เงื่อนไขการจัดส่ง
หูฟังเกมมิ่ง Planar Magnetic Driver
มาพร้อมระบบเสียง 3 มิติ Wave NX 3D
มีซอฟต์แวร์สำหรับปรับ Presets หูฟัง
รองรับการเชื่อมต่อหลากหลาย
รีวิว หูฟัง HyperX Cloud Orbit Headphone
สรุป หูฟัง HyperX Cloud Orbit Headphone เหมาะกับใคร ?
สำหรับหูฟังเกมมิ่ง Cloud Orbit เกิดจากจากการจับมือกับ Audeze ทำให้ Kingston สามารถใช้งานเทคโนโลยี Planar Magnetic Driver หรือไดร์เวอร์เสียงอันยอดเยี่ยมที่สามารถขับเสียงออกมาได้ชัดเจนและสมจริงที่ได้รับรางวัลมานับไม่ถ้วน โดยเจ้าไดร์เวอร์ตัวนี้สามารถขับเสียงได้อย่างสมจริง และถูกขนานนามว่าเป็นไดรเวอร์หูฟังที่ดีที่สุดในโลก แต่แน่นอนราคาของมันก็ย่อมต้องสูงตามมาอย่างแน่นอน ทำให้หูฟังเกมมิ่งตัวพี่ที่ใช้ Planar Magnetic Driver อย่าง Audeze Mobius มีราคาอยู่สูงถึง 15,900 บาท แม้ว่าจะได้ชื่อว่าเป็นหูฟังเกมมิ่งที่เสียงดีที่สุด แต่ก็ไม่ได้ซื้อง่ายขายคล่อง แต่สำหรับ HyperX ที่ยืมเทคโนโลยีของ Audeze นั้นมองว่าตลาดเกมมิ่งนั้น ควรจะมีราคาถูกกว่านี้ ทำให้เจ้า Cloud Orbit มีราคาเพียง 9,900 บาทเท่านั้น ! ทำให้มันเป็นหูฟังเล่นเกม Planar Magnetic Driver ที่ถูกที่สุด และยังมีราคาที่ไม่ถึงหมื่นบาทอีกด้วย !
สัมผัสเสียงจากไดรเวอร์ที่ดีที่สุดในโลก ด้วยงบไม่ถึงหมื่น
หูฟัง Planar Magnetic Driver ราคาประหยัด
สำหรับเจ้าหูฟัง Cloud Orbit นั้นจัดว่าเป็นหูฟัง Planar Magnetic Driver หรือไดรเวอร์ขับเสียงที่ดีที่สุดในโลก ในซีรีย์ที่ถูกที่สุดตอนนี้ ซึ่งราคาของมันจะแตกต่างจาก Cloud Orbit S 2,000 บาทโดยการตัดเอาการใช้งาน Head tracking ออกไป ตัวของมันแม้ว่าจะตัดฟังก์ชั่น Head Tracking ออกไปแล้ว ก็ยังให้เสียงบรรยากาศระดับ 3D ยังคงการชับเสียงบรรยากาศที่แม่นยำ และโดดเด่น เอาไว้ไม่แพ้หูฟัง Planar Driver 2 ตัวบนเลยนั่นเอง หากไม่ได้สนใจการใช้งานแบบไร้สายแล้ว เจ้า Orbit ก็ถือว่าเป็นหูฟังที่ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบเสียงที่แม่นยำและเป็นกลางมาก ๆ และแม้ว่าจะไม่สามารถใช้งาน Wave Tracking Function ได้แต่มันก็สามารถใช้ Software HyperX Orbit ปรับ EQ ของหูฟังได้จากค่า Presets ที่ถูกกำหนดเอาไว้ได้อีกด้วย
สเปคที่ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น และ Waves Nx อีกหนึ่งเทคโนโลยีเสียงสมจริง
ปกติแล้วนั้นหูฟัง Cloud Series จะมีสเปคที่ค่อนข้างใกล้ ๆ กันมากแต่เจ้า HyperX Cloud Orbit S นั้นมีความแตกต่างชัดเจนทั้งช่วงเสียงที่สามารถทำได้กว้างกว่าตั้งแต่ 10 – 50,000 Hz เรียกได้ว่าให้ความสมจริงแก่ผู้ใช้งานได้แน่นอนไม่ว่าจะเจอกับเสียงแบบไหนนก็ตามรวมไปถึงแรงขับเสียงที่รองรับสูงสุด 120 เดซิเบลให้เสียงที่ดังกระหึ่มสมจริงสมจังขึ้นไปอีกขั้น แถมแฟน Mobile ยังได้เฮกันอีกด้วยเพราะมันสามารถเชื่อมต่อได้ทั้ง USB C, USB A และ AUX 3.5 ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็น PC User หรือ Mobile ก็สามารถใช้งานได้ทั้งคู่ และยิ่งไปกว่านั้นภายในของเจ้า Cloud Orbit ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่อย่าง Waves Nx เทคโนโลยีเสียง 3 มิติที่เหนือกว่าระบบเสียง 7.1 ทั่ว ๆ ไป ทำให้การบอกทิศทางของเสียง และ บรรยากาศความโอบล้อมของเสียงนั้นสมจริงมากกว่าเดิม ทำให้มันเป็นหูฟังที่เหมาะกับเกมเมอร์มากที่สุด
Orbit หรือ Orbit S ?
