มีการติดตั้งไฟ RGB มาบริเวณสัญลักษณ์ของ Nubwo ที่ด้านข้างของหูฟังทั้ง 2 ข้าง เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับการใช้หูฟัง สามารถปรับตั้งค่าของเสียงตามที่เราต้องการ ผ่านโปรแกรมเฉพาะ ที่สามารถดาวน์โหลดผ่านทางเว็บไซต์ของ Nubwo ได้ ส่วนการเชื่อมต่อต้องบอกเลยว่าเป็นหูฟังที่ใช้งานง่าย ด้วยระบบ Plug And Play เพียงแค่เสียบสาย USB ก็สามารถใช้งานได้แล้ว

12. หูฟังเกมมิ่ง SteelSeries Arctis 1

สำหรับเจ้า Arctis 1 นั้นเป็น หูฟังเล่นเกมที่เอาเทคโนโลยีของ Arctis 7 มาใส่ในหูฟังที่ใช้วัสดุที่ถูกกว่า พรีเมี่ยมน้อยกว่าเกิดเป็นหูฟังเกมมิ่งรุ่นเล็กที่ทำงานได้เทียบเท่ากับอดีต King of Gaming Headphone ที่คว้ารางวัลมาแล้วกว่า 100 หัว ซึ่งความพิเศษของเจ้า Arctis 1 นั้นอยู่ที่มันสามารถเชื่อมต่อบน Platform ต่าง ๆ ได้หลากหลายรองรับการเชื่อมต่อทั้งกับ PC, PS4, Xbox ไปจนถึงเครื่องเกมรุ่นใหม่อย่าง เครื่องเล่น Nintendo Switch, PS 5 และ Xbox X/S ตราบใดที่อุปกรณ์เหล่านั้นสามารถเชื่อมต่อสายสัญญาณ AUX 3.5 ได้นั่นเอง แม้ว่าตัวหูฟังจะไม่ได้บอกว่ารองรับ 7.1 Surround แต่แฟน ๆ SteelSeries น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่าตัว Arctis ขับเสียงบรรยากาศได้กว้าง แม่นยำ และคมขนาดไม่ว่าจะเสียงลม ใบไม้ปลิว เหยียบใบหญ้า นกบิน เสียงกระสุนพุ่งผ่าน เครื่องบินเหนือหัว และเสียงฝีเท้ารอบข้างก็ยังเก็บมาได้ทั้งหมดสมชื่อราชาของหูฟังเล่นเกมจริง ๆ 

13. หูฟังเกมมิ่ง Razer Kraken X Headphone

Razer Kraken X Headphone หูฟังเกมมิ่ง 7.1 Surround ที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการทำงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในราคาที่เบาสบาย ใครก็จับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ สบายกระเป๋า รองรับการเชื่อมต่อกับ Platform ต่างๆ ที่รองรับ AUX/3.5 mm. ได้ทั้งหมด ทั้ง Switch, Xbox หรือ PlayStation สำหรับการออกแบบตัวหูฟังก็ใช้พลาสติกในการทำโครงทั้งชิ้นทำให้มีน้ำหนักที่เบามากๆ และฟองน้ำของหูฟังเป็น Memory Foam ออกแบบเป็นทรงวงรี นอกจากจะสวมใส่สบายแล้วยังเบามากๆ อีกด้วย ด้วยการใช้วัสดุน้ำหนักเบาเหล่านี้ทำให้มีน้ำหนักเพียงประมาณ 250 กรัมเท่านั้น โดดเด่นด้วยไดรเวอร์เสียง Razer Custom ขนาด 40 มิลลิเมตร รองรับช่วงเสียงกว้างถึง 12 - 28,000 Hz ซึ่งด้วยราคาเท่านี้กับสเปคระดับนี้บอกเลยว่าคุ้มค่าเกินราคาแน่นอน

ก็จบกันไปแล้วกับรายการอัพเดทหูฟังเล่นเกม ปี 2022 ก็อาจจะมีทั้งหน้าเก่าที่ยังอยู่ในบัลลังก์ และก็หน้าใหม่ที่เพิ่งเข้ามาให้คุณทำความรู้จักสลับกันไป แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามหูฟังเล่นเกมทั้ง 13 รายการนี้จะไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอน แต่ก่อนจะจากกันไปในวันนี้ทางเรามีคำจำกัดความสั้น ๆ ของหูฟังราคาถูกมาฝาก เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 13 หูฟังเล่นเกมราคาถูกที่เราเอามาฝากในวันนี้ มีทั้งหูฟังกระแสหลัก และตัวอินดี้ที่คุณอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อนที่เราอยากจะให้คุณลองใช้จริง ๆ ยังก็ตามสำหรับวันนี้ ทางทีมงานก็ต้องขอลาไปก่อนแล้วพบกันใหม่บทความต่อไป สวัสดีครับ