ความแตกต่าง ระหว่าง Orbit ทั้ง 2 นั้นไม่ได้แตกต่างกันเพียงราคา 2000 บาทเท่านั้น แต่สำหรับเกมเมอร์ที่งบถึงจริง ๆ แล้ว HyperX Cloud Orbit S นั้นน่าสนใจกว่ามาก ๆ เพราะฟังก์ชั่น Head Tracking นั้นทำให้สามารถดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกมได้สนุก เอามาก ๆ แต่ถ้าไม่ได้สนใจเจ้าฟังก์ชั่นนี้แล้ว Orbit ธรรมดา ๆ ถือว่าตอบโจทย์ผู้ใช้งานมาก
การเชื่อมต่อ
- AUX 3.5
- USB-A
- USB-C
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- 1 x หูฟัง HyperX Cloud Orbit
- 1 x ถุงสำหรับพกพา
- 1 x ไมโครโฟน
- 1 x สายเชื่อมต่อ USB C to USB C
- 1 x สายเชื่อมต่อ USB C to USB A
- 1 x สายเชื่อมต่อ AUX to AUX
*ของภายในกล่อง Cloud Orbit และ Orbit S เหมือนกัน
รีวิวเสียง
สำหรับแนวเสียงของเจ้า Orbit นั้นก็ไม่ต่างอะไรกับ Audeze Mobius ครับ เพราะพื้นฐานทั้งไดรเวอร์และการจูนเสียงเหมือนกันทั้งหมด ฉะนั้นเนื้อเสียงหลักจะเน้นไปที่เสียงแฟลตที่มีความเป็นกลาง สามารถขับและลงรายละเอียดเสียงต่าง ๆ ออกมาได้อย่างแม่นยำ และสำหรับเกมเมอร์ที่อยากจะได้เสียงในโทนอื่น ๆ ก็สามารถตั้งค่าได้จาก Presets ที่แถมมาในซอฟต์แวร์ของ HyperX เอง
เสียงเอฟเฟค ในย่านสูงนั้นเนื้อเสียงเป็นประกาย รายละเอียดชัดเจนมาก ถ้าก็เปิดโหมด Flat ไว้จัดได้ว่าใสจนบาดหูเลยทีเดียว สายเสียงเอฟเฟคน่าจะชื่นชอบ ส่วนเสียงเอฟเฟคในย่านต่ำถือว่าเป็นเสน่ห์ของ Planar Magnetic Driver เลยก็ว่าได้เพราะ เบสลงได้ลึก รายละเอียดชัด เก็บตัวไว แรงสั่นสะเทือนต่าง ๆ นั้นมีความละเอียดสมจริงเอามาก ๆ
การระบุทิศทาง ทำได้ยอดเยี่ยม ทั้งเสียงระเบิดและเสียงฝีเท้าชัดสมจริง ทั้งระยะใกล้ไกล และทิศทาง ด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานสียง 3 มิติทำให้มันระบุตำแหน่งได้ละเอียดอ่อนมากขึ้นอีก
เสียงดนตรีและเสียงพูด ก็จะออกไปในโทนฟังสบาย ๆ เสียงชัดไม่อุดอู้ ขับเสียงออกมาได้อย่างชัดเจน ไม่โดนเบสกลบแม้ว่าจะอยู่ในเกมที่มีฉากสงครามและเสียงระเบิดตูมตาม เอาไปเล่นเกมก็ได้ฟังเพลงก็ดี เสียงพูดตัวละคร โปร่งรายละเอียดชัดฟังสบายไม่อุดอู้ ช่วยให้ฟังง่าย
บรรยากาศความโอบล้อม จัดว่าเป็นจุดเด่นของหูฟังตัวนี้ ด้วย Wave NX 3D Surround ทำให้เกิดมิติทั้งทิศทางและความตื้นลึกที่กว้าง มีบรรยากาศของเสียงปกคลุมรอบตัวเหมือนของจริง นอกจากเอาไปเล่นเกมแล้วเนี่ยยังเอาไปดูหนังได้สนุกมาก ๆ โดยรวมแล้วก็มีการใช้งานที่ยืดหยุ่น โดดเด่นในเรื่องบรรยากาศแวดล้อมและเทคโนโลยีเสียงสมจริง
ประเภทหูฟัง
หูฟังครอบหู (Over-Ear)
มีสาย/ไร้สาย
มีสาย
การเชื่อมต่อหูฟัง (Input)
AUX (3.5mm), USB-C, USB-A
ไมโครโฟน
มีไมค์
Headphone Back Type
Closed Back
ซอฟต์แวร์
มี
การตอบสนองความถี่
10 - 50000 เฮิรตซ์